ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:04 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity
บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!
มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงครามเดิมชื่อ วิทยาลัยครูพิบูลสงคราม
เรื่องทั่วไป[แก้ไข ]
ประวัติของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีประวัติค่อนข้างยาวนับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2464......
...กว่า 81 ปี ที่เป็นโรงเรียนพิษณุโลกวิทยายนจนถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มีประวัติอันยาวนาน ดังนี้
- พ.ศ.2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนาม โรงเรียนว่า.."โรงเรียนพิษณุวิทยายน" และเสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารําไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงเปิดอาคารเรียนเมื่อวันที่7 มกราคม 2469
๏ พ.ศ.2476 เปิดแผนกฝึกหัดครูหญิงในโรงเรียนสตรีประจํามณฑลพิษณุโลก (ปัจจุบันคือโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี) ๏ พ.ศ.2482 ยุบโรงเรียนฝึกหัดครู "พิษณุวิทยายน" ๏ พ.ศ.2486 แยกแผนกฝึกหัดครูออกจากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนสตรีฝึกหัดครูพิษณุโลก" ๏ พ.ศ.2497 โอนโรงเรียนสตรีฝึกหัดครูพิษณุโลกไปสังกัดกรมการฝึกหัดครู
- พ.ศ.2498 ทางราชการสร้างอาคารใหม่ที่ถนนวังจันทน์ จึงย้ายไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2499 และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โรงเรียนฝึกหัดครูพิบูลสงคราม"
- พ.ศ.2501 ซื้อที่ดินของโรงเรียนการช่างชายทําให้มีพื้นที่ฝั่งวังจันทน์ มีจํานวน 40 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา
- พ.ศ.2502 ได้ซื้อที่ดินกองทัพอากาศ จํานวน 120 ไร่ เรียกกันว่า"โรงเรียนฝึกหัดครูฝั่งสนามบิน"
- พ.ศ.2503 โรงเรียนฝึกหัดครูพิบูลสงครามยกฐานะเป็น "วิทยาลัยครูพิบูลสงคราม พิษณุโลก"
- พ.ศ.2510 เป็นจุดเริ่มต้นของวิทยาลัยครูพิบูลสงครามที่จะขยายสู่ทุ่งทะเลแก้ว
- พ.ศ.2517 เปิดสอนนักศึกษาภาคปกติ ระดับปริญญาตรีวิชาเอกภาษาไทย และวิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก ได้ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก มีผลให้วิทยาลัยครูจะใช้พื้นที่ 120 ไร่ ฝั่งสนามบินมีความยุ่งยากมากขึ้น
---จุดเริ่มต้นของปัญหามากมายที่เกิดขึ้นตามมา--ภายหลังเลยโดนโกงที่ดิน---น่าอาย....
- พ.ศ.2518 เปลี่ยนชื่อตําแหน่งผู้อํานวยการวิทยาลัยครู เป็น อธิการวิทยาลัยครู และขยายพื้นที่ไปที่ทุ่งทะเลแก้ว
- พ.ศ.2519 จัดการศึกษา 2 ระดับคือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง) และระดับปริญญาตรี (ค.บ.)
