ไร้วิทยาลัย:สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

จากไร้วิทยาลัย — ส่วนหนึ่งของโครงการไร้สาระนุกรมเสรี แหล่งรวบรวมเรื่องราวตลกขบขันและบิดเบือนข้อเท็จจริง
ไปยังการนําทาง ไปยังการค้นหา

ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:31 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity

บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!

ประวัติ[แก้ไข ]

เริ่มก่อตั้งจากโรงเรียนสําหรับฝึกนักเรียนโทรคมนาคม ที่ จ.นนทบุรี ต่อมาได้ย้ายเข้ามาใน กทม. (อยู่ชานเมือง หรือเรียกได้ว่าเกือบจะตกแผนที่ กทม.อยู่แล้ว) และเปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นักศึกษามักเรียกสั้นๆว่า "ลาดกระบัง" โดยมีการเปิดการเรียนการสอนคณะแรกคือ คณะวิศวกรรมศาสาตร์ สาขาโทรคมนาคม ผ่านมาหลายปีก็ได้ขยายจนมีหลายวิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตชุมพร เป็นต้น และเจริญก้าวหน้าดังเช่นปัจจุบันจริงๆนะ มีเนื้อที่ประมาณ 850 ไร่ ใหญ่ที่สุดใน 3 พระจอมเลยนะเนี่ย

เปิดการสอน 12 คณะ 4 วิทยาลัย คือ

  1. คณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือ วิดวะ
  2. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หรือ ถาปัด
  3. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม หรือ ครุ
  4. คณะเทคโนโลยีการเกษตร หรือ เกษตร
  5. คณะวิทยาศาสตร์ หรือ วิดยา
  6. คณะอุตสาหกรรมเกษตร หรือ อก. (Update: ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นอุตสาหกรรมอาหาร (อส.) แล้ว)
  7. คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที
  8. คณะศิลปศาสตร์ หรือ สินสาด
  9. คณะบริหารธุรกิจ หรือ บริหาร
  10. คณะแพทยศาสตร์
  11. คณะทันตแพทยศาสตร์
  12. คณะพยาบาลศาสตร์
  13. วิทยาลัยนาโนเทคโนโลยีลาดกระบัง หรือ นาโนลาดกระบัง
  14. วิทยาลัยนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง
  15. วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ หรือ การบิน
  16. วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต หรือ สังคีต

ภายในสถาบัน[แก้ไข ]

สถาบัน[แก้ไข ]

  • "สถาบันเทคโนฯลาดกระบัง" เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียว ที่มีทางรถไฟตัดผ่านกลางมหาวิทยาลัย
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่เป็น ศูนย์คมนาคมแห่งประเทศไทย ก็ว่าได้เพราะมีทั้ง รถยนต์ รถเมล์ รถไฟ เรือ เครื่องบิน และ รถไฟฟ้า(Airport Link)
  • ล่าสุดมี รถไฟฟ้า (Airport Link) จากลาดกระบัง ไป พญาไท ใช้เวลาแค่ 20 นาที ต่อ BTS เดินสยามได้สบายๆ
  • สถาบันถูกผ่าออกเป็นสี่ส่วน โดยถนนและรางรถไฟ
  • ไม่ได้มีแต่ผู้ชายอย่างที่คนภายนอกเขาคิดกัน
  • มีผู้หญิงและผู้ชายจํานวนพอๆ กัน ยกเว้นคณะวิศวะอย่าคิดว่าที่นี่มีแต่ผู้ชาย และอย่าเชื่อที่เพื่อนบอกว่าถ้าคุณเข้าไป คุณจะกลายเป็นดาวคณะได้เลย เพราะความจริงคือ มีผู้หญิงสวยๆ เยอะแยะ หุ่นดีอีกต่างหาก (อาจเพราะออกกําลังด้วยการเดินไปเรียนมาก) อย่างที่เราเคยเชื่อมาแล้ว...
  • ตอนนี้ลาดกระบังมีรถวิ่งรอบสถาบันแล้วนะ 5 บาทตลอดสาย <---- ไม่มีแล้วจ้า จากน้องปี '56 <---- ตอนนี้มีรถเมล์วิ่งรอบสถาบันแล้ว อัปเดตปี '68
  • ที่นี่สามารถหาดูตัวเงินตัวทองได้ไม่ยากนัก บางเวลาจะพบนอนขวางถนนอยู่ (สถาปัต) และคนที่นี่เรียกว่า "พี่เห้" (เด็กหอบางครั้งเรียกกุ๊งกิ๊ง)
  • พี่วินที่นี่แพงและวิ่งเร็วมาก(เกินไป) ทางที่ดีควรเดินเพื่อออกกําลังกาย หรือนั่งรถสถาบัน
  • หอในเคยถูกใช้เป็นที่ถ่ายทําเรื่อง 4x4 ที่ Four เล่นด้วยนะ
  • 7-11 ภายในสถาบันร้านแรกสร้างตอนปี 2540 อยู่ตรงทางไปหอใน ใกล้กับสถานีรถไฟ (ข้อมูลจากศิษย์เก่ารหัส 40)
  • 7-11 ตรงสถานีรถไฟไม่ได้เปิด 24 ชม.<-- หายไปแล้วจ้า<----ตอนนี้มีแล้วจ้า <---- หายไปอีกแล้วจ้า <----ตอนนี้มีแล้วจ้า
  • วิชาที่เริ่มเรียนตอนเช้าเริ่มเรียนตอนที่รถไฟมาพอดีประมาณ 8-9 โมง ถ้ารถไฟมาสาย หรือตกราง ก็เริ่มเรียนสาย
  • เคยมีไฟดับช่วงสอบพอดี แต่ไฟส่องถนนกลับไม่ดับ เด็กลาดกระบังต้องมานั่งอ่านหนังสือริมถนน
  • เป็นสถาบันที่เสื้อชอปคือเสื้อนักศึกษา กางเกงยีนส์คือกางเกงนักศึกษา (ยกเว้นบางสาขา ไม่มีช๊อปใส่ - -*)
  • มีที่ให้อาหารปลาหลายจุด ตึกเจ้าคุณ,ตึกวิดวะ,ตึกพระเทพ
  • การจราจรครบ รถไฟ รถเมล์ เรือ(หลังถาปัด) และเครื่องบิน <---- ปัจจุบันมี Airport Link แล้วนะ เดินทางสะดวกมาก แต่นั่งรถต่อไป Airport Link ลําบากมาก ถ้าไม่มีรถไฟในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางไปต่อ Airport Link นอกจากนั่งสองแถวไปหัวตะเข้ก่อน แล้วจึงนั่งสองแถวต่ออีกครั้ง ถึงจะได้ขึ้น<--- ปัจจุบันมี2แถวไป Airport Link โดยตรงแล้วนะครับ 'น้อง59
  • บรรยากาศดีเพราะอยู่ชานเมือง <---- แต่มลพิษทางเสียงเยอะ
  • ที่ตึกพระเทพ ร้านพี่หน่อย อาหารตามสั่งอร่อยทุกอย่าง(หมายเหตุ อย่าให้ใครมาแอ๊ด(+)เพิ่มล่ะ เพราะมันจะเสียรสชาติและได้น้อยมากกกก)
  • อย่าลืมไปขอวิตามินซีที่ห้องพยาบาลนะ อร่อยดี แค่ยืนบัตรนักศึกษาและบอกวิตามินซีค่ะ ก็ได้แล้ว
  • ตึกพระเทพเปลี่ยนจากลิฟเก่า เป็นเตาไมโครเวฟแทน (เนื่องจากเสียง ติ๊ง!!) และจะไม่สามารถแกล้งเอาประตูลิฟหนีบเพื่อนได้เหมือนเคยเพราะมีเซนเซอร์<---- ลิฟตึกพระเทพ ขึ้นลงทั้งคืน และประตูเปิดปิดเองทั้งๆที่ไม่มีคน
  • คิดจะหาจักรยานที่เก่าเกือบ 10 ปี และมีสนิมเขรอะล่ะสิ มันก็หายได้ (ของเพื่อนผมเอง)
  • และแน่นอน ยานพาหนะคุณจะดูเก่าขึ้นอีก 35 ปีเมื่อจอดเฉยๆที่ซอยนั้น แม้จะจอดเพียง 2 อาทิตย์ก็ตาม(ฝุ่น) (แต่อาจเร็วกว่า 2 อาทิตย์หากจอดใกล้ๆ รางรถไฟ) และนั่น จะทําให้จักรยานหายยากขึ้น(แต่ก็ยังหาย)
  • เป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่จักรยานหายมากที่สุดเช่นกัน
  • หากคุณยืนตากแดดในที่โล่งตั้งแต่วินาทีแรกที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ดวงอาทิตย์ตกดินโดยไม่ขยับไปไหน ในช่วงหน้าร้อน คุณต้องใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 2800 ถึงจะกันแดดได้ "100%"

จากการคํานวนคร่าวๆ (โอ้ว...พระเจ้าจอร์จ!!ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ!!!!!!!) <---- ผลิตทีเถอะ เดินไกลก้อดําได้

