ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:09 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity
บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (วิทยาเขตศาลายา)
ความรู้ทั่วไป[แก้ไข ]
- เป็นมหาวิทยาลัยราชมงคลที่ไม่เล็กที่สุด เมื่อเทียบกับราชมงคลที่อื่นๆ และเป็นราชมงคลที่อายุน้อยที่สุด คือ 12 ปี (2551) แต่ก่อนที่จะเป็นราชมงคลศาลายานั้น เพราะที่นี่ทีแรกตั้งใจจะสร้างให้เป็นวิทยาเขตใหม่ของอุเทนถวาย แต่เด็กศาลายาไม่ยอมให้อุเทนถวายรับน้อง และกลายเป็นว่าในอดีตนั้น เด็กศาลายากับอุเทนถวายไม่ถูกกันเสียด้วย (ปัจจุบันคงไม่เป็นแล้วมั้ง)
- ปัจจุบันความขัดแย้งรุนแรงของเด็กระหว่าง 2 สถาบันไม่มี แต่ความรู้สึก(ไม่ชอบ)ไม่เคยเปลี่ยน เนื่องจากสถาบันเราโดนดูถูกจากเด็กรุ่นใหม่ ๆ ของสถาบันเค้าเยอะ ซึ่งความเป็นจริงแล้วเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย ไม่เคยเลียนแบบใคร แต่ราชมงคลเหมือนกันให้ทําไงวะ -*-
มันเขียนผิดเยอะมากเลยนะ เรื่องไม่ถูกกันเนี่ย รักกันออก ไปที่ไหน บอกมาจากศาลายา พี่เข้ายังเป็นพี่เป็นน้องกันเลยย คนเขียนแม่ง มั่วสุดๆๆ
ผมไม่รู้ว่าคุณได้ข้อมูลเหล่านั้นมาได้ไงแต่ส่วนมากไม่ชัดเจนไม่มีการอ้างถึงแหล่งที่มาของข้อมูลไม่สมควรเชื่อ ศาลายา 01
ศาลายา 02 ขอสนับสนุนอีกแรง ข้อมูลคุณไม่ชัดเจนและไม่ถูกต้อง เรื่องการรับน้องเปนอะไรที่ลึกซึ้ง ขอความกรุณาศึกษาข้อมูลให้ลึกกว่านี้ครับ
ผมว่าคนที่ได้ข้อมูลมามันมั่วมากกว่า ขนาดนับอายุรุ่นยังนับผิดเลย ติน ศาลายา 07 EE 01
การรับน้องของพวกเรา สถาปัตย์ มันมีอะไรลึกซึ้งกว่าที่พวกคุณ รู้มา
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย[แก้ไข ]
- นักศึกษาที่นี่มากกว่า 60% เป็นเด็กใต้ แปลกดีเหมือนกัน เด็กพื้นที่ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
- เนื่องจากความเป็นจริงแล้วคือ เด็กพื่นที่ของทุกพื้นที่ไม่ค่อยอยากเรียนใกล้บ้านหรือละแวกบ้าน มาเรียนที่นี่ อย่าหวังว่าจะได้เห็นความศิวิไลซ์ เพราะว่าบรรยากาศรอบๆ มีแต่ท้องนา นักศึกษาที่นี่เลยหนีไปเที่ยวไหนไม่ได้ แต่ว่าอย่างน้อยที่นี่ก็เป็นต้นทางของรถเมล์ปรับอากาศทั้งสองสาย แม้แต่เด็กมหิดลต้องแย่งกันนั่ง เหอะๆ
- หากลองมองโลกในแง่ดี ถ้าสังสรรค์แถว ๆ ใกล้ ๆ มหาลัย ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