- พ.ศ.2520 รศ.ดร.มังกร ทองสุขดี อธิการบดี ได้มีการดําเนินการเรื่องที่ดินทุ่งทะเลแก้ว
- พ.ศ.2524 ได้รับอนุมัติจากสํานักนายกรัฐมนตรีให้ใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ทุ่งทะเลแก้ว จํานวน 1,000 ไร่
- พ.ศ.2526 ก่อสร้างถนนเข้าวิทยาลัยครูพิบูลสงคราม ทุ่งทะเลแก้ว
- พ.ศ.2527 เปิดใช้อาคารโรงเรียนสาธิตหลังใหม่ที่ฝั่งวังจันทน์ใช้ชื่อว่า "อนุสรณ์"
- พ.ศ.2529 – 2530 นายวิเชียร เมนะเศวต ดํารงตําแหน่งอธิการวิทยาลัยครูพิบูลสงคราม และในปี 2530 ได้เลิกโครงการอบรมครูและจัดการศึกษาสําหรับบุคลากรประจําการ (กศ.บ.ป.) แทน
- พ.ศ.2532 มีการก่อสร้างอาคารคณะวิชาการเกษตร ศาลาราชมังคลาภิเษก และเริ่มก่อตั้งอาคารอเนกประสงค์ (เวียงแก้ว)
- พ.ศ.2535 รศ.ดร.มังกร ทองสุขดี มาดํารงตําแหน่งอธิการวิทยาลัยครูพิบูลสงคราม และเป็นปีที่เปลี่ยนคําว่า "วิทยาลัยครู" ให้เป็นสากล และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" เป็นชื่อสถาบันการศึกษาในกรมการฝึกหัดครู แทนชื่อ "วิทยาลัยครู"
- พ.ศ.2538 วันที่ 6 มีนาคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน"ตราพระราชลัญจกร" ให้เป็นตราสัญลักษณ์ ของสํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ และสถาบันราชภัฏ 36 แห่งให้มีการเปลี่ยนอธิการเป็นอธิการบดีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง คือ ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์
- พ.ศ.2538 วันที่ 6 มีนาคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน"ตราพระราชลัญจกร" ให้เป็นตราสัญลักษณ์ ของสํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ และสถาบันราชภัฏ 36 แห่งให้มีการเปลี่ยนอธิการเป็นอธิการบดีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง คือ ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์
- พ.ศ.2539 -2540 ศูนย์วิทยบริการย้ายมาจากวังจันทน์ เปิดให้บริการที่ทะเลแก้ว ในวันที่ 3 มิถุนายน 2539 เปลี่ยนการจัดการศึกษา กศ.บ.ป. เป็น กศ.ป.ป. (การจัดการศึกษาสําหรับปวงชนเพื่อปริญญา)
- พ.ศ.2541-2545 รศ.ประวิตร ชูศิลป์ ดํารงตําแหน่งอธิการบดี
- พ.ศ.2546 ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ ดํารงตําแหน่งอธิการบดีแทน รศ.ประวิตร ชูศิลป์ ที่ครบวาระ
- พ.ศ.2547 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 วันที่ 10 มิถุนายน 2547 ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 121 ตอนพิเศษ 23 ก.ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2547 ส่งผลให้มหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่งเป็นนิติบุคคล
- พ.ศ.2549 มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีความชัดเจนทางด้านกายภาพทั้งวังจันทน์และทะเลแก้ว
- พ.ศ.2550 เริ่มใช้อาคารปฏิบัติการคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร และคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม อาคารเรียนรวม และสํานักงานอธิการบดี เริ่มใช้หลักสูตรที่ปรับปรุงให้เป็นหลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูล-สงครามเป็นปีแรก
- พ.ศ.2551 ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ ให้ดํารงตําแหน่งอธิการบดี ต่ออีกวาระหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2551
- กว่า... 81 ปีที่เป็น "พิบูลสงคราม" เป็นองค์รวมของความเคลื่อนไหว กระบวนที่ปรับเปลี่ยน มีแก่นหลักของจิตวิญญาณชีวิตของบุคลากรทุกรุ่น ร่วมก่อสาน และสร้างเสริมให้ "พิบูลสงคราม" มีศักดิ์ศรีมาจนทุกวันนี้......
- สรุปแล้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้เลย...มี 3 วิทยาเขต....