  • หากคุณไม่เคยพกไฟฉายเข้าห้องสมุด ลองเข้าห้องสมุดวิดวะสิ คุณต้องการมันแน่ๆ
  • สนามเปตองเปิดให้เล่นได้ 24 ชม. แต่ไม่เปิดไฟตอนกลางคืน (อะไรฟะ)
  • จําตอนเด็กๆ จําได้มั้ยที่โรงเรียนเค้าจะมีนมถุงให้กิน มียี่ห้อ KMITL ด้วย และแน่นอนสถาบันเราผลิตเอง (จิงป่ะเพิ่งรู้นะเนี่ย ?)
  • ยุงที่นี่สามารถกัดทะลุกางเกงยีนส์ได้ ทดสอบมาแล้ว และกัดได้แม้ขณะที่เราวิ่ง (เจอมาแล้วเช่นกัน)
  • มีอินเตอร์เนทที่เร็วที่สุดในประเทศคือ 10GB/s (รึป่าว จําไม่ได้) ที่ต้นเครือข่ายนะ มีอาจารย์เคยบอกตอนปฐมนิเทศ (พอกรูใช้ทีโหลดเป็นชาติอ่ะ)
  • หอในใหม่ ใช้แรงงานต่างด้าวทั้งหมด (ซึ่งตอนนี้ถูกจับไปหมดแล้วการก่อสร้างจึงหยุดชะงัก) <-- สร้างเสร็จแล้วหอแอร์ด้วย แต่แพงไปนิด >< <--ขณะนี้กําลังจะสร้างให่อีกหอนึง เริ่มปรับผิวดินล่ะ
  • มีโรงหนังขนาดเล็กที่หอสมุด ค่าเข้าแค่คนละ 5 บาท
  • ศูนย์วิจัยฯ ตอนดึก ใส่รองเท้าแตะเข้าก็ได้นะ แต่ต้องเป็นแตะมีสกุลนะ (ตามระเบียบต้องใส่ผ้าใบ)
  • มี FTP ใช้ได้ไม่จํากัด และแน่นอน มีหนังโป๊เยอะมาก
  • เป็นสถาบันที่ไม่มี summer ให้เรียน ถ้าอยากเรียนต้อง drop หรือ ไม่ลงทะเบียนตั้งแต่ต้น(ใช่ป่ะ?) <--- ตอนนี้บางอย่างก็ลงได้แล้วเช่นวิชาเลือกมนุษย์ สังคม
  • ถ้าขึ้นตึกสูงในสถาบันจะเห็นลานบินและหอคอยการบินที่สูงที่สุดในโลก(สําหรับหอคอยการบินนะ)ได้อย่างชัดเจนในวันอากาศสดใส
  • สนามกีฬามีสัญญาณ Wifi แต่ไม่มีที่ให้วาง Notebook ให้เล่น <---- และไม่มีปลั๊กไฟ
  • ศูนย์วิจัยมีเนตให้เล่นฟรี 24 ชม. เนตเร็วมาก แต่ระวังตอนเปิดเครื่อง อาจทําให้ฝาเคสเครื่องหลุดเป็นชิ้นๆได้ (เจอมาแล้ว) แต่เครื่องก็ยังใช้ต่อได้
  • คอมพิวเตอร์ที่ชั้น 1 หอสมุดกลางใช้สัญญาณ Wifi ไม่ใช่จากสาย LAN
  • ตั๋วรถไฟกระดาษแข็ง สีส้มแดง มีเหลือขายเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย คือ ป้ายหยุดรถพระจอมเกล้าฯ (เคยถามนายรถไฟมาแล้ว)
  • ในอนาคตจะเป็นของหายาก เก็บไว้ดีๆ (รู้สึกตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นตั๋วบาง 2 ใบแล้วนะ ยืนยันโดยข้าพเจ้านี่แหละ (ขึ้นมาหลายรอบแล้ว)
  • ถ้านั่งวินมอไซต์ไปตึก L อธิบายให้ดีๆ เพราะมีตึก L สองแห่ง (เคยส่งผิดทีนึง)
  • ท่านอาจจะพบตัวเงินตัวทอง(ตัวเชี้ย) ได้ในเขต วิดวะและถาปัด (เป็นมาสคอตของที่นี่นี่เอง) <---- เกษตรตรึม วิ่งผ่านหน้าห้องแลปตอนเรียนประจํา<----วิดยาก็มีนะ เคยเข้ามาแช่น้ําอยู่ในห้องน้ําชาย ตึกวิทย์
  • มีสะพานลอยคนเดินข้ามแต่ส่วนมาจะเป็นสุนัขที่ใช้(ไม่ได้ว่าใครนะครับ สุนัขจริงๆ ใช้บ่อยกว่าคนอีก)
  • หลีกเลี่ยงสถานีพระจอมตอนกลางคืนให้ดีดี ได้ข่าวมาว่าถ้าไปยืนร้องเพลงเชียร์คนเดียวสักพักจะมีคนมาร้องต่อให้ (เฮ้ย!!!จิงดิ!!! กรี๊ดดดดดด!!!!)
  • มีสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง 2 สถานีเลยก็ว่าได้(หัวตะเข้ พระจอมเกล้าฯ) และ 2 สถานีนี้เป็นสถานนีรถไฟที่ติดกันมากที่สุดแล้วมั้ง(เดินไปอีกสถานีก็ประมาณ 800 เมตร)
  • ตอนกลางคืนที่อนุเสาวรีย์ ร.4 จะมีคนมาวิ่งบ่อยๆ (ไม่ใช่ผีนะ..มาแก้บน)
  • อยากได้อะไรที่ลาดกระบังมีทุกอย่าง ของกินของใช้ ร้ายเกม ร้านหนังสือ ร้านเช่าหนัง ร้านซ่อมขายจักรยาน หอพักมากมาย ห้างก็มี(TOP ตรงหัวตะเข้) ฯลฯ สบายจิงๆ
  • ลาดกระบังช่วงใกล้ๆ 9 โมงเช้าและ 4 โมงเย็นจะเหมือนเมืองจีนมากเพราะมีจักรยานเยอะว่ารถยนต์ซะอีก
  • อยู่ลาดกระบังจะทําให้มีความรู้สึกว่าแสงโสมนี่มันช่างลื่นคอกว่า แบล็กหรือชีวาสไปแล้ว พอกลับไปกินเหล้าแพงๆกลับรู้สึกคันๆคอ 555 ++
  • ตอนเรียนใส่ชุดนักศึกษาเฉพาะวันสอบเท่านั้นเหอๆๆๆ เคยลืมด้วย ใส่ชอปไป ต้องวิ่งกลับมาเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา
  • ไม่เข้าใจเหมือนกันทําไมชอบบนวิ่งรอบพระจอมฯ กัน (เราก็เป็น) แล้วต้องไปวิ่งดึกๆ ดื่นๆ ด้วยนะ เหอๆๆๆๆ
  • สถานีรถไฟที่ห่างกันแค่ 800 เมตร แต่ราคาต่างกัน 1 บาท เท่าๆ กับสถานีที่ห่างกัน 6 กิโล
  • ไก่ย่างหน้าประตู ที่เข็นมาขายมีสีแดงเถือกจนน่ากลัว แต่ก็ยังซื้อกินทุกวัน
  • ถ้ามีคนเตะบอลตกสระน้ําแล้วไม่มีไม้เก็บ ก็เอาก้อนหินที่อยู่แถวนั้นแหล่ะ ขว้างเอา บางที อิฐบล็อคปูถนนก็ยังถูกขุดขึ้นมาขว้าง
  • ยี่สิบปีที่แล้ว คณะวิศวะกับเกษตรตีกันแทบทุกวัน<---- ทุกวันนี้มีบ้างประปราย
  • ตึกพระเทพโซน c ทุกห้องอากาศเย็นมากกกกก เวลาสอบยังกะห้องแช่แข็งปลาส่งออก <---- c101
  • ในวันแรกคุณอาจเดินวนอยู่ 2 รอบกว่าจะเจอห้องเรียน บนชั้น3ของตึกเรียนรวม <---- เรียนมา3ปียังหลงลูปในตึกเจ้าคุณฯ
  • ที่หอสมุดกลางชั้นสองมีอะไรดีๆๆให้ดู อย่าลืมไปดูนะ
  • เวลาสอบห้องสมุดจะคับคลั่งไปด้วยผู้คน ซึ่งปรกติจะไม่ค่อยมีคน
  • เวลาไปวิ่งหน้าลานพระจอมฝนจะต้องตกทุกทีเลย (ไม่รู้เป็นไรซิน่า)
  • รถถาบันเป็นรถที่ข้าพเจ้าขอคํานับ ไม่ว่าจะตรงใหนพี่แกจอดหมด ไม่กลัวตํารวจเลยคับท่าน
  • รู้ป่าวววว ร้องเกะที่วอปต้องไปกันเยอะๆๆถึงจะมันส์อัดกันเข้าไปในห้องใหญ่อ่ะ อิอิ
  • พี่วินคิดราคาแพงมากแล้วก็ขับไม่มีความปลอดภัยเลยยยยย
  • นศที่มีลางสังหรว่าจะโดนรีไทล์จะซิ่วไปเรียนเทคโนโลยีมหานครก็มันใกล้กันเนอะ
  • โกโก้ตรงที่ขึ้นรถตู้อร่อยมากลองไปชิมนะ<---- ซอยจินดา ตอนนี้พม่าทําแหลกไม่ได้!!!
  • เป็นมหาลัยที่หาคนใส่กางเกงเลย์ได้ง่ายที่สุด แม้แต่กลางวันโต้งๆ ยังมีคนใส่ พร้อมปั่นจักรยานเอื่อยๆ ได้เข้าบรรยากาศวันขี้เกียจโดยแท้
  • มีห้างซีคอนเป็นของตัวเอง<---- มาใหม่ พาราไดซ์<<ใหม่กว่า เมกะบางนา
  • ห่างสถาบันไม่ถึง 50 เมตรจะมีร้านเหล้าติดกันประมาณ 4 ร้าน เเละจากสถาณการณ์อาจจะมีเพิ่มอีก(เนื่องจากความต้องการสูง)<---ปัจจุบันโดนปิดหมดแล้ว ย้ายไปเปิดกันไกลกว่าเดิม(ล่าสุดมีโครงการใหม่เลยRNPไป บางร้านก็กลับมาเปิดที่นั่น)
  • ถนนจากฉลองกรุงไปตลาดหัวตะเข้รถจะติดมากมาย ตอนช่วง 6 โมงถึง 2 ทุ่ม ในระยะทางจากคณะวิดยาไปถึงป้ายคณะเกษตรซึ่งระยะทาง 1 กิโล บางวัน คุณอาจจะต้องรอรถติดนานถึง 45 นาที กว่าจะถึงตลาดนัดหัวตะเข้

เวลาสอบที่ตึกพระเทพ เจ้าหน้าที่คุมสอบชอบเปิดแอร์แรง ไม่รู้จะเปิดทําไมให้หนาวอยู่ได้

คณะวิดวะ[แก้ไข ]