- กองทุนเงินกู้ที่นี่ทําเรื่องยากและลําบากวุ่นวายมากที่สุด และผ่านยากด้วย เพราะนอกจากต้องกรอกเอกสารมากมายบานตะไทแล้ว ต้องมีการให้ผู้ค้ําประกันเซ็นรับรอง และต้องมีลายเซ็นของผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการที่เชื่อถือได้ ฯลฯ ที่เด็ดกว่านั้น ต้องถ่ายรูปสภาพบ้านและครอบครัวแปะติดในเอกสารด้วย (เพื่อให้ทราบว่าลําบากจริงๆ)และยังต้องโดนกรรมการสัมภาษณ์อีกต่างหาก ยุ่งยากพอๆ กับเตรียมเอกสารสมัครเรียนใหม่เลยทีเดียว ฉะนั้นใครที่คิดกู้เอาไปทําอย่างอื่นที่ไม่จําเป็น คิดหนักหน่อยงานนี้
เชื่อหรือไม่?[แก้ไข ]
- ที่ราชมงคล ศาลายา จะมีตึกที่ทันสมัยที่สุดสูสีกะตึกบริหาร (ตึก 6) มองเผินๆ จะคล้ายกับตึกบัญชาการในหนังการ์ตูนญี่ปุ่น และเด็กที่นั่นจะเรียกติดปากว่า "ตึกออเร้นจ์" เพราะว่าเป็นตัวตึกโทนสีส้ม (ถึงแม้ว่าออเร้นจ์จะเปลี่ยนเป็นทรูมูฟแล้ว เค้าก็เรียกกันตึกออเร้นจ์อยู่ดี)เด็กใหม่หรือเด็กที่มาสอบเข้ามันจะไม่ค่อยเข้าใจความหมาย ซึ่งตึกนี้เป็นตึกสําหรับเรียนรวม ห้องประชุมใหญ่ๆ แต่ปัจจุบันนี้เป็นส่วนหนึ่งของคณะวิศวกรรมไปแล้ว แต่ถ้าต้องการใช้ห้องประชุมก็ใช้ที่นี่ได้
- ว่าด้วยตึกออเร้นจ์ ด้วยความที่ตึกนี้เป็นหน้าเป็นตาของมหาลัย (รึเปล่า)ตึกนี้มักจะใช้เป็นสนามสอบเข้าของเด็กมาใหม่เสมอ ทั้งๆ ที่จริงๆ จากปากทางเข้ามหาลัยแล้ว ตึกอยู่อยู่ไกลที่สุด ลึกที่สุดของมหาลัยด้วยเอ้า ไม่เห็นใจเด็กใหม่เลย ทั้งๆที่ตึก8 (ตึกบริหาร)ก็ทันสมัยเหมือนกัน ทําให้ยากลําบากกับเด็กใหม่เป็นอย่างมาก ถ้าเด็กคนไหนรู้ทันว่าตึกออเร้นจ์อยู่ตรงไหน ก็จะบอกให้มอไซต์วินขี่รถเข้ามา แต่ถ้าไม่รู้ทันล่ะก็...เดินขาลากงานนี้ และยิ่งถ้าเด็กใหม่ไปถามทางรุ่นพี่ว่า ตึก6 ไปทางไหน รุ่นพี่ไม่รู้จักหรอกค่ะ ต้องบอกว่าตึกออเร้นจ์
- หอพระสีขาวเล็กๆ ทางด้านหน้าทางเข้าของมหาลัย ใช้เวลาสร้างมากกว่า 2 ปี และหมดงบไปล้านกว่าๆ (แค่เนี๊ยนี่นะ!!) ตอนแรกว่าจะสร้างกลางน้ํา แต่กลายเป็นบนบกซะงั้น
- เค้าว่าเด็กวิศวะโยธา กับเด็กสถาปัตย์นั้นไม่ถูกกัน ทั้งๆ ที่คณะชื่อ คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรม ซึ่งน่าจะเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันมากกว่า เพราะขนาดตึกเรียนของทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังต้องแยกกันเลย
- ก่อสร้าง - ถาปัด ขอปฏิเสธเรื่องขัดแย้งกัน เรียนศาลายามาตั้งแต่ปี 40 รุ่น 3 อ่ะนะ เพื่อนผมถาปัดเยอะแยะ งานวันเกิดสถาบันที่จัดในรั้วทุกปี ถาปัดเป็นคนออกแบบบัตรให้ทุกปีนะ