- วิทยาเขต แรก ตรงถนนสนามบิน...รก ร้าง...ไม่รู้ จะ แย่ง อะไร กับ ม.นเรศวร(หัวหมอ)
---ม.นเรสวรมันมาแย่งเราเฟ้ย! เราเปิดมาตั้ง 70 -80 ปีแล้ว ม.นเรสวรเพิ่งมีมาเมื่อไม่ถึง 50 ปีนี่เอง ---แล้วก็เร็วๆ นี้ ที่ส่วนสนามบิน จะย้ายโรงเรียนสาธิตพิบูลฯไปไว้ตรงนั้น เอาว่าให้ติดกะสาธิตมน.(กะว่าจบจากสาธิตฯพิบูล -ประถม ก็ต่อสาธิตมน.-มัธยมเลยทีเดียว)
- วิทยาเขต 2 ที่ติดกับ วิทยาลัยอาชีวะศึกษา.เขาเรียกว่า วังจันทน์..มีคนเรียนน้อย...เป็นพื้นที่ของโรงเรียนสาธิต+บัณฑิตวิลัย
---จริงๆ แล้วมีคนเรียนที่นี่ด้วยนะ ---ครุศาสตร์ ---ภาควิชาดนตรี ---หน้าตา เหมือน วง หิน เหล็ก ไฟ...555.. ---ภาควิชานาฏศิลป์ (สาวน่ารักโคตรๆ) ---สํานักศิลป์ (ม่ายเห็นมันทําไรเลยฟะ??? ---ตอนนี้ล่าสุด มีการสร้างตึกของบัณฑิตวิทยาลัยแล้ว แถมมี AUA ด้วย..ว้าว..Inter ไหมหล่ะ ---ถ้าจะให้ดี ทํา 7 eleven กับ ศูนย์หนังสือ แห่งที่2 ที่วังจันทน์ก็ดีเน้อ ไปสร้างที่ทะเลแก้ว คงได้กําไรหรอก ใครคิดหว่ะ สมองๆๆ อ่ะ..คิดบ้างป่าว อย่าเอาไปเทียบกับ ม.นเรสวร ของเขาคนเยอะ มีหลายคณะ..การตลาดเคยเรียนไหม โหยสมอง...ไม่มีหัวการค้าเลย
- คิดใหม่ทําใหม่ได้แล้ว market share อ่ะไปอ่านบ้างน่ะ..ท่านผู้บริหารทั้งหลาย
- วิทยาเขต 3 ---เรียกว่า ทะเลแก้ว ...ไม่เห็นมี ทะเล เลย
---ก้อไอ้บ่อที่ขุดกว้างๆ ไง นั่นแหละเค้าเรียกว่าทะเลแก้ววว..... ---(ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ เมื่อสมัยก่อนนานมั่กๆมาแล้ว ทะเลแก้วเป็นที่ราบลุ่มน้ําท่วมถึง เป็นบริเวณกว้างตั้งแต่บ้านกร่าง ไกลไปจนถึงท่าทองโน่น เขาว่ากันว่าสามารถเอาเรือเข้ามาได้แน่ะ ---ผู้คนแทบนี้ก้อได้ใช้พื้นที่ทํานาปลูกข้าวมาเรื่อย จนกระทั่งปัจจุบันทุ่งน้ําได้ตื้นเขิน ประกอบกับผู้คนมากขึ้นจึงใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูกบ้านพักอาศัย เวิ้งน้ําเมื่อสมัยก่อนจึงหายไป ผู้เขียนสันนิฐานว่า ---บ่อน้ําในราชภัฎทะเลแก้วนั้นน่าจะเป็นบึงน้ําดั้งเดิม(แต่ขุดเพิ่ม)ที่คงเหลืออยู่มาถึงปัจจุบัน เหลืออยู่แค่นั้นเอง น่าเสียดายมากๆ หวังว่าทางมหาลัยคงจะไม่ถมบ่อไปใช้สร้างตึกนะ เพราะปัจจุบันเป็นแหล่งอยู่อาศัยของนกหลายพันธุ์ และน่าจะเป็นแหล่งน้ําใหญ่เพี่ยงไม่กี่แห่งที่อยู่ในเมือง...Songkwae Magazine By Tak)
- ถ้าเอาไปสร้างตึก เราก็ฟ้องเสื้อแดง ไปประท้วงเลย เอาคืนมาๆๆ สร้างตึกก็ควรสร้างสูงๆๆไปเลย ซัก 15 ชั้น เพราะอีกหน่อย เมืองขยายตัว เนื้อที่น้อย จะมีปัญหาทีหลัง....