  • ภาคอิเลก ไม่เคยได้เรียนที่ตึกภาคตัวเองเลย(ยกเว้น lab) โดน control mecha ยึดไปหมดแล้วว (เออ จริง ภาคอิเลคคอนเฟิม!)
  • ตึก บี ใส่ขาสั้น เท้าแตะขึ้นตึกได้
  • สําหรับภาคอิเล็ก มีปัญหาถามหา อาจารย์กุ๊ก!!!!!!<<ใช่เลย ต้อง อาจารย์กุ๊กเท่านั้น
  • ห้องน้ําหญิงชั้น5 ของตึกเอ คณะวิดวะ "ลาดกระบัง" มีศาลพระภูมิอยู่ ปัจจุบันย้ายลงมาอยู่ข้างล่างเรียบร้อยแล้ว
  • แต่ก่อนคณะวิดวะลาดกระบัง ใช้เวลาเรียน 5 ปี ในขณะที่มหาลัยอื่นเรียน 4 ปี ดังนั้นจะมีอยู่รุ่นหนึ่งที่รุ่นพีปี 5 กับรุ่นน้องปี 4 จบพร้อมกัน
  • เด็กวิดวะใส่แตะไปเรียนคณะอื่นได้ แต่เด็กคณะอื่นห้ามใส่แตะมาเรียน
  • เคยมี FBI มาตามจับนศ.เก่า(วิดวะคอมฯ)ที่ Hack เวบเขาไว้ (ข่าววงใน)
  • เสื้อ shop วิดวะ มีเกลือมากที่สุดในประเทศ เพราะวิดวะที่นี่ไม่นิยมใส่ชุดนศ.และมี shop ตัวเดียวซะส่วนใหญ่บางทีเห็นเอ๊ะ..ช๊อปวิดวะกลายเป็นสีฟ้า จริงๆสีกรมท่า <- ต้องบอกว่าเด็กวิดวะไม่ค่อยชอบซักช๊อปด้วย บางคนเพิ่งซักครั้งแรกหลังฝึกงานจบ
  • อยากได้หมวกยาม ไปหยิบจากหัวยามได้เลยที่ตึก A ตอนกลางคืน รับรองได้ยามไม่วิ่งตาม ไม่ด่าคุณแน่นอน (หลับ) เคยลองมาแล้ว
  • จะใช้ Flash Drive รุ่นใหม่ๆ ที่คอมฯตึก A ต้องเอาแผ่น Driver ไปด้วย ไม่งั้นใช้ไม่ได้
  • ถ้าต้องการส่งเกรดอันน้อยนิดให้พ่อแม่ดู World Wide Book ที่คณะวิศวะ มีบริการไปรษณีย์ทุกอย่างด้วย(เคยไปใช้บริการกันป่ะ?) ไม่จําเป็นต้องถ่อเดินทางไปถึงซอยไปรษณีย์
    • และ Textbook ที่นั่นราคาถูกกว่าศูนย์หนังสือจุฬาฯ ถ้าไม่มีหนังสือที่ต้องการ สามารถสั่งได้
  • เสาโทรฯอันเด่นสง่าใช้การไม่ได้แล้ว
  • สถาบันเรามีอุทยานวิศวกรรมด้วยนะ(คิดว่าเรียกงี้นะ) ชั้น 1 ตึก ECC ไง
  • ประตูใหญ่ข้างตึก 12 (ทิศตะวันตก)เปิดเพียง 1 วันเท่านั้นในรอบ 1 ปี
  • แทงค์น้ําตึก 12 มีไว้เพื่อ(และเป็นเหตุ)ให้สนามบินสุวรรณภูมิถูกเลื่อนให้ไกลจากสถาบันมากขึ้น เสียงจะได้ค่อยลง
  • ห้ามตดใน 7-11 ที่อยู่หน้าตึก 12 เด็ดขาด เพราะเป็น 7-11 ที่แคบที่สุด
  • สนามโภไคยอยู่ต่ํากว่าระดับทางเดินมาก แต่ไม่มีระบบป้องกันและระบายน้ําจากน้ําท่วม
  • อย่าขึ้นลิฟท์กับพวกเด็กวิดวะ เพราะคุณจะสลบก่อนเดินออก(กลิ่น shop)
    • แต่พวกวิดวะด้วยกันจะชินกันแล้ว(อาจารย์ฝากบอกมานะอันนี้)
  • แม้ว่าส่วนใหญ่เด็กวิดวะจะไม่ค่อยสนใจเสื้อผ้าหน้าผมเท่าไหร่นัก แต่คณะเราก็มีศิษย์เก่าในวงการบันเทิงด้วยนะเออ
    • มุก นักร้องวงโอลีฟ, ท็อป จรณ
  • ตึกภาคอิเล็กทรอนิกส์(ตึก B) เป็นตึกที่บันไดในตึกชวนงงมากๆ เดินแล้วจะลืมว่าเราจะไปชั้นอะไรหว่า หลายๆ คนเรียกบันไดหลอกผี เราว่าเป็นบันไดหลอกตัวเราเองมากกว่า เหอๆๆๆๆ
  • ตึกภาคโทร (ภาคเราเอง...อิอิอิ) เป็นตึกที่ดูเหมือนโรงพยาบาลมากที่สุดทําโปรเจ็คตอนกลางคืน เดินไปเข้าห้องน้ํา กลัวเป็นบ้าเลย ฮือๆๆๆๆ
  • ส่วนห้องน้ําหญิงตึก A ชั้น 5 ไม่เคยเข้าเลย เนื่องด้วยได้ยินกิตติศัพท์มายาวนาน จะเข้าห้องน้ํา ต้องลงมาชั้นล่างตลอดเลย (เพื่อความปลอดภัย)
  • ห้องสโมสรนักศึกษา (ซึ่งถูกเรียกว่า สโมฯ) เป็นสถานที่ที่จะมีเด็กปี 1 ใช้บริการมากที่สุด เพราะตอนทํากิจกรรมเชียร์ต้องมาลาป่วยที่นี่
    • อ้อเกือบลืม ซื้อเข็มกลัดปกเสื้อกะเข็มขัดที่นี่ก็ได้
  • สโมฯ มีแมวลายเสือที่โคตรซุปเปอร์น่ารักมากๆ อยู่สี่ตัว ปัจจุบันโตหมดแล้ว และกําลังขยายเผ่าพันธ์ความน่ารักไปเรื่อยๆ จนกว่าจะกลืนกินคณะวิศวะจนหมด (ตอนนี้เห็นอยู่ไม่กี่ตัวเอง (โดนกุ๊งกิ๊งจับกินไปแล้วมั้ง))
    • ตึกกิจกรรมนักศึกษา (ถูกเรียกว่า ตึกกิจฯ) ก็มีแมว แต่ไม่น่ารักเท่า
  • ทุกคนจะรู้จักc2
  • แมวC-Square ชื่อ comments เพศเมีย เข้าออกชุมนุมได้โดยอิสระจากรูรั่วบนหลังคา- - (ปัจจุบันมันหายไปไหนแล้วไม่รู้)
  • ตึกกิจกรรมนักศึกษา มักถูกใช้เกี่ยวกับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาซักเท่าไหร่
  • ห้องน้ําตึกกิจฯ มีที่อาบน้ํา สบู่ ยาสีฟัน และแปรงที่ใช้กันยกตึกกิจอยู่ด้วย
  • ไม่สามารถใช้ห้องน้ําตึกกิจทําธุระหนักได้ เพราะจะเกิดปฎิกิริยาย้อนกลับ และ... ขอไม่พูดดีกว่า
  • เป็นสถาบันเดียวที่สามารถใส่ยีนส์เข้าไปสอบได้ (โดยส่วนใหญ่น่ะนะ)
  • ตึก ECC เป็นที่รู้จักกันว่าคือตึกภาค POWER แต่จริงๆแล้ว มี 3 ภาคอยู่ในตึกนี้นะ (รุ่นใหม่ๆเข้าใจว่า ECC คือ Power เหรอ?)
  • ห้องโปรเจคภาคคอม มักใช้เล่นเกม เพราะเนทแรงชิบ (แต่เปิด BIT ไม่ได้ โดนแบน) (ได้...ถ้าใช้ไอพีนอก)
  • ตกดึก เนทที่ศูนย์คอมพิวเตอร์สามารถแรงได้ถึง 100 Mb/s (ฟังไม่ผิดหรอก จริงๆ นะ)
  • หอทิพย์วารี เป็นหอที่ต่อให้หมาเห่าเสาไฟฟ้า ไฟก็ดับได้
  • ถ้าเราเอาระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ (EMP) ไปยิงใส่ตึกศูนย์คอมฯ เค้าบอกว่าเซิร์ฟเวอร์เค้ายังปลอดภัยล่ะ
  • วิศวะมีสาวสวย จริงครับ... แต่มักถูกจับจองจนหมดเกลี้ยงภายใน 3 วันแรกของการเปิดเทอมแล้วล่ะ <-เพิ่งจะมีเอาตอนยุคหลังๆนั่นล่ะน้องเอ้ย
  • ตอนเราจะส่งโปรเจค อาจารย์ภาคคอมวิศวะจะอยู่ต่างประเทศเสมอ
  • รับน้องวิดวะหลัง last cheer เป็นวันที่แสงโสมขายดีสุดในแถบนั้น(แต่ตอนนี้ถูกห้ามกินในคณะแล้ว) (ใส่ขวดโออิชิ)
  • เดินลุยเวลาน้ําท่วมจะมีปลามาว่ายอยู่ข้างๆ เ้ท้่าบนถนน
  • ตึก 12 เข้าได้ 3 ทาง แต่มียามเฝ้าแค่ทางเดียว
  • sheetสําเร็จรูปร้านถ่ายเอกสารแตงกวาหน้าตึก 12 ขายแพงกว่าปกติอย่างน้อย 35 เท่า ซื้อของคณะหรือภาคดีกว่า
  • โรงอาหารวิศวะจะไม่เปิดขายเมื่อเราอยากกินมัน
  • คําขวัญโรงอาหารวิดวะ "ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด เก็บจาน" (อยู่บนโต๊ะที่โรงอาหารวิดวะทุกแห่ง)
  • ล่าสุด ตึกเอ เปลี่ยนไปเป็นสีม่วงเหลือง !!!! <-- และมีพี่ปีแก่ฝากบอกว่า ทําไมไม่ถามกูบ้างว่าอยากให้สีนี้มั้ย? <---- เค้ากลัวเครื่องบินไม่เห็นแล้วบินเฉี่ยวมั้ง
  • สาวๆๆหอในคนให้อยากรู้ว่าสวย/ไม่สวย ก็ลองเดินผ่านหน้าภาค POWER(วิศวไฟฟ้า)ดิ เด๊ยวก็รู้ ตั้งแถวแซวกันทุกเย็น
  • ตึกกิจ คณะวิศวะ ถือเป็นเขตนอกคณะสามารถกินเหล้าได้ แม้คณบดีจะีสั่งห้ามกินเหล้าในคณะ
  • ในปีต้นๆ จะมีบางวิชาถูกสั่งให้ส่งงาน 7 วันหลังสอบ และเด็กๆ ก็จะต้องเอาเวลาหลังจากสอบไปอ่านหนังสือทําไอ้นี่กันภายใน 7 วันน่ะแหละ
    • ต่อให้อาจารย์บอกว่าให้เวลาทั้งเทอม แต่มันต้องการความรู้ตั้งแต่คาบแรกยันคาบสุดท้ายของวิชานั้น ดังนั้นมันก็ 7 วันเหมือนเดิมน่ะแหละ
      • ปีหลังๆ เป็้นอย่างข้อข้างบนทุกวิิชา
        • ดังนั้น ใน 7 วัน วิศวะคอมทําได้ทุกอย่าง (ผู้เขียนเคยทํางานเสร็จใน 6 ชั่วโมงก่อนส่งด้วยล่ะ) << เด็กภาคคอมทําได้ทุกอย่างถ้ามี deadline
  • ตึก ECC กินเน็ทของมหาลัยไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ วันไหนตึกนี้ไฟดับ วันนั้นเน็ทมหาลัยจะเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • ตึกสิิบสองชั้นไม่ยอมให้ใส่รองเท้าแตะขึ้น แต่ถ้าเพื่อนเราใส่มา ให้เพื่อนเราขึ้นไปก่อนถึงชั้นสอง แล้วโยนรองเท้าผ้าใบลงมาให้เราเปลี่ยน ก็จะเข้าไปได้
  • ที่หอพักประจําสถาบัน หอหญิง(อาคาร 5 ชั้นที่ 2) ว่ากันว่าเป็นทางเชื่อมต่อไปสู่มิติอื่น
  • ที่ตึก 12 หากขึ้นลิฟท์ไปในตอนกลางคืน ประตูลิฟท์อาจเปิดที่ชั้น 7 และเมื่อมองออกไปไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่แถวหน้าลิฟท์เลย
  • คณะวิศวะ เป็นคณะที่รู้เกรดช้ามาก ถึงขั้นกว่าจะรู้ว่าถูกรีทาย ก็ปาเข้าไปอีกเทอมพร้อมลงทะเบียนไปแล้วเสร็จสับ(น่าสงสาร เอาเงินคืนก็ไม่ได้)
  • ตอนช่วงปิดเทอม เนื่องจากไม่สามารถลงทะเบียนเรียนก่อนได้ นักศึกษาจึงเปิดทําค่ายกันอย่างมากมาย โดยลืมไปว่า น้องปี 1 ที่ทําค่ายมีกันอยู่แค่กลุ่มเดียว จึงแย่ง staff และ สับหว่างกันแทบตาย
  • มีตึกกิจ ซึ่งเป็นศูนย์รวมกิจกรรม ห้องอาหาร และรวมถึง หอพักของบางคนด้วย (ประสบการณ์ตรง เวลาไม่มีตังค์ ก็มานอนที่นี่แหละ)
  • ที่ตึกกิจยังมีชุมนุมคอมพิวเตอร์ หรือ C-square เป็นชุมนุมแรกของชั้น 2 เสมอ
  • มีอยู่ช่วงหนึ่งที่คณะบดีอยากจะให้คนออกจากตึกกิจ โดยการตัดน้ํา ตัดไฟ และเน็ต แต่ปรากฏว่าก็ยังอยู่รอดมาได้ อึดจิงๆ
  • ร้อยละ90 เด็กวิศวะกินเหล้าเก่งทุกคน (เย็นเซ)
    • ร้อยละ10 ที่ไม่กินส่วนใหญ่มักไม่โดนไทร์ แถมบางส่วน(ประมาณร้อยละ 50 จากคนที่ไม่กินเหล้า)เมื่อเรียนจบยังได้เกียรตินิยมอีกต่างหาก
  • คนที่กินเหล้าแต่ไม่สูบบุหรี่(ในส่วนนี้จะอยากรู้อยากลอง ในสุดท้ายก็จะสูบในช่วงปีสี่) มีมากกว่าคนที่สูบบุหรี่แต่ไม่กินเหล้า แต่ก็ยังน้อยกว่าคนที่ทั้งกินทั้งสูบ
  • มีอยู่ช่วงนึง จะมีคนที่ชอบเขียนตัว X ที่หลังข้อมือทั้งสองด้าน ฉะนั้น ถ้าเจอคนประเภทนี้ อย่าชวนเขากินเหล้า สูบบุหรี่ หรือไปมั่วกาม เพราะเขาเป็น Straight Edge [คําอธิบายอยู่ใน google] แต่ยังชวนเขาไปเล่นเกมได้
  • csquare หรือ ชุมนุมคอม มีเครื่องคอมแค่ 2 เครื่อง แถมเป็นเป็นเครื่องส่วนตัวอีกต่างหาก<<<แต่เวลาตีดอทจะมีNotebookมาเสริมได้ถึง 2 ห้องทีเดียว- -
  • เคยมีอยู่ช่วง จะมียามมาตรวจทุกวันประมาณตอนเที่ยงคืน วงเหล้าจึงเริ่มหลังเที่ยงคืนเสมอ
    • เป็นสาเหตุให้แยกวงตอน 6โมง 7โมง หรือ 8โมงเสมอ
      • ถ้ามีเด็กตึกกิจฯมาคุยว่ากินเหล้าถึงเช้า อย่าเพิ่งคิดว่ากินเหล้าเก่ง มันอาจจะเริ่มตอน ตี4 ก็ได้
  • ใครมาวิดวะไม่เคยไปกินมาม่าร้านป้าเอม ถือว่ายังมาไม่ถึง
    • ใครเรียนวิดวะแล้วยังไม่เคยโดนป้าเอมด่า มีคํากล่าวว่าอาจเรียนไม่จบแต่พอหลังจากโดนป้าเอมด่าแล้วป้าเอมจะได้ชื่อใหม่ทันทีเป็น "ป้าเย้" (เซ็นเซอร์)

)*** "คอมนูดเดิ้ล" ร้านป้าเอม(มาม่าใส่ไก่ทอด) เป็นเมนูที่ขายดีที่สุด

  • ชมรมบาสมักมีปัญหากับยาม
  • มีทีมสันทนาการวิศวะ ที่ดังไปทั่วประเทศ เน้นฮา บ้าบิ่น เป็นกองสันทนาการที่สืบทอดกันมาตามตํานาน ชื่อว่า "ฟินิกส์" นกไฟที่ไม่มีวันตาย เจอแล้วมันส์ เต้นถวายชีวิต หุหุ
    • สโลแกน นกฟินิกส์ "ฟินิกส์นกไฟ ไม่มีวันตาย" แต่พอไปเชียร์กีฬา ป๊าบ โดนคําชมมาว่า "ฟินิกส์นก here เชียร์ใครก็แพ้" (แต่ทุกวันนี้เราคือกําลังใจของนักกีฬา)
      • ทุกๆ ปี จะมีการปั้นสันฯ วิดวะ ขึ้นใหม่ เรียกงานนี้ว่า "งานฟักนก" (สันทนาการกองโจร)ตามด้วยการเปิดตัวนกพันธุ์ใหม่ในวันหน้าด้าน
        • นกฟินิกส์ ปี 1 ร่วมร้อยคน พอจบมันก็มีกันเยอะนะ ไม่เกิน 5 คน 555+
          • สันวิดวะเป็นสันทนาการที่ทุกคนมาเต้นแล้วมีความสุขมากที่สุดเพราะมีแต่คนบ้าทั้งน้าน...................
            • นกฟินิกส์ เคยโดนรองอธิการไล่กลับคณะในวันหน้าด้าน
              • สันวิดวะเพลงเยอะมาก เต้นกันยันเช้า (มั่วๆๆ อ่ะ ลอกก็ยาก)
  • รับน้องคณะ ตอนเขาประกาศไม่ให้กินเหล้า คณะเราเลยหันมากินนมกันแทน โดยมีนมทุกรูปแบบ แล้วเราก็รู้ว่า การกินนมวัวผสมกับนมถั่วเหลือง ให้ความรู้สึกเหมือนกินเหล้าเดี๊ยะ อ้วกเต็มคณะ
  • ในอดีตช่วงรับน้องจะมีการตัดเกรด (ของสงวนของผู้ชาย) กันด้วยนะ เล่นเอาฮาทั้งห้อง (ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ยังมีอยู่รึเปล่า) <<--ของห้อง....ยังเป็นธรรมเนียมอยู่นะ
  • นักศึกษาวิศวะทุกคน ไม่มีใครไม่รู้จัก อ.ปรเมธ- - <<< คนดังประจําคณะ << อ.ไปอเมริกาแล้วครับ
    • ต่อจากข้อบน อ ปรเมธ เป็น อ ภาควิชา Control แต่แกมีความสามารถพิเศษ เคยมีสถิติว่า แกไปสอนวิทยา inter เมื่อปี 1/48 มาแล้ว
  • ใครอยู่ภาค Control ไม่รู้ อ วันชัย แสดงว่าไม่ใช่ตัวจริง
  • บุรุษเพศวิศวะลาดกระบัง หน้าตาดีที่สุดในราชอาณาจักร
  • ตึก 12 ช่วงก่อนสอบจะมีติวใหญ่ กางเต้นท์นอนกันเลย
  • นักศึกษาทุกคนต้องรู้จัก "เก 4" ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนเป็นซอยร้านอาหารไปแล้วครับ เสียดาย5555
  • มีหนังสือชื่อ"มหาวิทยาลัยไหนดี" เขียนไว้ว่า เด็กลาดกระบัง เก่งและเซอร์
  • เด็กลาดกระบังสามารถกินเหล้าจนเช้า แล้วไปทํางานต่อได้ ในขณะที่คนอื่นๆกําลังแฮงค์อยู่ (รุ่นพี่บอกมา)
  • ยามใต้ตึก 12 ไล่คนที่กําลังจอดจักรยาน ทั้งๆที่ คันข้างๆ มันก้อจักรยาน<<<----คันข้างๆจอดได้เนื่องจากมาจอดช่วงยามแอบหลับ
  • เป็นสถาบันที่วินมอไซด์ขับรถกลางเลน