- อัพเดทหน่อยเเล้วกันรุ่นนี้เก่าไปเล้ว ตอนนี้ถาปัตย์ได้แยกคณะออกมาเเล้ว มีชื่อว่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เเละการออกเเบบ เเล้วก้มีตึกใหม่ที่ใหญ่โต ถึงก่อนตึกออเร้นอีก***อะไรตอนนี้มีตึกใหม่แล้วน่ะตึกคณะวิศวะกรรมศาสตร์อ่ะใหญ่กว่าเยอะตึกเก่าให้สถาปัตย์ไป(อัพเดท 6เมษายน 2554)โดย เด็กEE
- ก่อสร้าง - ถาปัด ขอปฏิเสธเรื่องขัดแย้งกัน เรียนศาลายามาตั้งแต่ปี 40 รุ่น 3 อ่ะนะ เพื่อนผมถาปัดเยอะแยะ งานวันเกิดสถาบันที่จัดในรั้วทุกปี ถาปัดเป็นคนออกแบบบัตรให้ทุกปีนะ
จาก ศาลายา 02 ก่อสร้างและสถาปัต เป็นเพื่อนกันมาจนทุกวันนี้ ไม่ทราบว่าใครที่ทําให้แตกแยกหรือครับ หรือจะเปน สุชาติ ที่ไม่เคยมองเด็กก่อสร้างดีเลย พอได้เปนใหญ่แล้วเสี้ยมเด็กตัวเองหรือเปล่า
- อาจารย์ของสาขาวิชาระบบสารสนเทศ คณะบริหาร จบจากบางมดทุกคน ลองไปถามดูสิว่าจริงมั้ย?
- แต่ก่อนสาขาการการตลาด ขึ้นชื่อว่าเป็นสาขาที่เรียกว่าเป็นเจ้าแม่โปรเจ็กต์ เพราะหลายๆ โครงการสร้างสรรค์โดยเด็กแผนกนี้ และกิจกรรมต่างๆ การตลาดมักได้รางวัลเสมอๆ (ปัจจุบันเสียตําแหน่งให้สาขาบัญชีเรียบร้อยแล้ว)
- ตึกสถาปัตเป็นตึกแรกที่เข้ามาทางประตูหน้ามหาลัยแล้วเจอก่อน เฟรชชี่หน้าใสๆทุกคนที่เดินผ่าน มันจะโดนเด็กคณะนี้ป้อก่อน จีบก่อนเป็นด่านแรกๆ ขอเบอร์ก่อนเป็นเรื่องปกติ อย่าไปคิดไรมาก และมันจะโดนเด็กคณะนี้แกล้งหรือเซอร์ไพร์สอะไรเล็กน้อยเสมอๆ ถือว่าเป็นสีสันของชีวิต
- อย่าคาดหวังอะไรกับห้องสมุดที่นี่มาก ก็คิดดูขนาดหนังสือหมวดคอมพิวเตอร์ที่ใหม่ล่าสุดยังเป็น Window 98 อยู่เลย เก๋ามากๆ บางเล่มยังเป็น Dos อีกตะหาก
- จุดสุมหัว เอ๊ย ชุมนุมกันของเด็กวิศวะคือ ซุ้มโค้กของลุงโอ ซึ่งซุ้มของลุงแกนี่ มีตั้งแต่สากกระบือยันเรือรบจริงๆ ตั้งแต่ของกินของใช้ สมุด เครื่องเขียน ถ่านอัลคาไลน์ แผ่นซีดีและฟล็อบบี้เอก็ยังมีเลยเอ้า ครบวงจรจริงๆ ถ้าใครขาดอะไรมาที่ซุ้มแกได้
- เจ้าหน้าที่ของที่นี่น่ารักมากๆ ทํางานกันดีมากๆด้วย ทุกแผนก(ยกเว้นฝ่ายเงินกู้) โดยเฉพาะฝ่ายทะเบียนนี่สุดยอด ต่างจากมหาลัยอื่นมากๆ ที่มักจะเจอเจ้าหน้าที่หน้ายักษ์ พูดจากสุนัขไม่รับประทาน แถมเรื่องมาก แต่ที่นี่ตรงข้ามเลย นอกจากจะพูดเพราะแล้ว บริการดี ไม่เรื่องมากโยกโย้ และไม่วีนแตกใส่นักศึกษาแล้ว แถมติดตามเรื่อง ทํางานเร็วอีกต่างหาก ได้ใจนักศึกษาไปเต็มๆ