- มหาลัยเราดีอย่างหนึ่ง ที่คนยังน้อย แหล่งอบายมุขก็ยังน้อย ไม่เหมือนของม.นเรศวร หลังมหาลัย กลายเป็นแหล่งมั่วสุม
มีแต่พวกทํามาหากินกับนักศึกษา ทําไงได้ มหาลัยใหญ่ ก็ต้องเป็นแบบนี้ ที่ไหนก็คงเหมือนๆๆกัน นักศึกษาก็โตๆๆกันเลย ใครจะห้ามคงยาก
- ปัจจุบัน มีคณะ และอาคารมากมาย สวย สง่า มาก ภูมิใจๆๆๆ แต่ ถ้าได้ ต้นไม้ เยอะๆๆ ก็คงดี
- ท่านไหนมีญาติรวยๆๆ บริจาคที่ให้มหาลัยหน่อย...จะได้สู้ ม.นเรศวร หรือม.ที่อื่นได้บ้าง งบน้อยเหลือเกิน....
- หากท่านใดมีข้อมูลใหม่ๆๆ หรือจะแย้ง โปรดเขียนและแก้ไขได้เลยครับ***
- ผมเป็นคนหนึ่งที่รักมหาลัยแห่งนี้ อยากเห็นการเจริญเติบโตอย่างมากๆๆ เหมือนมหาลัยอื่นอ่ะ....
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย[แก้ไข ]
- มหาวิทยาลัยมีชื่อย่อว่า มรพส. ชื่อย่อภาษาอังกฤาว่า PSRU ชื่อ มหาวิทยาลัยไม่ทราบที่มา...แต่คิดว่า สมัยก่อนน่าจะเอาใจนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น คือ จอมพล ป.พิบูลสงคราม
- หากมีคนถามว่า เรียนที่ไหน ถ้าเราบอกว่า พิบูลสงคราม ส่วนใหญ่ จะไม่รู้จัก เพราะเป็นโรงเรียนมัธยมแถวๆๆดินแดง กรุงเทพฯ โน้น...อันนั้น ชื่อโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ต่างหาก
- เนื่องจากมีประวัติยาวนาน จาก โรงเรียน เป็นมหาวิทยาลัย เกิดการเปลี่ยนแปลง เปิดๆๆ ยุบๆๆ ตามสถานะการบ้านเมืองและนโยบายของรัฐบาลในอดีต..ตั้งแต่ แรกชื่อว่า พิษณุโลกวิทยายน......
- หากถามว่า จอมพลป.พิบูลสงคราม หน้าตาอย่างไง นักศึกษากับอาจารย์ในมหาลัยจะตอบตรงกันว่า...ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าหน้าตาไง... ไม่รู้ว่า อธิการบดีจะรู้จักอ่ะป่าว เพราะไม่มี อนุเสาวรีย์ หรือสิ่งใด แสดงให้เห็นว่า จอมพลป.พิบูลสงคราม หน้าตาไง --เศร้าใจไหมหล่ะ--
- เคยมีคนเสนอให้เปลี่ยนชื่อ มหาวิทยาลัย แต่ อธิการบดีหลายท่านก็ไม่เห็นเปลี่ยน--สมัยนี้ ต้องใช้ชื่อ ให้ติดตลาด เพราะจะทําให้นักศึกษาที่จบไป สามารถหางานได้ง่าย....ชื่อเสียงก็ดัง นักศึกษาก็หางานง่าย...จะได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ไม่ใช่ โนเนม ไร้คนรู้จัก///เศร้าแทน///ไม่ได้ลบหลู่สถาบันน่ะ แต่มันเป็นจริงๆๆ ไม่มีใครรู้จักจริงๆๆๆ จะให้ทําไงอ่ะ
- .....ตอนนี้ มีหลายคณะแล้วน่ะ...หอพัก ก้อปรับปรุงใหม่ หรูหรา...ชอบมากๆๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาเรียกกันว่า เล้าไก่..5555..เป็นหอพักของนักศึกษาชาย....