คณะสถาปัตย์[แก้ไข ]

  • เป็นคณะที่มีต้นไม้เยอะ และ (ดูเหมือนจะ)ร่มรื่นที่สุดในสถาบัน
  • ต้นไม้ว่าเยอะแล้ว มีบ่อน้ําแม่งเยอะยิ่งกว่า
  • ได้ยินมาว่า(ไม่รู้จริงเปล่า)คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และภาควิชาโยธา วิศวะ แต่ก่อนเคยเป็นภาคเดียวกันมาก่อนตั้งอยู่ที่ตึกภาคโยธา จนมาภายหลังคณะสถาปัตย์ค่อยแยกตัวออกไป <-- เรื่องจริงครับ สมัยก่อน โยธา สถาปัตย์ อยู่วิทยาลัยก่อสร้างเหมือนกันแล้วมาแยกทีหลัง
  • ถาปัตย์ เป็นแหล่งรวมคนในวงการบันเทิง มีนักร้องวงอาร์มแชร ซิน Singular วิน โปเตโต้ พี่แอ๊ะ อราวนด์มี

^ จริงๆมันเริ่มมาตั้งแต่พี่บุ๋มบิ๋ม(นิเทศศิลป์)วง"สามโทน"นู่น(อะโห้ว!)

    • แล้วก็มารุ่นพี่ฤทธิ์(ดีเจฤทธิ์คลื่นแฟต)ศ.อ.ปี5-มือกลองวงอภิมหาตํานานอัลเตอร์ฯรุ่นบุกเบิกวงแรกของไทย"ครับ"
    • และพี่โอ๋ซีเปีย(ศ.อ.ปี5เช่นกัน)-พี่แกแก้ผ้าปีนน้ําตกถ่ายปกเป็นที่ฮือฮามากในขณะนั้น
    • ต่อด้วยวงพราว(พี่เล็ก,พี่พิซซ่า,พี่แจ็ค นิเทศศิลป์(ปี4หรือจบไปแล้วนี่ล่ะ)และพี่เจ(เพนกวิ้นวิลล่า)ส.น.ปี3 เพลง"เธอคือความฝัน" ถูกเล่นครั้งแรกสู่สาธารณชนชาวคณะ ในวงเหล้าหัวค่ํางานมิวสิคเฟส(หรือซักงานนี่แหละ จําไม่ได้มันเยอะจัด)ในปี38 โดยพี่เจผู้แต่งและกีต้าร์โปร่งของเขา ทุกคนได้ยินแล้วฟันธงว่าเพลงนี้ดังแน่ แล้วมันก็จริงดังนั้น
    • ต่อมาเป็นพี่แมน(ส.น.)-ละอองฟอง รุ่นเดียวกะพี่เจ
    • พี่กระรอก,พี่อั้ม(ส.น.รุ่นพี่พี่เจ2ปี)-วงSupper Glue
    • ผึ้ง(ส.น.)กับพี่ภู่(ส.น.รุ่นเดียวกับพี่กระรอก,พี่อั้ม)-วงC.A.D
    • พี่ไก่(ส.น.)-วง Kai-Jo Brothers ซึ่งKaiในชื่อวง ไม่ได้หมายถึงพี่แก
    • พี่ตั้ว(ส.น.)-พิธีกร กบนอกกะลา สมัยเรียนอยู่เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน4จตุรเทพ คือเป็น4คนที่หล่อเทพโคตรพ่อโคตรแม่เฟว่อๆในสมัยนั้น แต่พี่แกเงียบติ๋มขี้อายสมถะมาก ยิ่งทําให้สาวๆกรี๊ดแตกหนักเข้าไปอีก

สรุปคือ เด็กถาปัดที่เข้าปี33-39 มีออกเทป("เทป!")กันแม่งทุกรุ่นไม่มีเว้น เว้นมา3-4รุ่นถึงเป็นรุ่นอ้วน,โย่ง อาร์มแชร์ นักร้องนักดนตรีเต็มคณะจนเริ่มสับสนว่าหรือกรุจะฝนรหัสคณะตอนเอ็นท์ผิดเป็นดุริยางคศิลป์กันแน่วะ?

  • คณะถาปัดย์มีมิสไทยแลนด์ กับเขาด้วย(ซึ่งตอนนี้เธอก้อร่วงโรยไปตามกาลเวลาแล้ว...) อ้อมีอาร์มแชร์อีก (55+)
  • นอกจากนี้แล้วคณะถาปัดย์ยังมี มีสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2003 ด้วยนะ ชื่อ เยาวลักษณ์ ไตรสุรัตน์ เป็นลูกอาจารย์คณะวิดยา (อ.กฤษฎา ไตรสุรัตน์) และเป็นเจ้าของตําแหน่งมีสทีนไทยแลนด์ปี 2000 อีกด้วย
  • นอกจากนักร้อง คณะยังมีศิษย์เก่าที่เป็นดาราด้วยนะ โป๊ป (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) ศิษย์เก่านิเทศน์ศิลป์
  • อย่าแปลกใจถ้าอุปกรณ์ออกหวย (สลากกินแบ่งรัฐบาล) มีชื่อ ลาดกระบัง 1 2 3 .... ที่ชื่อนี้ก็เนื่องมาจาก มีผู้ออกแบบเป็นอาจารย์คณะถาปัตย์ภาค ID อ.คงเดช หุ่นผดุงรัตน์ (ที่เป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ขึ้นชื่อว่าโหดสุดในภาควิชา)
  • ตึกที่ดังที่สุด ก้อตึกจานบิน ที่ถาปัดเรานั่นเอง มีทั้งถ่ายโฆษณาหนัง MV และอื่นๆๆๆๆ (แต่ยังไง้ ยังไง มันก้อยังไม่ค่อยมีคนรู้จักซะที ไหงเป็นงี้ฟะ!!)
  • ตึกจานบินคณะถาปัด เป็นตึกที่วงการบันเทิงชอบมาใช้มากที่สุด ...เพลงไม่อาจเปลี่ยนใจ (เจมส์ เรืองศักดิ์) อยู่อย่างเหงาๆ (สิงโต นําโชค)
  • หนังเรื่อง 0-Negative มาถ่ายที่ถาปัดเกือบทั้งเรื่อง << เอ่อ.. ไม่ใช่ศิลปากรหรอ?<<<< ที่ลาดกระบังครับไปดูมุมแล้วมาถาปัตย์ได้เลย!!!!
  • โรงอาหารที่แมวเยอะที่สุดคือโรงอาหารคณะถาปัด (และมีหมาที่อ้วนที่สุด 1 ตัว กะหมาน้ําลายยืดอีก 1 ตัว และอีกหลายๆตัวที่ไม่ได้กล่าวถึงและหมาอ้วนมันกลัวเสียงพลุมากที่สุด)
  • โรงอาหารคณะถาปัด มีเมนู "แบบต๊ะ" และ "แบบบอล"แห่งเดียวในโลก (อยากรู้ต้องไปลองสั่งเอง)
  • ตึกเรียนถาปัดลาดกระบัง เวลาเรียนนี่ เงียบฉี่ แต่เวลาสอบ คนมาจากไหนกันเยอะแยะก็ไม่รู้
  • ถาปัดลาดกระบัง ห้องน้ําชั้น 2 ถูกออกแบบมาเพื่อให้มองเห็นคนฉี่ได้
  • กรุณาอย่าขึ้นลิฟต์กับเด็กถาปัด เพราะคุณอาจได้กลิ่นปลาหมึก หรือรองเท้าของพวกตีนเหม็นทั้งหลายขอบอกว่าเหม็นจิงๆ เหม็นเห้ๆ (กรี๊ดดด..ชั้นไม่เหม็นนะยะ)<< แต่ก่อนจะไม่เหม็น เพราะเด็กล้วนลากแตะมาเรียน ระบายอากาศอย่างดี

จนอาจารย์เริ่มทนไม่ไหวกับความโสถุยในรสนิยมการแต่งตัวของนักศึกษาคณะที่ได้ขึ้นชื่อว่าสอน"ออกแบบ" เมื่อเริ่มใช้ตึกใหม่ได้ไม่นาน จึงออกกฎใหม่ใครไม่ใส่หุ้มส้นหรือเสื้อมีปกห้ามเข้าเรียน และนี่คือตํานานของจุดเริ่มต้นกลิ่นปลาหมึกในลิฟต์

  • ในคณะถาปัตมีการบอกเล่ามาว่าห้ามเด็ดต้นไม้ใบไม้เด็ดขาดยิ่งภาค สน. ต่างรู้กันดี........
  • แมวในศ.อ. ห้องที่ปั้นเซรามิค เป็นแมวมีวิชาตัวเบา ไม่เคยเหยียบงานแตกเลย
  • หมาหิมะ จ้องคุณทุกเมื่อ ถ้าหากมีของกินอยู่ในมือ แต่มันจะมองไม่เห็นคุณเลยถ้ามาตัวเปล่า
  • มีคนบอก ห้ามตกปลาในสระ แต่ยังเห็นมีคนตกมาย่างกินกันอยู่เลย
  • หอ FBT เป็นแหล่งรวมของเด็กถาปัด ใครอยู่หอในตอนปี 1 พอขึ้นปี 2 จะออกมา แต่จริงๆหอในก็สบายดีนะ (จากน้องหอใน)
  • มีคนในคณะถาปัดลาดกระบังว่า ตัวเงินตัวทอง รสชาติเหมือนไก่ <-----กินหมามันก็บอกว่าเหมือนไก่ครับ
  • ผู้ปกครองที่มาเยี่ยมเยือนลูกๆที่คณะ เห็นนักศึกษาบางคนแล้วนึกว่าเป็นแรงงานพม่าที่มาทําการก่อสร้างตึก(เขาฝากบอกมาว่า "กูเป็นแค่นักศึกษาเฉยๆ")
  • ถาปัดลาดกระบังปี 1 เข้าไปนี่เรียบร้อนสัสๆ ปีห้านี่คือแบบ... พูดยังไงดี? ฮ่าๆ
  • คณะถาปัดลาดกระบังมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2497
  • มีทั้งหมด 5 ภาควิชา ซึ่ง5ภาควิชานี้จะมีบุคลิคลักษณะเป็นเอกลักษณ์
    • 1. ชาว สถ. ดูมาดแบบเท่ห์เนี๊ยบ ดูหรู แต่ถ้าไปคุยด้วยแล้วจะรู้ว่า กวนติงมากๆเบย
    • 2. ผู้ชาย สน.เรียบร้อย ส่วนสาวๆจะอึดถึก บึกบึน เป็นภาคที่ผู้ชายน้อยมาก (ยิ่งชายแท้ ยิ่งน้อยใหญ่)<< เฮ้ย ไม่จริง! สาวๆสน.นี่ขึ้นชื่อว่าค่าเฉลี่ยหน้าตาดีสุดในคณะมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ อยู่รุ่นไหนเนี่ยโคตรโชคร้ายเลยเจอแต่บึกบึน555(แต่อึดถึกนี่ไม่เถียงT T คณะนี้ไม่ถึกอยู่ไม่ได้)
    • 3. พวก ศอ. จะขยันเล่นมุกแบบ แป้กๆ แถๆ (แต่บางทีก็ฮานะเว้ย) และ นิยมใส่ชอปไปเรียน แต่ใส่เรียนของอาจารย์ท่านนึงไม่ได้
    • 4. ชาว สม. เป็นภาคที่มีคนน้อยมาก(เป็นภาคปะวะ?) เล่นมุกคือๆ กับ ศอ. ส่วนใหญ่จะรวมกับ ศอ.
    • 5. นิเทศ ไม่ค่อยใส่ชุดนักศึกษามาเรียน เห็นใครถือกล้องให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเป็นเด็กนิเทศ <<แล้วภาคอื่นใส่กันแล้วเหรอเดี๋ยวนี้? ช่วงที่ผมเรียนมันไม่ใส่กันทุกภาคยกเว้นวันสอบ ปี5ชุดนศ.ยังใหม่เอี่ยมกันทุกคน
    • 6. ชาววิจิตร อาจจะดูลึกลับๆ ปีหนึ่งจะดูเหมือนๆกันหมด เช่น สกินเฮดทั้งรุ่น ถักเปียทั้งรุ่น ผญ จะกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม
  • มาคณะสถาปัตย์ เสมือนมาดูงานแฟชั่น บางทีก็แต่งตัวกันเต็มมาก รองเท้า กางเกงนี่สุดๆ (ปีสองขึ้นไปนะ)
  • นักศึกษามักจะใส่กางเกงยีนส์=กางเกงนักศึกษา(อ้าวไม่ใช่เหรอ)
  • ส่วมรองเท้าผ้าใบ=รองเท้านักศึกษาและมักจะแอบใส่แตะเข้าห้องสมุด(ความจริงก็ไม่ได้แอบน่ะ ก็ยังใส่อยู่ที่เท้าเนี่ย)
  • มีกิจกรรมเยอะถึงเยอะมาก 2-5หรืออาจจะ6รับ 1ซึ่งมีตลอดปี
  • บางคนอาจจะคิดว่าเป็นกิจกรรมไม่สร้างสรรค์(มันสร้างสรรค์ให้น้องเราคอแข็ง)<<ไม่แข็งก็ต้องแข็ง เพราะมีงานคณะทีไม่มีน้ําเปล่าให้ดื่ม หิวน้ําทียังไงก็ต้องกิน ไม่งั้นต้องนั่งรถออกไปซื้อน้ํานอกคณะซึ่งใครๆก็ยอมแดกดีกว่ายอมเดิน