*ข้อมูลข้อนี้ไม่จริงเลย เพระจะมีคนนึงที่อวบ ๆ ในงานทะเบียน ปากจัดมาก ไปติดต่อทีไรก็ต้องโดนด่าโดยที่ยังไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย เลยไม่มีคัยอยากจะเค้าไปติดต่องาน เป็นที่ร่ําลือกันไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
- เด็กที่นี่ ไม่ว่าคณะไหนๆ มักไม่ค่อยสนใจกิจกรรมเท่าที่ควร (ยกเว้นตลาดและบัญชี) ขนาดกีฬาสีทุกปี ถ้ารุ่นพี่ไม่บังคับหรือขู่เช็คชื่อ ก็จะไม่มีใครขึ้นสแตนท์กัน และถ้าพอกล่าวประกาศพิธีเปิดงานจบ เด็กจะลุกลงออกจากสแตนท์ราวกับถูกสั่งทันที แล้วหลังจากนั้นแสตนท์จะโหลงเหลง คนทั้งสแตนท์รวมกันทั้งหมดยังไม่ถึง 30 คนเลย ไม่นับลีดนะ
- หลังสามโมงเย็น มหาลัยจะเงียบสงัดมากๆ เหมือนกับมหาลัยร้างไม่มีคนมาเรียน (ความจริงเด็กกลับบ้านกลับหอหมดแล้ว) ยกเว้นเด็กถาปัตย์ ที่ไม่กลับ จนกว่า พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
- และถ้าเลิกเรียนหลังสามโมงเย็นไปแล้ว ถ้าอยากนั่งรถเมล์กลับบ้านสบายๆ ให้เปลี่ยนมาขึ้นรถเมล์ต้นทางที่หลังมหาลัยเลย อย่าไปขึ้นหน้ามอเด็ดขาด เพราะว่าช่วงเวลานั้น เด็กโรงเรียนมัธยมจะเลิกเรียนกันแล้ว และมาเดินเท้ามาที่มอเพื่อจะได้แย่งที่นั่งเรา ซึ่งระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆ เลย เผลอๆ เด็กพวกนี้ยอมเดินไปหลังมอเพื่อขึ้นที่จุดต้นทางจริงๆ (ทรหดจังไอ้เด็กพวกนี้)มากันไม่ใช้น้อยๆ ด้วย ถึงแม้เราจะอยู่ต้นทางก็อย่าประมาทเด็ดขาด ไม่งั้นเจ้าถิ่นจะอดนั่งไม่รู้ตัว
- รถ ปอ.547 นักเรียน นักศึกษาจะได้ลดค่าโดยสาร 2 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ในเครื่องแบบ และต้องแสดงบัตรนักศึกษาด้วย (อะไรกันวะ)ถึงแม้คุณจะใส่ชุดนักศึกษา และขึ้นที่ต้นทาง แต่ทว่าคุณไม่โชว์บัตรให้เค้าดู เค้าก็จะเก็บราคาเต็มโดยไม่มีการปราณีใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าคุณขี้เกียจต้องมาแสดงบัตรให้กระเป๋าดู คุณก็ยอมเสียค่ารถไปเต็มๆ ก็แล้วแต่คุณ เพราะลดแต่ 2 บาทเอง อาจเป็นเพราะว่า หน้าตานักศึกษาบางคน ไม่บ่งบอกว่าเป็นนักศึกษา
- ตอนนี้อู้ 547 ย้ายแล้ว ครับ ถ้าวัน ใด นั่ง547ไปอาจจะโดนเติม แก๊สหน้าป้ัม ต้องนั่งวิน ทําให้ โดนบวกราคา ระยะทางเพิ่ม T_T (5 บาท)
- นักศึกษาที่เป็นตัวแทนนักกีฬาของมหาวิทยาลัย มีเงินสนับสนุนน้อยมาก เบี้ยซ้อมได้ 20 บาท หรืออาจไม่ได้เลย น้ําก็ไม่มีให้กิน ไม่รู้ว่างบประมาณไปไหนหมดนะ นักศึกษาทําเพื่อมหาวิทยาลัยแต่กลับไม่ได้รับความสนใจ เห็นมีอยู่ครั้งเดียวตอนที่ผ่านรอบคัดเลือก(ด้วยตัวเอง)แล้วก็มีคนมาสวมลอยเดินยืดซะ(ประมาณว่าเพราะข้าประมาณนี้) ถ้าจะเล่นก็เรียกว่าใจรักจริง ๆ เพราะทุกอย่างต้องออกเองหมด มิฉะนั้นจะต้องเจ็บตัวฟรีก็ได้