- ปัจจุบันหอพักที่นี่ให้เฉพาะนักศึกษาหญิง อยู่เท่านั้น ส่วน นักศึกษาชาย ให้หาที่อยู่เอง ตามยถากรรม อิอิ....งบน้อย...ทําไงได้
...ทําไมไม่สร้างให้ผู้ชายอยู่บ้างอ่ะ เอางบไปทําไรกันหมด...คับท่านอธิการรรรบอดี...เหอๆๆ
- ช่วงเวลาปิดเทอม ท่านจะไม่เห็น ร้านอาหาร หรือโรงอาหาร เปิดบริการเลยซักร้าน (ประมาณว่า แม่ค้าก็ปิดเทอม ตาม นักศึกษา)
- ถนนที่เชื่อมต่อไปยังหอพักอาจารย์ หรือ แฟลตอาจารย์ จะปิดเวลา หกโมงเย็น เพราะว่ามีอาจารย์ร้องเรียนว่าเสียงดังรําคาญรถ ผู้บริหารใจดีก็เลยปิดถนน ซะเลย
- โรงอาหารกลางหน้าหอหญิงนั้น ถ้าท่าน ข้อหัวเข่าไม่ดี อย่าคิดไปกินที่นั่น เพราะต้องปีนขึ้นชั้นสอง เดินขึ้นบันไดไปหลายขั้น หุหุ...
...คิดซะว่าออกกําลังกาย ร่างกายแข็งแรง อึบๆๆๆๆ....
- ยามที่ ทะเลแก้ว ชอบเปิดประตู แค่ ครึ่งเดียวตอนกลางคืน น่ารําคาญมากๆ ขับรถชนซะดี มั้ย อิอิ
- ส่วนฝั่งวังจันทน์ ไม่เข้าใจ ตอนกลางคืนจะเข้าจะออกให้ใช้ประตูทางด้านคูเมือง เเทนที่จะให้ใช้ประตูทางริมเเม่น้ําเพราะป้อมยามติดกับประตู เเล้วยามก็ขยันซะเหลือเกิน สุดท้ายคนเข้าคนออกทุกระดับชั้นก็ต้องเปิดปิดประตูเอง เพราะยามมีนโยบายว่าจ้างกุมาหลับใครจะเข้าจะออกจัดการเองโล้ด<<< ยามแก่แล้ว เห็นเถอะ >>>
- สาวคณะครุฯ หน้าตาอ่อนหวาน พูดจาดี ไพเราะ <<< เหมือนนางสาวไทย เราเขารักเด็กอ่ะ >>>
- สาวคณะมนุษย์ฯ โดยเฉพาะเอกนาฏศิลป์ หน้ารัก เพราะ เขาคัดหน้าตา.....อิอิ ส่วนเอกอื่นๆๆ ก็โอเค
- สาวคณะวิทยาการฯ มาดมั่น คล่องแคร่ว แววจะเป็น business women แต่สาวนิเทศ ดูดีๆๆ น่ะว่า เป็นชะนี หรือ อีแอบ ถ้าคิดจะจีบ(ขอเตือน)
- สาวคณะเทคโนเกษตรฯ สวยทึก และ บึน สะเทินน้ําสะเทินบก สาวสวยก็หายากยิ่งกว่างบเข็มในมหาสมุทร เป็นที่หวงแหนของชายคณะนี้
- สาวคณะเทคโนอุตฯ ทึกกว่า เทคโนเกษตร เพราะมีแต่ ทอมบอย กวนโอ๊ยยยย...พูดไม่ดีระวังโดน สาวคณะนี้เต๊ะปากได้ง่ายๆๆ (น่ากลัว)
สาวสวยก็หายากยิ่งกว่าคณะเทคโนเกษตร ต้องงบเข็ม 7 มหาสมุทรรวมกัน ถึงจะหาเจอซักคน เฮ้อ....
- พาหนะยอดฮิตของที่นี่ คือ มอเตอร์ไซด์ ใครไม่มี ก็ ขึ้นรถเมลล์ซิจ๊ะ...ไม่งั้นก็ซ้อนท้ายมอไซด์เพื่อนเอา...เนื่องจากอยู่ซะนอกตัวเมือง
ความเชื่อ[แก้ไข ]
ของคณะมนุษย์ฯ...มีพิธีชิงธง....ใครเข้าพิธีนี้ เรียนจบ ชัวร์ๆๆๆ...แต่อย่าลืมอ่านหนังสือน่ะ ..เฟ้ย...