(จริงๆถ้าจะบริโภคกันดุทุกรุ่นทุกสมัยไม่มีเปลี่ยนกันขนาดนี้ น่าจะมีใครคิดตั้งโรงกลั่นหลังคณะกันเลยนะ)

  • มีโรงอาหารติดริมน้ํา ทั้งใหญ่และร้านอาหารเยอะ (ประชดหน่ะ ขํา ๆนะ)
  • หากแต่โรงอาหารจะมีคุณลุงท่านนึงที่สวมชุดคล้าย 2005 ทิวิ ฮูลา ฮูล่า คอยเก็บจาน
  • และยังมีสุนัข2ตัว ตัวหนึ่งมันอ้วนคล้ายหมู ฉลาดเฉพาะตอนเวลาอยากกิน และอีกตัวที่ทําปากสั่นน้ําลายฟูมปากเวลามาเสนอหน้าขอกิน
  • หลังคาโรงอาหารสามารถเปิดออกเพื่อรับแดดรับลมได้ด้วย!!
  • มีสนามฟุตบอลที่(เคย)ปราศจากหญ้า (ตอนนี้มีหญ้าแล้ว และเยอะเกินด้วย)
  • มีสนามบาสที่ใช้ร่วมกับที่จอดรถ แล้วสนามบาสแม่ง ไม่มีเส้นอะไรด้วยนะ มีแต่งานจิตรกรรมเต็มพื้นอะ แนวปะ
  • นักศึกษานิยมเดินกลับหอ แต่ต้องนั่งมอร์ไซด์มาเรียน(ไม่ทันแล้ว!!!!)
  • เป็นคณะเดียวของลาดกระบังที่โดยสารด้วยเรือได้ <- ตอนนี้ไม่ได้แล้วครับ ประตูฝั่งคลองโดนปิดตาย(เสียดายจัง)
  • ที่มีเป็นคณะที่พบเจอตัวเงินตัวทองเป็นเรื่องปกติเลย ตัวระดับน้องๆไอเข้
  • ระหว่างการเดินจากตึกไปโรงอาหารต้องอาศัยครีมกันแดดแบบ100เปอร์เซ็นต์ถึงจะไม่ดํานะ (ยิ่งเดินไปวิจิตนะอย่าให้บอกว่าแสบตัวแค่ไหน)
  • ภาควิชาวิจิตรศิลป์มีร้านขายข้าวและสนามฟุตบอลส่วนตัว
  • ประตูหลังคณะสร้างมาเพื่อปิด มีป้ายเก่าของคณะด้วยนะ (ไปสังเกตุกันดู เป็นป้ายตั้งแต่ยุคก่อตั้งแรกๆ)
  • ชอปพลาสติคมีลุงคนนึงหน้าเหมือนแมว เปิดชอบไม่ตรงเวลา แต่ปิดก่อนเวลาประจํา เวลาจะขอแวคพลาสติคก็ต้องแล้วแต่อารมณ์ลุงแมว
  • หมาที่โรงอาหารมีท่าไม้ตายเวลาขอข้าวคือ เอาปากที่น้ําลายฟูมๆ มาวางไว้ที่หน้าตักคนนั่งริม
  • ร้านข้าวที่ชื่อครัวยายสม มีชื่อร้านอีกชื่อนึงคือ "ร้านป้าผี"
  • ผู้หญิงคณะเรามีทั้งหน้าตาแย่ที่สุดและสวยมากที่สุดในมหาลัย
  • ใครที่เพิ่งมากินข้าวในโรงอาหารใหม่ๆจะสะดุ้งกับเสียง ปึ๊ง!!!! เป็นระยะๆ แต่อีกหน่อยจะชินเอง เพราะหลังคาเปิดได้ (ใช่เรอะ?)
  • ครัวยายสมอาหารอร่อย แต่เคยมีคนเจอขน.....ในจาน(คําคล้องจอง)
  • มีชอปที่เจ๋งที่สุดในประเทศไทย (ขอเน้นที่ชอปไม้ อัพเกรดสุดๆตอนนี้)
  • แต่คนคุมชอป...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ โดยเฉพาะชอปพลาสติก)
  • ผู้หญิงที่ฉลาดๆและน่ารักๆปี1 จะรู้สึกเหมือนเรียนสบายกว่าคนอื่น ^^
  • อีกครึ่งนึงของโรงอาหารจะมีเด็กนิเทศน์นั่งกันตรึมมมม เรียกว่าโซนนิเทศ (แต่ภาคอื่นก็เข้าไปกินได้นะเว้ยย)
  • เป็นคณะที่มีที่จอดรถเหลือ แต่ก็ยังมาจอดหน้าโรงอาหาร (แถวสนามบาสที่จอดเต็ม ไม่ไปจอดว้าาา?)
  • ตัวเงินตัวทองอาศัยอยุ่ในต้นไม้คับ เห็นกันเกือบทั้งรุ่น
  • ถาปัตย์มีร้านกาแฟอร่อย ร้านหนึ่งอยู่ข้างๆโรงอาหาร
  • เคยเป็นที่เรียนของ ปาม สม. ในตํานานตํานาน ชายหนุ่มผู้ไถหัวเป็นตราคณะ "รวงผึ้ง"
    • ข้อมูลอัพเดทปี 2556 โดยนารีสยบ มีอะไรเพิ่มเติมได้นะ

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม[แก้ไข ]

  • คณะนี้ผู้หญิงจะเยอะมาก จนคณะอื่นมีแซวว่าครุนี้คณะหญิงล้วน
  • เป็นคณะที่ตุ๊ดหลายคนสวยกว่าชะนี
  • เสื้อช๊อป มักจะปักอะไรมั่ยรุ้ ทั่วเสื้อ ทั้งเครื่องบิน ทั้งรถไฟ ทั้ง ฯลฯ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะใส่กันแล้วเพราะใส่ชุดนอกมาเรียนได้เลยในบางสาขาและบางวิชา (ยกเว้นวิชาครูที่บางวิชาห้ามแม้กระทั่งใส่ขอป)
  • คณะนี้รวมแทบทุกภาคเลย สาวๆ น่ารักแยะ
  • ที่สําคัญผู้ชายก้อหล่อมั่กๆ ด้วย - -
  • คณะนี้มีภาษาเรียนด้วยนะ แต่ไม่ใส่ช๊อปเรียนกะเค้า (มี 2 เอกคืออังกฤษและญี่ปุ่น) ภาควิชานี้สามารถเทียบอัตราส่วนประชากรได้ดังนี้ หญิง 10:ชาย1
  • แต่ก่อนภาควิชาภาษาและสังคมเป็นภาคเดียวในคณะที่มีเด็กที่จบมาจากสายสามัญ ปัจจุบันนี้มีทุกภาควิชาแล้วจ้า
  • ภาคภาษาและสังคมเรียนจบแล้วได้รับปริญญาเป็นศิลปศาสตร์บัณฑิตมิใช่ครุศาสตรฺบัณฑิต
  • คณะนี้เป็นคณะที่มีแต่คนเข้าใจผิดว่า "จบไปเป็นครูแน่นอน"
  • คณะนี้มีพื้นที่น้อยกว่าคณะอื่นๆ (จริงๆแล้วพื้นที่ใหญ่นะ แต่คณะอื่นเค้าขอพื้นที่ไปนะ)
  • คณะนี้มีเด็กต่อเนื่องและเด็ก 4 & 5 ปี <<ปัจจุบันไม่มีต่อเนื่องแล้ว
  • คณะนี้ถือว่าเป็นคณะขนาดกลางรับปีละประมาณ 600 คน ในขณะที่ วิศว วิทยา รับประมาณปีละ 1500 คน
  • คณะนี้แต่งตัวเรียบร้อยที่สุดในมหาลัยไม่เชื่อลองไปดูนะ เรียบร้อยจริงๆ
  • มีกีฬาประจําคณะ คือชอกเกมส์และกีฬาสีเที่ยนเป็น กี่ฬาของครุศาสตร์อุตสาหกรรม 3 พระจอม+ราชมงคล1แห่ง
  • คณะนี้มีเด็กช่างเรียนมากที่สุด หล่อๆ ทั้งนั้นด้วย
  • ภาค ครุฯวิศว จะมีผู้ชายเป็นประชากรส่วนใหญ่
  • ภาค ครุฯเกษตร จะมีหญิงเยอะกว่าชาย(สวนทางกับคณะเกษตร)
  • ภาค ครุฯสถาปัดและออกแบบ จะมีหญิงก็เยอะแต่ชายก็มาก แล้วเซอร์ๆหล่อๆด้วยอะ > <
  • คอบ.5 ปี(วิศวะ เกษตร สถาปัต การออกแบบ ออกแบบสภาพแวดล้อมภายใน) ส่วนมากนักเรียนจบสายสามัญร้อยละ 95 %
  • เด็กภาษาที่เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อๆ มั๊กจะเป็น เก้ง กวาง กันหมดเลย อ๊ายยยยยยยย
  • เดือนคณะนี้มักจะติด 1ใน3 การประกวดดาวเดือน ทุกปี แต่ ดาวไม่ค่อยติด1 ใน 5 เท่าไร
  • แต่สาวๆคณะนี้ถึงจะไม่ติดประกวดดาวเดือน แต่เข้ารอบประกวดนางงามระดับประเทศพวกนางสาวไทย กันแทบทุกปี
  • คณะนี้คะแนนสอบเข้า สูงไม่ใช้น้อย ปี54 วัดจากทุกสาขา ต่ําสุดที่ 17000 กว่า และสูงสุดอยู่ที่ 2000 กว่าคะแนน ((ปี 55 คะแนนสูงสุดพุงไป 2200 แหนะ))
  • โรงอาหารคณะนี้ มีเด็กจากต่างคณะมาทานเยอะมาก เพราะต้องเรียนวิชาเลือก ตึกจอมไตรจะคล้ายๆตึกพระเทพแล้ว
  • คนชอบคิดว่า เรียนครุฯ สถาปัต เกษตร วิศวะ พวกนี้วิชาความรู้จะแน่นเหมือนทางฝั่งเพียวหรือเปล่า บอกได้เลยว่าแน่นมากกก