- เงินกูที่นี้ได้ช้ามาก กว่าจะได้ก็ประมาณเทอมสองแล้ว ก่อนหน้านี้นักศึกษาจะกินอะไรเนี่ยะ
- ตึกที่มหาลัยนี้เกือบทุกตึกต้องมีรูตรงกลาง ไม่รู้ทําไม หรืออาจจะหมายถึงอะไรบางอย่างก็ได้ แล้วก็ต้องมาซ่อมทําหลังคาปิดทีหลัง เปลืองงบประมาณไปอีกเป็นล้าน ไม่รู้คนออกแบบคิดนานหรือเปล่านะ
ธรรมเนียมประเพณี[แก้ไข ]
- ก่อนจะเข้าเรียน ต้องไปไหว้ที่ศาลหรือตราบัวหลวงประจํามหาลัยก่อน ถือเป็นการฝากเนื้อฝากตัว และช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเรียนจบ (อยู่ตรงไหน)
ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล ตระหนักถึงหน้าที่ในการให้บริการแก่นักศึกษาเสมอ เราพยายามที่จะพัฒนารูปแบบวิธีการให้บริการเพื่อให้เกิดความสะดวกและความพึงพอใจแก่นักศึกษามากที่สุด หากมีอะไรที่จะแนะนําและเสนอแนะเพื่อทําการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาแล้ว ฝ่ายทะเบียนและประมวลผล สวท.ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ช่วยกันเสนอแนะผ่านระบบงานทะเบียนกลางก็จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
ความเชื่อ[แก้ไข ]
- ไม่ว่าราชมงคล วิทยาเขตไหนๆ หรือแม้แต่ที่นี่ เค้าบอกกันว่าถ้ายังเรียนไม่จบ ห้ามไปถ่ายรูปกับตราบัวหลวงเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นไม่จบ (รุ่นพี่บอกมา) บัวหลวงอยู่ตรงไหนง่ะ มีแต่บ่อบัวหน้าตึกถาปัตย์ (บัวหลวงที่อยู่ มธร จ้าา)
(เด็ก มทร.เรียกบัวเหล็กค่ะ แต่ปัจจุบันบัวเหล็กได้เปลี่ยนเป็นสีทองไปแล้ว)
เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]
- ทุกๆ ปี เด็กปีหนึ่งของที่นี่ ต้องมีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 1 ศพด้วยอุบัติเหตุ และมักเป็นเด็กของสาขาระบบสารสนเทศ เค้าว่ากันว่าเป็นเพราะไว้ศาลผิดที่(แต่ปัจจุบันแก้ไข และได้ทําบุญสาขาแล้วทุกปี)
- ที่ตึกออเร้นจ์ เค้าว่าผีดุมาก เด็กวิศวะเจอบ่อยมาก เพราะเค้าบอกว่าช่วงสร้างมีคนงานตาย ขนาดกลางวันแสกๆ ลิฟต์ค้างบ่อยมากๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว (โชคดีที่ไม่เคยเจอ) แต่ที่จริงแล้วตึกถาปัตย์ ตะหาก คอนเฟิร์มจากรุ่นหนึ่ง เพราะเป็นตึกแรกที่สร้างขึ้นมาในวิทยาเขตนี้
ตึกสถาปัตไม่ใช่ตึกแรก ที่สร้างในสถาบัน อย่ามั่ว สถาปัต02
- โถ้ มีทุกทีนั้นเเหละ รู้หรือป่าวคําว่า ศาลายา มาจากอะไร?