ไม่อ่านหนังสือ...อะไรที่ศักดิ์สิทธิ์...ก้อ ช่วยท่าน บ่ได้...เฟ้ยยยยยย ....ใครอยู่ปี 1 เขามีพิธีรับน้องใหม่....ให้ชื่อพิธีนี้ว่า รับน้องไข่.... ชอบมากๆๆ ขลังมากๆๆ...ยังเก็บไข่ไว้เลย....เน่าแล้ววว...ตอนนี้....อิอิ...
เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]
ของกิน[แก้ไข ]
- อร่อยทุกร้าน เพราะต้องเดินขึ้นชั้น 2 หมดแรง + หิว..กินอะไรก็อร่อย.555+++
- ส่วนใหญ่นักศึกษาจะไปกินข้างนอกมหาลัยมากกว่า เนื่องจาก มีมอไซด์ขับไปกินข้างนอกจะได้ ไม่ซ้ําซากจําเจ...
- เนื่องจากมหาลัย(ทะเลแก้ว)ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองมาก มีห่างใกล้สุดก็ ท๊อปแลนด์พลาซ่า
เดินห้างเย็นๆๆ กินอาหารไฮโซดีก่า....
- ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาหน้าวัดใหญ่ ก็อร่อยน่ะ แนะนําๆๆๆ ไปกินซะ มีหลายร้าน อร่อยๆๆ ทั้งนั้น...
2559 มีเซนทรัล หน้ามหาวิทยาลัยแล้วนะเออ
อัพเดท 2554[แก้ไข ]
-ร้านข้าวป้าคณะวิทย์ จะมีข้าวไข่เจียวเหมือนจะธรรมดา แต่ถ้าได้ราดน้ําจิ้มลูกชิ้น ของป้าเค้าไปด้วย อร่อยที่สุด ยังมีกับข้าวอีกประมาณวันล่ะ 2 อย่าง แต่ต้องมาก่อน 12.30น. ไม่งันหมดคร้าบ -ร้านป้าเรย์ ก๋วยเตี๋ยวแห้งอร่อยที่สุด ลองไปชิมดู ก๋วยเตี๋ยวจะหมดประมาณ 14.00น. (ตอนนี้ย้ายมาอยู่ ป้าเรย์สาขา2 09/08/2557) -ร้านครัวพุงกาง ข้าวยําเอ็นไก่ทอด สุดยอดแล้ว แต่ทานข้าวร้านนี้ รอนานหน่อย ถ้าหิวจัดๆไม่แนะนํา -ส้มตํา บอกเลยอร่อยทุกร้าน
อัพเดท 2559[แก้ไข ]
-ร้านป้าอุ๊คณะวิทย์กับข้าวอร่อยและราคาเหมาะสมเหมือนเดิม อิๆ -หน้ามหาวิทยาลัยมีเซนทรัลพลาซ่า เดินตากแอร์ ดูหนัง สบายกว่า ม.นเรศวร อีก -มีตึกคณะมนุษย์ หลังใหม่แล้วนะเออ -มี E-library (หอสมุดอิเลคทรอนิคส์) ราคา 300 ล้านด้วยนะ มีทั้งห้อง meeting มีโรงหนัง มีมุม พักผ่อน ไฮโซเหมือนกันนะ
อัพเดทเพิ่มเติม -กําลังจะสร้างอาคารเรียนรวม เพิ่ม มีบรรไดเลื่อนด้วยนะ -สนามกีฬาพระองค์ดําปรับปรุงให้มีมาตรฐานแล้ว
อัพเดท 2557[แก้ไข ]
-ร้านไอติมปุยหิมะ ไอติมอร่อย อยู่แถวประตู 3 ตอนเช้ามีข้าวเหนียวหมูปิ้ง (คนขายน่ารักแอบปลี้มอยู่^^)