คือเรียนเหมือนคณะสายตรงแต่แค่เพิ่มวิชาครูเข้ามาแค่นั้น

  • วิชาเรียนที่ฆ่าเด็กครุฯตายมากที่สุดคือ วิชาหลักการศึกษา เพราะเรียนทั้งแต่ประวัติศาสตร์ทางการศึกษา การบริหาร ภาวะผู้นํา จริยธรรม จนถึงกฎหมาย รวบตึงใน 1 วิชา
  • เด็กภาษามักจะดูไฮโซไซตี้ที่สุดในคณะ เพราะจะสวยงามเสื้อผ้าหน้าผมพร้อม เดินไปไหนมาไหนเหมือนมีไฟส่องตลอด
  • ชื่อเรียกเด็กภาษาก็จะมี เด็กแจป คือเรียนสาขาญี่ปุ่น เด็กอิ้ง คือเรียนสาขาอังกฤษ
  • ชื่อเรียกเด็กครุฯก็จะมี เด็ก สถ คือเรียนสาขาถาปัต ศอ คือเรียนสาขาการออกแบบ สว คือเรียนสาขาสภาพแวดล้อมภายใน ส่วนวิศวะกับเกษตร เรียกตรงตัว
  • เด็กครุฯโดนบังคับเรียนวิชาภาษาไทยเพิ่มด้วย นอกจากเรียนอังกฤษ 4 ตัวแล้ว <<โคตรจะยากเลยด้วย
  • เด็กภาษามีเรียนวิชา อิ้ง1 และ อิ้ง2 เหมือนกับที่เด็กลาดกระบังทุกคนต้องเรียน แต่เนื้อหาจะไม่เหมือนคือยากกว่าแน่นกว่า และข้อสอบเป็นข้อเขียนด้วย
  • พวกอาจารย์ที่สอนวิชาทางครู มักจะดุและระเบียบจัดมากกกก
  • แต่อย่าแปลกใจ ถ้ามาเดินที่ครุฯช่วงใกล้สอบปลายภาค แล้วเจอหน้านักศึกษาแต่งละคนเหมือนซอมบี้ เพราะงามเยอะมากกกกก งานของสาขาก็มี งานวิชาทางครูก็ต้องทํา!!!
  • ปี 5 คือปีที่เด็กครุฯ จะอกสั่นขวัญผว่าที่สุด เพราะต้องไปฝึกสอน (เคยทําอะไรไว้กับอ.ตอนเรียนโดนคืนสนองกันท่วนหน้า)
  • ถ้าใครเคยมาใช้คอมฯที่ครุ ก็จงอย่าแปลกใจ ที่กดคีบอร์ดเปลี่ยนภาษาแล้วไม่เจอภาษาไทยซะที! เพราะมีแต่ภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่นลงไว้ (ภาษาไทยต้องคลิกเปลี่ยนเอาเอง)
  • คณะครุฯ คือเครื่องช่วยหายใจสําหรับเด็กลาดกระบังหลายคน เพราะมาลงวิชาเลือก(ทางสังคม-มนุษย์)ที่นี้เพื่อดึงเกรด (ตูก็เรียนอยู่ทําไมเกรดตูไม่ดีบ้างฟะ)
  • โรงอาหารเล็กมาก เมื่อเทียบกับคณะอื่น แต่เราก็นั่งกินกันได้(ไงไม่รู้)
  • ครุฯมีละครเวทีด้วย แต่พูดอังกฤษทั้งเรื่องนะจ๊ะ
  • ช่วงซัมเมอร์ถ้ามาที่ครุฯแล้วจะตกใจว่า นี้คณะครุฯหรือคณะวิศวะ เพราะเด็กวิศวะมาลงเรียนวิชาที่นี้เยอะมาก
  • ร้านถ่ายเอกสารที่ครุฯมีร้านเดียว แต่คอมฯไว้ปริ้นก็หลายเครื่อง และเครื่องถ่ายเอกสารก็อีกหลายเครื่อง พนักงานอีกหลายคน แต่ยังทําไม่ทันเท่าไหร่เลย (ทั้งๆที่คนในคณะน้อยนะนั้น)
  • ครุฯมีสนามบาสที่ เหงามากคือไม่มีคนเล่นเลย
  • เน็กไทร์ชายครุฯ เป็นคณะเดียวที่มีที่หนีบด้วย
  • เป็นคณะที่มีหนังสือในห้องสมุด มากเป็นอับดันหนึ่ง คือรองจากหอสมุดกลางสถาบันเลยนะเออ
  • ครุฯเป็นคณะที่เมื่อถึงสัปดาห์สอบ จะไม่ได้ใช่ตึกคณะตัวเองแต่ต้องไปใช่ตึก พระเทพฯ(คือตึกส่วนกลางของสถาบัน) เนื่องจากโต๊ะเรียนและขนาดห้องที่ครุฯจะแปลกประหลาดกว่าคณะอื่น
  • ร้านกาแฟกลางคณะคือเส้นเลือดใหญ่สําหรับวันที่ท้อแท้ถดถ่อย (คือยังมีที่นั่งบรรยากาศดีๆ น้ําปั่น กาแฟ นม ขนมอร่อยๆให้ปลอดโปร่งบ้าง)
  • มีช๊อปสีเทาเข้มๆ ซึ่งมักจําเข้าใจผิดกับคณะเทคโนเกษตร เพราะของเกษตรก็เทาแต่ออกเทาอ่อนๆขาวๆ
  • คณะนี้แต่งตัวเรียบร้อยที่สุดจริง แต่เฉพาะเด็กใหม่ปี 1 กับปี 4 ที่กําลังจะออกฝึกสอน ปี 2-3 นี่ฟรีสไตล์(ไปมากกกก)
  • เนื่องจากครุฯมีหลายสาขาที่ต่างกัน ดังนั้นเราจะเจองาน ออกร้าน กิจกรรม สัมมนาที่ครุฯแทบทุกอาทิตย์

คณะเทคโนฯเกษตร[แก้ไข ]

  • คณะเทคโนโลยีการเกษตร มีตึกคณะลักษณะคล้ายรวงผึ้ง จึงเรียกกันว่าตึกรวงผึ้ง และว่ากันว่าที่ตึกนี้ นักศึกษาปี4 ก็สามารถหลงได้ เนื่องจากตึกนี้มี 4 ลูป และทุกลูปลักษณะเหมือนกัน
  • ตึกรวงผึ้งเป็นตึกที่น่าพิศวงมากๆๆๆๆ ต้องไปลองนะจ๊ะ
  • คณะเกษตร ตอนนี้มี 9 สาขา มีชื่อเรียกดังนี้ << ตอนนี้มี6หลักสูตร
  • - สัตวศาสตร์ เรียก ภาคสัตว์,สัตวบาล
  • - วิทยาศาสตร์การประมง เรียก ประมง
  • - พัฒนาการเกษตร เรียก พัฒนา
  • - นิเทศศาสตร์เกษตร เรียก นิเทศ , นิเทศเกษตร
  • - การจัดการทรัพยากรดินและสิ่งแวดล้อม เรียก ทรัพย์ดิน
  • - พืชไร่ ก็เรียกว่า พืชไร่ (= =)
  • - ปฐพีวิทยา เรียก เด็ก soil
  • - พืชสวน ก็เรียก พืชสวน
  • - เทคโนโลยีการจัดการศัตรูพืช เรียก กีฎ (อ่านว่ากี-ตะ แปลว่า แมลง) หรือไม่ก็เรียก ศัตรูพืช < พืชไร่ พืชสวน ปฐพี กีฏะ โรคพืช ภูมิทัศน์ เรียกรวม ว่า เกษตรศาสตร์ (แยกเอกตอนปี2)
  • **ส่วนบริหารแยกไปเปิดเป็นคณะของตัวเองแล้ว**
  • คณะเกษตรเป็นคณะเดียวที่ใส่รองเท้าผ้าใบ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ปี 1 ผู้ชาย สีดํา ผู้หญิง สีขาวเท่านั้น (มี อก ใส่ด้วยตอนช่วงเชียร์)
  • ภาคสัตว์ ต้องใส่กระโปรงพรีท ยาวถึงตาตุ่ม OxO!
  • นอกจากนี้ที่นี่ยังมีนิเทศศาสตร์อีกด้วย ซึ่งตั้งอยู่ในคณะเกษตร พึ่งเปิดมาได้ไม่กี่ปี อยู่ในภาคเทคนิคเกษตร ภาคนี้มี 2 สาขา คือ นิเทศศาสตร์เกษตร และพัฒนาการเกษตร
  • นิเทศศาสตร์เกษตร ส่วนใหญ่เรียกกัน นิเทศฯ เป็นนิเทศศาสตร์ ที่เรียนชีววิทยาและ Lab ด้วย (เพื่อ ??)ตอนนี้มีข่าวว่าจะเอาชีวะออกแล้ว
  • เด็กนิเทศฯ ส่วนใหญ่ผู้หญิงเยอะมาก เพศที่สามมีบ้างประปราย ผู้ชายน้อย
  • คณะเกษตรปี1ก็ได้ฝึกงานแล้ว(ที่แม่โจ้)
  • ยกเว้นเด็กนิเทศ มีทั้งฝึกงานทางการเกษตร (เริ่มปี 2)และฝึกงานทางนิเทศ
  • เด็กเกษตรจะมีวิชาเลือกสังคมให้เรียนกันเกือบทุกชั้นปี แต่ด้วยเหตุใดกันพวกเด็กวิศวะจึงต้องชอบมาลงเรียนกับเด็กเกษตรเกษตรเพื่อหวังให้เราเป็นฐานให้ - -*
  • แต่เวรกรรมย่อมมีจริง เมื่อเด็กวิศวะมาลงเรียนกับเด็กเกษตร จึงทําให้ต้องเข้ามาสอบที่ตึกเจ้าคุณฯ แล้วมันก้อจะต้องหลงแล้วหาห้องสอบไม่เจอกันทุกรอบไป 55
  • เป็นคณะเดียวในสถาบันที่ไม่ว่าจะมีโรงอาหารสักกี่แห่ง มันก็ต้องตั้งอยู่กลางน้ําเป็นร่ําไป
  • เป็นคณะเดียวที่มีร้านอาหารจากภายนอกมาเปิดโดยสร้างร้านขึ้นเอง โดยไม่ขึ้นตรงกับโรงอาหาร ส่วนโรงอาหารกลับไม่มีร้านข้าวขาย - -" > ย้ายไปหอในเรียบร้อยแล้ว
  • การเข้าเชียร์ของคณะนี้มักเป็นที่กล่าวขาน
  • เป็นคณะที่มีทั้งรับน้องคณะ(เข้าเชียร์) และ รับน้องภาควิชา (เป็นรับน้องที่ยาวนานมากจริงๆ)
  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสาขาวิชา หรือ หลักสูตรวิชามีการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ตามแต่ใจผู้บริหารคณะจะต้องการ
  • เป็นคณะที่แต่ละปีใช้นายกสโมเปลืองมาก
  • การทํากิจกรรมของคณะ จะประมาณว่า ภาคไหนชนะก็ทําไป แกชนะหนิ เชิญทําตามสบาย ภาคฉันแพ้ ฉันไม่สน แต่งานออกมาได้หน้ากันทั้งคณะ แต่ที่ออกตังค์อ่ะ ภาคฉ้านโว้ย
  • เป็นคณะที่มีป้ายคณะมากที่สุดในสถาบัน
  • เป็นเพียงคณะเดียวที่ไม่มีห้องสมุด โดนยุบไปแล้ว -*-
  • ผู้หญิงภาคประมง ถึกที่สุด !!
  • ห้องน้ําตึก L น่ากลัวที่สุดในสามโลก !!
  • ประมาณ 1 ทุ่ม ที่ตึกเจ้าคุณจะมืดมากๆๆ และไฟก็ไม่ค่อยเปิด แถมไม่ค่อยมีไฟอีกตั้งหาก ต้นไม่ก็เยอะ และมันมืดมากจริงๆ ต้องเกาะกลุ่มกันออกจากตึก เพราะไหนจะหลงตึกและอยู่ในความมืดอีก
  • คณะเกษตรนี้ มีสอนภาษาจีนและภาษาอังกฤษให้ฟรีด้วย แต่ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเรียนกัน เป็นการติวให้ฟรี
  • เป็นคณะที่มีทางทะลุไปที่อื่นได้เยอะพอควรไม่ต้องเดินอ้อมไกลๆ ทั้งทะลุไปทางรถไฟ ทะลุจากตึกเจ้าคุณข้ามทางรถไฟไปตึก L(เกษตร)(ทั้งๆที่ตึกเจ้าคุณกับตึก L อยู่ไกลกันมากแต่ก็มีทางที่ใกล้ๆ ไม่ต้องเดินอ้อม) หรือว่าจะเป็นทะลุไปหอสมุด มีทางหมดเลย
  • เป็นคณะเดียว (มั้ง)ที่มีกระต็อบ (กระท่อม) เป็นของตัวเอง (เป็นพวกกระท่อมของชุมนุมในคณะเกษตร)อยู่ตรงข้ามตึกเจ้าคุณ และตอนกลางคืนก็มืดจนน่ากลัว

คณะวิทยาศาสตร์[แก้ไข ]