เมื่อก่อนพื้นที่นี้เคยมีคนเปนโรคห่าตายมากมาย รัฐบาลไม่กล้าเข้ามาช่วยจึงสร้างศาลา เเร้วเอายามาวางไว้ (อันนี้มีคนเล่าให้ฟังมา)
ไม่ัง้นเข้าไม่เรียกที่นี้ว่า ศาลายาหรอก
ของกิน[แก้ไข ]
- ที่นี่มีโรงอาหารเพียงแห่งเดียว (จริงๆ)และมีแต่เด็กบริหาร และเด็กวิศวะเท่านั้นที่มากินที่นี่ ยกเว้นเด็กสถาปัตจะไม่เข้ามากินเลย ส่วนมากนั้นจะกินที่ซุ้มโค้ก ซึ่งมีข้าวกล่อง ลูกชิ้น และของกินอื่นๆ (ยังว่ากันว่าตอนนั้น ข้าวกล่องซุ้มโค้กสถาปัตอร่อยกว่าข้าวโรงอาหารหลายร้อยเท่า แถมได้เยอะกว่าด้วยทั้งๆ ที่ราคาเท่ากัน) แต่ก่อนโรงอาหารนั้น อาหารแพงมากๆ ไม่อร่อย แถมแม่ค้าขายข้าวก็สุดๆ ปากจัด เรื่องมาก แถมงกข้าว งกกับ อีกต่างหาก โรงอาหารไม่ค่อยสะอาด แต่ภายหลังได้ให้นักศึกษากรอกแบบประเมินคุณภาพของโรงอาหาร ทําให้พ่อค้าแม่ค้าหนาวๆ ร้อนๆ เป็นแถบๆ แล้วก็ไม่ต้องถามว่าผลหลังประเมินเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าหลังจากนั้นมา โรงอาหารก็สะอาด อาหารก็ลดราคา อาหารก็ถูกปากขึ้น แถมแม่ค้าก็ใจดีมากขึ้น มีการเอาใจถามเอาข้าวเพิ่ม กับเพิ่มมั้ย อีกต่างหาก
ศาลายา 02 ณ.ขณะนั้น โรงอาหารมีเพียง 3 ร้าน ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว และน้ํา รองรับนักศึกษาทั้งหมด เพราะการเดินทางไม่สะดวกจนต้องสร้างทางลัดเข้าไปกินในศิลปากร ด้านหลังโรงอาหาร อีกอย่าง....ซุ้มโค้กยังไม่รู้จัก
หมายเหตุ[แก้ไข ]
- บทความที่เขียนตั้งแต่ปี38-40ไม่เป็นความจริง
บทความที่เขียนตั้งแต่เริ่มเปิดสถาบันไม่เป็นความจริงเลย มั่วมากๆกรุณาอย่าเขียนข้อความที่คิดไปเองเลย สงสารรุ่นพี่เวลาเข้ามาอ่านบ้างเถอะ
ผมเรียน ปวส. รุ่นสุดท้ายของศาลายา เป็นนักศึกษาของแผนกอิเล็กทรอนิกส์รุ่นสุดท้าย ก่อนที่จะยกฐานะเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรม ปัจจุบันนี้แผนกอิเล็กทรอนิกส์ก็แปรสภาพเป็น คณะวิศวกรรมศาสตร์ จาก นักศึกษา ปวส.กลุ่มเล็กๆแค่ 33 คน ปัจจุบันนี้ มีถึง 6 ภาควิชา 1. ภาควิชาวิศวโทรคมนาคม 2. ภาควิชาวิศวสาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์ 3. ภาควิชาวิศวเครื่องมือวัดและควบคุม 4. ภาควิชาวิศวเครื่องกล 5. ภาควิชาวิศวไฟฟ้า 6. ภาควิชาวิศวคอมพิวเตอร์
มีนักศึกษามากว่า 200 คนเป็นเรื่องที่ผมภาคภูมิใจมาก ผมก็ผ่านก็รับน้อง รับรุ่น เหมือนกับคนอื่นๆ มีความรักในสถาบัน..เป็น ปวส. เพียงไม่กี่ที่ในประเทศไทย ที่ ปวส.สามารถรับปริญญาตรี.. ถึงมาหาวิทยาลัยผมจะเปลื่ยน ชื่อมาแล้วไม่รู้กี่ชื่อ ทั้งสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตศาลายา,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตศาลายา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตศาลายา,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ พื้นที่ศาลายา แต่ผมก็ภูมิใจในสถาบันผม กรุณาอย่าเขียนอะไรที่เป็นที่หล่อแหลมเพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนน่ะครับ