  • คณะวิทยาศาตร์เป็นคณะเดียวที่ไม่ได้ติด Wifi<<ไม่จริ๊งงง ตอนนี้ติดแล้วแรงด้วยนะ แต่ต้องหลัง 7 โมงครึ่ง และไม่มีสัญญาณในวันหยุดราชการ <<แรงมาก ตัวปล่อยอยู่หน้าห้อง นั่งในห้องมีแค่ขีดเดียวแถมต่อไม่ค่อยติด
  • เชื่อมั้ยว่า ตึกวิทย์เก่าเคยมีเด็กทําการทดลอง เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ จนเกิดการสูญเสียมาแล้ว
  • คณะวิทยาศาสตร์มีโรงอาหารแห่งเดียว และเป็นโรงอาหารสถาบันซะด้วย แต่ดันไม่มีแอร์ <<< มีโรงอาหารคณะแล้ว ไม่มีแอร์แต่ลมเย็นนะจ๊ะ
  • แต่คณะวิศวกรรมศาสตร์มีโรงอาหารหลายแห่ง และบางแห่งยังติดแอร์ด้วย << เฮ้ยหลงคณะแล้วเว้ย
  • สถิติเวลาเรียนที่เคยโหดที่สุด คือ 18.00-08.00 น.คณะวิทยาศาสตร์ ภาคฟิสิกส์ประยุกต์ปี 1 พ.ศ.2548 (ตายดีกว่า!!) และบาง sec ของวิดวะปี 1 เทอม 1 มีเรียน 7 วันต่ออาทิตย์ ตามตารางสอนซะด้วย (โทดครับมีทําแลปตั้งแต่ 9โมงถึงตี2ด้วย ภาคฟิสิกส์ปีเดียวกันนี่แหละ โดนมากับตัว เหอๆ) << สถิติใหม่แล้วครับ ห้าโมงเย็นถึง ตีสาม แต่ยังนอนไม่ได้ ต้องรีบอ่านหนังสือสอบตอนเก้าโมงครับ (ปี 2551)<< สถิติใหม่กว่าจ้า เรียน สิบโมงเช้า ถึงตีสี่จ้า แถมเช็คชื่อรายบุคคลหลังสอน แถมนอนไม่ได้บ่ายสอบแลป (2554)
  • ห้อง Lab ที่มีราคาแพงที่สุด อยู่คณะวิทยาศาสตร์ มีมูลค่ามากกว่า 10 กว่าล้านบาท (อยากรู้รายละเอียด ถามรุ่นพี่ที่นั่น)
  • จะบ่นทําไมว่าห้อง Lab เคมีไม่ติดแอร์ ในเมื่อสารเคมี(หลายตัว)ต้องทดลองที่อุณหภูมิห้อง(ใช่ป่ะ?)
  • โรงอาหารวิดยาเป็นโรงอาหารที่มีเด็กต่างคณะใช้มากที่สุด << อันนี้ยืนยัน เยอะจนเด็ดวิทยาต้องอพยพไปกินข้าวโรงครุ
  • โรงอาหารที่หมาเยอะที่สุดคือโรงอาหารคณะวิดยา
  • คณะวิดยามีการแจกสติกเกอร์ให้นักศึกษาเข้ามาจอดรถในคณะได้ซึ่งในการแจกจะใช้ระบบจับฉลากในหอประชุม เด็กที่ยื่นเรื่องขอไปได้ลุ้นกันตัวโก่งยังกะหวยออก
  • ชั้น 4 ตึกจุฯที่เป็นชั้นภาคชีวะ ต่อให้ไม่ได้ดูเลขชั้นก็ยังรู้เพราะจะมีกลิ่นอาหารเลี้ยงเชื้ออยู่เสมอ (มีกลิ่นอาหารที่กินได้ด้วย มีเตา กระทะ หม้อ น้ําตาล น้ําปลา ฯลฯ ครบคะ)
  • เป็นคณะเดียวที่นักศึกษาต้องแต่งชุดนักศึกษาขึ้นตึกเรียน (ไม่ว่าจะมาจากคณะใดถ้าไม่ใช่ชุดนักศึกษาอย่างหวัง พี่ยามเข้มมากๆ) << ตอนนี้ใส่ได้อิสระแล้วครับ ภาคฟิสิกส์เริ่มจะเป็นวิศวะแล้ว ใส่ชุด นศ แต่ตอนสอบ
  • เมื่อก่อนเคยมีเหตุการณ์ มีนักศึกษาใส่ชอปกําลังจะขึ้นจุ๊ 1 ลุงยามที่เฝ้าอยู่ตึกจุ๊ 3 คอยเป่านกหวีดแล้ววิ่งไปบอกว่าห้ามขึ้น แล้วก็คอยวิ่งอยู่ระหว่าง 2 ตึก ทั้งวัน (= =!)
  • ร้านปั่นแหลก มี แดงมะนาวโซดา ที่อร่อยที่สุด <<<ตอนนี้ร้านไปรวมกับร้านกาแฟหลังตึกจุ๊ 1(ทางเชื่อมไปคณะครุฯ) << นั่นร้านใหม่ จิงๆย้ายเข้าไปอยู่ในโรงอาหารเก่า ใช้ชื่อเดิม คนขายคนเดิม อร่อยเหมือนเดิม ^^
  • ร้านกับข้าวกับปลาจะขายแต่ข้าวกล้อง
  • ร้านป้าช้าโรงอาหารเก่า เส้นเล็กต้มยําน่องไก่อร่อยที่มากกกกกกกกกก
  • จิงๆๆน่าจะมีทางม้าลายมากกว่าสะพานลอยที่หน้าคณะวิดยา จิงๆๆให้ตาย
  • สะพานลอยหน้าคณะวิทย์แทบจะไม่มีเด็กข้าม ส่วนใหญ่เป็นสุนัขอ่ะ
  • ทุกเช้าจะมีหมาสี ดํา-ขาวนอนที่บันได หรือตรงทางที่ขวางคนเดินได้
  • ผู้หญิงวิทยา น่ารักเยอะ <<<เรื่องจริง
  • เด็กคณะวิทย์ลาดกระบัง น่ารักที่สุดครับ
  • เด็กเคมีอุตสาหกรรมจะเรียนถึง 150 หน่วยกิต(โคตรเรียนเยอะ) เเละวิชาเคมีอินทรีย์เป็นวิชาตํานานของภาควิชาเคมีที่ติด F มากที่สุดในสถาบัน <<<สถิติสูงสุด 120 คน
  • เด็กภาควิชาเคมีจะสะพรึงกับวิชา Organic และ Instrument มากที่สุด
  • คนมักจะคิดว่าโรงอาหารสถาบันคือโรงอาหารวิิดยาเเต่จิงๆเเล้วไม่ใช่ โรงอาหารวิดยาอยู่หลังตึกวิดเก่า(เพิ่งจะสร้า้งเมื่อปีที่เเล้วอ่ะ)
  • เด็กวิดยาคนว่าน่ารักเยอะ เเต่ผมว่าเด็ก อก.น่ารักกว่า
  • สนามบาสเคยติดป้าย(ทําจากกระดาษลัง)ห้ามให้คณะอื่นเข้าเเต่ก็เหมือนติดพอเป็นพิธี
  • ปลาคราฟหน้าสโมวิดยาสวยมากเเต่คนมาปล่อยไม่รู้หรอกว่ามันหายไปตัวนึง(เพื่อนผมจิ๊กไปเองเเหละ) << รู้แล้วว่าทําไม นับวัน ปลายิ่งน้อยลง เมื่อก่อนปลาคาร์ฟ ว่ายน้ําแบบมีชาติตระกูล แต่หลังจากเอาปลาสวายลงไปปล่อย จากการถมบ่ออะซิโตน เดี๋ยวนี้ เลยมีกระโดดหมุนตัวด้วย<<ปัจจุบันตายหมดบ่อแล้ว << เพื่อนผมเป็นคนขโมยไปเอง ตอนนี้ยังอยู่ดีในบ่อปลา
  • เป็นคณะที่ให้นักศึกษาซือเสื้อshopแต่ไม่ให้ใส่ขึ้นตึก <<< ใส่ได้แล้วววววววว
  • ข้าวแกงร้านป้าติ๋ว อร่อยอยู่นะ และเป็นแม่ค้าที่มีความประณีตที่สุดในโลก << คนที่กินน้อยๆสามารถกินหมดจานได้ บางครั้งต้องขอพิเศษ >.<
  • เวลาเที่ยงตรงอย่าคิดมากินมากินข้าวโรงอาหารที่นี่ คุณจะไม่มีที่นั่งเลย <<<<ที่นั่งไม่พอ..คนเยอะมาก..ต้องยืนกดดันคนที่กินอยู่...ถึงจะได้ที่นั่งกินข้าว
  • ชั้นสี่ ชีวะ เป็นชั้นที่คับคั่งที่สุด ไม่เคยขาดคน ไม่มีวันหยุด
  • ปัจจุบัน ถนนทางเข้าได้เปลี่ยนไปฝั่งเดียวกับ ครุ แล้ว ถ้าเข้าทางนั้นคุณจะพบกับป้ายตรงไป สี่ป้าย เรียงกัน (กลัวไม่เห็นหรือ) แต่พอทางเลี้ยว มันเจือกไม่มีป้ายเลี้ยว มีแต่ลูกศรบนถนนซะงั้น
  • เวลาฝนตก อย่าคิดไปหลบฝนกลางตึกจุ๊ 3 เพราะจะเปียกเหมือนเดิม (ไม่มีหลังคาตรงกลาง) แถมมีน้ําตกไหลตามทางบันไดให้ดูอย่างสวยงาม,,<<<<ตอนนี้เสร็จแล้ว
  • ตึกจุ๊ 3(ตึกปฏิบัติการหลังใหม่) มีลิฟท์ ด้วย...อยากบอกว่า ขึ้นลิฟท์ไปแปปเดียวเอง..ไวมากกกจริงๆน่ะ(มาสายขึ้นลิฟท์ยังทันอาจารย์)

คณะอก.[แก้ไข ]

  • มีป้ายคณะแล้ว สร้างเสร็จตอนเดือน เมษายน 2552
  • คณะนี้ผู้หญิงดูแลผู้ชาย เพราะผู้ชายน้อยมากกกกกก
  • มีโรงอาหารที่ใช้ร่วมกับคณะเทคโนฯเกษตร แต่ตอนที่เราทําโปรเจ็คเดือนเมษายน 2552 มีร้านอาหารเปิดใหม่แล้ว อยู่นอกโรงอาหาร
  • ตึกเจ้าคุณเป็นตึกที่เดินแล้วงงที่สุด เรียนมาจนจะจบแล้วยังหลงเรย คิดดู
  • เด็ก อก. มีน้อย แต่สามารถครองใจวิดวะได้หลายอยู่
  • คณะนี้ได้ชอปช้าที่สุด!!! ก่อนขึ้นปี 2 วันเดียว
  • ว่าไปคณะนี้ staff หล่อเยอะ ทุเรศเยอะกว่า
  • ตอนเข้าเชียร์พี่รหัสจะบอกน้องรหัสเสมอว่า ไอ้พวกสตาฟมันคือมอไซด์วินที่เกกี น้องเชื่อหมด!!

เรื่องราว ของสาว อก.ลาดกระบัง (credit : "หอยทาก วางแผน กําจัดปลวก แล ผองเพื่อน บรรดาหอย...)

  • อก. ย่อมาจาก อุตสาหกรรมเกษตร ไม่ใช่อาหารไก่นะย่ะ
  • อก.เหมือน รร.หญิงล้วน
 - อัตราส่วน นศ.ชาย :นศ หญิง เท่ากับ 1:7
  • คติประจําคณะ เราจะผลิต สตรีที่หน้าตาดีเข้าสู่อุตสาหกรรม
  • ผู้หญิง อก.ส่วนใหญ่ยังไม่มีแฟน จิงๆนะ (แอบสวยอยู่ที่เจ้าคุณ)
  • ส่วนใหญ่เราจะทักทายด้วยการกอดกัน เพราะเราขาดความอบอุ่น่
 - ส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้ชายนะ ที่กอดด้วย
  • คําด่าของคณะเราแบบ น่ารักๆ คือ สุดริด! ค๊า.. มีท่าทางด้วยนะค่ะ
  • เราจะรู้จักเครื่องสําอางทุก brand""
  • เรามักจะมีเรื่องเม้าชาวบ้านเสมอ อย่าได้พลาดนะ โดน...
  • อาจานมักจะบอกว่า เป็นกุลสตรีหน่อยลูกสาว เดียวจะขึ้นคานกันหมด
  • ใครที่มีแฟนอยู่คณะอื่นๆ ถือว่าผ่านเกณท์มาตรฐาน
  • ถ้าวันไหน ไม่มีเรียนบ่าย จะร่วมตัวกัน ไปกินข้าวคณะอื่น เพราะมันเจริญหูเจริญตา อิอิ!
  • เดือนคณะเราหายากมาก... ผู้ชายขา หายไปไหนหมดค่ะ
  • ปีสามแลปเยอะมาก เฉพาะสาขาหมัก ใครมีหนุ่มๆมาช่วยทําแลปถือว่า สุดริด!
  • หากมีชายใดหลงเข้ามาโปรดจงรู้ไว้ว่า...สุดริด (คุณจะดูดีที่หนึ่ง)
  • สาวคนไหน อยู่เกกี เพื่อนๆมักจะมาหาบ่อย เรียกกันว่ามาเช็ค rating
  • ขอบคุณผู้ชาย แท้ของคณะเพราะเขาจะช่วยงานคณะเสมอๆ ไม่มีพวกเขาคณะเราคงแย่ (งานกรรมกร)
  • การสืบสานวัฒนธรรมไทย ทางด้านดนตรี ยังมีให้เห็นในคณะ
  • ตามหลักสถิติ แล้ว ! สาวอก. มักจะมีแฟนอยู่วิดวะ (แต่น้อยมาก)
  • ช่วงสอบจะได้เห็นสภาพหน้าจิง ของสาวๆ เพราะโทรมมมมมมมมมมม
  • ตึกเราเป็นรูป รังผึ้ง เดินเข้ามาจะงงนะ (ถามสาวๆได้นะจ๊ะ)
  • คณะเราสอบติดกันทุกวัน อาจารค่ะ.. หนุไม่รีบไปไหนน่ะค่ะ
  • พี่ว๊าก หน้าตาก็บ้านๆ แต่สาวๆอยากเป็นแฟนมากที่สุด! (ก็มีผู้ชายอยู่แค่นี้)
  • รับน้องมีแต่สาวๆไปเซง ....
  • ก็ไม่ได้หยิ่งนะค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะยิ้มให้ใคร
  • อุปกรณ์แลปที่ว่าแพง ..... เม่ง ทําแตกได้ทุกอัน
  • ข่าวด่วน มีสาวๆเหงาตาย กองร่วมกันที่ อก.
  • สาขาหมักไม่ใช่หมักปุ๋ยนะ แต่หมักไอ้ที่พวกคุณกินกับกะทิงแดง....
  • เรามีท่านรองคณบดี ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ นารุโตะ
  • ปีหนึ่ง ปีสอง มักจะเรียนที่พระเทพ
  • เป็นคณะที่เราจะรู้จักหมด และจะจําหน้ากันได้ทุกคน
  • การกินเหล้า คณะเราไม่ถือว่าผิดเพราะสุราทุกชนิดเราชิมกันมาหมดแล้ว (แลปวิเคราะห์ความขมของเบียร์ เหล้า Lady to drink Wine ค่ะ)
  • ชอบการดูดวงเป็นที่สุด มีหลายเวอร์ชั่น
  • เรามีชุมนุมสัน ชื่อว่า " แนวหน้า อก."
  • สเป็กหนุ่มในฝัน "หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้" (เป็นแค่ความฝัน)
  • คณะเราผลิตน้ําดื่ม ชื่อว่า น้ําดื่มแคแสด >>>>>น้ําดื่มแคแสด ดื่มแล้วมั่นใจ
  • เป็นคณะเดียวที่ต้องมารายงานตัวตอนเช้า(มืด)ตอนประชุมเชียร์>>>เพื่อ
  • วัน all night มีประเพณีการแลกขนม ซึ่งน้องปีหนึ่งจะได้เยอะมาก
  • พวกเรามีป้ายคณะอันใหญ่ เว่อร์ (สุดริ่ดอ่ะ)
  • คณะเราจะหาบันไดได้ยาก เพราะมันจะแอบอยู่(ต้องเปิดประตูถึงจะเจอ)
  • สาว อก. ส่วนใหญ่จะอยู่หอราชฯ แถวจินดา (เพียบ..)
  • ตึกเรามีห้องเย็นด้วยนะ (พูดแล้วยังหนาวอยู่เลย)
  • D411 เป็นห้องสอบที่โหดมาก ใครได้สอบห้องนี้ขอบอกว่าสุดๆ
  • การทําแลปที่ โหดสุด ก็เลิกประมาณห้าทุ่มอ่ะ
  • คณะเรามีกัน 3 สาขา คือ อุตสาหกรรมเกษตร เทคโนโลยีการหมัก และวิศวกรรมแปรรูปอาหาร
 - อุตสาหกรรมเกษตร เรียกสั้นๆว่า "อุต" 
 - เทคโนโลยีการหมัก เรียกสั้นๆว่า "หมัก"
 - วิศวกรรมแปรรูปอาหาร เรียกสั้นๆว่า "แปร" ^^

คณะไอที[แก้ไข ]

  • ตึกที่บรรดาเด็กลาดกระบังเคยบอกว่า ไฮโซไซตี้ที่สุดนั้นคือตึกไอที
  • คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือคณะไอที มีตึกเรียนที่ไฮโซที่สุดแล้ว เพราะติดแอร์ทั้งตึก เนื่องมาจากเมื่อก่อนตึกนี้ไว้เรียน ป.โทไอทีอย่างเดียว แล้วจึงมีการขยายมาเปิดเป็น ป.ตรีทีหลัง
  • เรื่องน่าแปลกอย่างหนึ่งในตึก IT คือ หมา และ แมว ในช่วงหัวค่ํา มันจะชอบแอบเข้ามาในตึกเพื่อเข้ามานอน แน่หละเพราะตึกเย็นสบาย แถมชอบขึ้นไปนอนชั้นสูงบนด้วย เช่น ชั้น 3 ชั้น 5 อันนี้พี่ยามหน้าตึกก็ช่วยยืนยัน <-- ไม่มีนะ หรือเข้ามาเรียนไ่ทันไม่รู้ แต่แถวคณะแทบไม่มีน้องหมา น้องแมวเลย
  • ตึกคณะ IT เป็นตึกเดียวที่มีชั้น 4 แต่เปรียบเสมือนไม่มีชั้น 4 เพราะชั้น 4 คณะ IT มีแต่รอยปูนฉาบ จนบัดนี้มันก็ยังมีแต่ความว่างเปล่า ในคณะที่ชั้น 5-6 เป็นชั้นวิจัยและสํานึกงาน ซึ่งเพียบพร้อมสมบูรณ์(แล้วจะทําข้ามชั้น 4 ทําไม?) <-- เพราะว่า ห้องเรียนมีมากเกินความต้องการของทั้งคณะ ชั้น 4 จึงไม่รู้ว่าจะสร้างอะไรดี <---- ตอนนี้ทําเป็นห้องนั่งเล่นทีใหญ่และน่านั่งเล่นมากกกก เห็นรุ่นพี่เปิดให้ดูตอนงาน it is IT *-* <-- ตอนนี้ชั้น 4 เป็นของการบินแล้ว Common room ย้ายไปใช้พื้นที่ห้องสมุดเก่าแทนจ้า
  • ห้องนั่งเล่นบนชั้น 4 มีชื่อว่า "ห้องสันทนาการ" (Common Room) ซึ่งเราเรียกกันติดปากว่าคอมมอน <- ตอนนี้อยู่ห้องสมุดเก่าแทน
  • ห้องคอมมอนเป็นห้องนั่งเล่นติดแอร์ มีโต๊ะขนาดใหญ่ (นั่งได้ 10 คนต่อโต๊ะ แต่ต้องไปเดินแย่งเก้าอี้กันเอง) โต๊ะกลาง (ประมาณ 4 คนต่อโต๊ะ) โต๊ะเล็ก (2 คน) โซฟา ไวท์บอร์ด และปลั๊กไฟพร้อมใช้งาน
  • คณะ IT เคยได้ชื่อว่านักศึกษาหญิงน่ารัก แต่ 3 ปีก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจาราณาคดีความให้ข้อหานี้ ตกไป -*- (เพราะมันมีอยู่แค่ปีละไม่กี่คนหนะสิ)
  • และผู้หญิงในคณะที่มีอยู่น้อยนิดดันชอบกินกันเอง....
  • คณะ IT มีรองนาวสาวไทยอันดับ 3 เรียนอยู่และสําเร็จการศึกษาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!! (พี่น้ําผึ้ง ชมพูนุช นั่นเอง)
  • ตอนช่วงเชียร์ของไอทีรุ่น 7 มีสุนัขเกิดใหม่ 7 ตัวพอดี
  • ตึกคณะไอที ใช้ในการถ่ายภาพยนตร์เรื่อง 5 หัวใจฮีโร่ด้วยนะ เปลี่ยนเอาตึกคณะกลายเป็นโรงพยาบาลหัวใจ
  • คณะไอทีมีตึกที่ติดแอร์ แต่โรงอาหารไม่ติดแอร์ แถมยังต้องเดินออกจากตึกเพื่อไปโรงอาหาร (ฝนตกก็ซวยไป ไม่ต้องกินข้าว) <-- เดี๋ยวนี้คณะมีโครงการเอาร่มมาตั้งไว้ให้ยืมใช้ได้
  • ตึกไอทีไม่มีตู้ ATM - ปัจจุบันมีแล้ว ตั้งอยู่ระหว่างตึกคณะไอทีกับวิทยาลัยบริหาร <-- ตอนนี้มีตู้ scb ที่โรงอาหาร
  • ตึกไอทีมีองค์ประกอบของสลิงค์ทั้งตึก ด้วยเหตุนี้จึงทําให้มีถังดับเพลิงอยู่เต็มไปหมด ถ้าไฟไหม้ขึ้นมา มันจะพังลงมาทั้งตึก
  • มี Auto Door สองบาน แต่เปิดใช้งานแค่บานเดียว เพราะยามเฝ้า Auto Door มีไม่พอ (ทางเข้าหน้ามี auto door หนึ่งชั้น อีกชั้นเป็น auto hand [เพื่อไรหว่า])
  • (เพิ่มเติม) ถ้าว่างจัดไปยืนนิ่งๆที่ auto door ซักพักจะพบกับความหรรษา ..............<<ประตูหนีบเองได้
  • คณะไอที คัดเลือกนักศึกษาจากวิธี สอบตรง (เป็นส่วนใหญ่) <- รุ่น 60 มีgat patเพิ่มมาด้วย
  • นักศึกษาไอที มีจํานวนต่อชั้นปีน้อยที่สุดในลาดกระบังแล้ว ชั้นปีละประมาณ 100 คนเท่านั้น <- เพิ่มเป็น 150 คน <- รุ่น ปี59 มีเกือบ 200 คน <- อาจจะไม่จริงแล้ว เพราะ สถาบันเปิดคณะใหม่เยอะ
  • จากข้อก่อนหน้า ถ้านักศึกษาคนใดมีรถยนต์เป็นของตัวเอง จะกลายเป็นรถประจํารุ่นในทันที
  • ยิ่งเป็นรถกระบะยิ่งซวยเลย ขนของทุกงาน
  • เนื่องจากเด็กไอทีมีเรียนอยู่แต่ที่ตึกไอที ทําให้โอกาสในการพบปะผู้คนคณะอื่นมีน้อยมาก สุดท้าย ก็ได้เป็นแฟนกันอยู่แต่ในคณะนี่แหล่ะ - -* <-- นอกจากวิชาเลือกแล้ว เราแทบไม่ต้องออกไปเรียนตึกเรียนรวมเลยจริงๆ
  • โรงอาหารไอที เปิดไม่เกิน 4 ร้าน ... เป็นร้านน้ําซะ 2 ร้าน ... วันไหนที่ไม่เปิด ก็ต้องหนีไปกินคณะอื่นแทน (ปัจจุบันเปิดครบทุกร้านแล้ว) <-- ไม่นับร้านน้ํา ปกติก็จะเปิดราวๆ 5 - 6 ร้าน <-ล่าสุดเปิดเต็มที่ประมาณ 3-4 ร้าน ทั้งๆที่สร้างบล็อกมาเพิ่ม แต่ไม่มีใครมาเปิด T_T
  • พื้นดินบริเวณคณะไอที ทรุดลงทุก ๆ ปี สังเกตุได้จากรอบตึก
  • คณะไอทีมีห้องออดิทอเรี่ยมที่หรูหราที่สุด คนที่มาทําห้องออดิทอเรี่ยมให้ คือเจ้าเดียวกับที่ทําโรงภาพยนตร์ SF
  • ถึงคณะไอทีจะติดแอร์ทั้งตึก แต่ก็ไม่เคยหนาว
  • "จอห์นนี่" คือชื่อของสุนัขที่เป็นมิตรกับนักศึกษามากที่สุด บ้างก็เรียกจอห์นนี่ว่า "เสนอหน้า" เพราะมันจะไปหานักศึกษาทุกหนแห่งที่นักศึกษาทํากิจกรรมในคณะ น่าสลดใจเพราะตอนนี้มันได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว อายุของมันราวๆ 1 ปีกว่าๆ มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆเลย ^^
  • พ่อของ "จอห์นนี่" เป็นหัวหน้าแก๊งสุนัขประจําคณะไอที คนที่นี่เรียกมันว่า "Head" ทุกๆเย็น Head จะนําลูกน้องเดินแถวตรวจตรารอบๆคณะ
  • คณะ IT เป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับวิทยาลัยบริหารฯ เพราะต้องแชร์โรงอาหารร่วมกัน และตึกเรียนอยู่ติดกัน (บริหารฯ ใช้ตึกสํานักวิจัยคอมพิวเตอร์ อยู่ข้างไอทีเลย)
  • ทุกๆ เช้าที่เดินเข้าคณะด้วยประตูด้านล่าง ยามจะทักว่า "เอาเสื้อเข้ากางเกงด้วยครับ"
  • มีร้านถ่ายเอกสารที่เปลี่ยนหน้าคนถ่ายแทบจะทุกเดือน (ตอนนี้ไม่มีแล้ว) <--- ล่าสุดมีนะ อยู่ข้างๆห้องน้ํา
  • ห้องน้ําสะอาดมากๆ ทุกชั้น (เพราะแม่บ้านนั่นเอง ชาบูให้แม่บ้าน ชาบู!!! ชาบู!!! ขอบคุณครับ)
  • ลานอเนกประสงค์หลังคณะ คนที่นี่จะเรียกว่าลานเชียร์ เพราะใช้ในกิจกรรมเชียร์ <-- ตอนนี้กลายเป็นที่จอดรถละ เพราะ สถาบันทําระบบจราจรใหม่ให้มาเข้าทางคณะเรา ที่จอดรถหลังตึกเลยต้องยุบไป
  • เคยน้ําท่วมคณะครั้งหนึ่ง ตึกคณะกลายเป็นเกาะ ถนนกลายเป็นคลอง กระสอบทรายเป็นบังเกอร์เหมือนในสนามรบ
  • ร้านป้าขายไอติมใต้ตึกคณะ ตักไอติมขี้โกงนักศึกษา ใส้ในกลวง <--- ปัจจุบันป้าไม่ขายไอติมตักแล้วเพราะเมื่อยแขน ขายแมกนั่มแทน <-- ตอนนี้เป็นเนสท์เล่ย์แล้ว
  • แต่ป้าบอกว่า ป้าขายไอติมเก็บเงินไปเที่ยวยุโรป
  • เราจะรู้จักป้ากันในอีกชื่อหนึ่งคือ "ป้าไม่ได้อะไรเลย" (ป้าขายถูกมากแทบไม่ได้กําไรเลยที่เดียว)
  • ซึ่งเราก็รู้กันว่าป้าโกหก (ป้าหลอกหนู แงแงแง)
  • ป้าไม่ได้อะไรเลย แล้วป้าจะขายทําไมมมม
  • แต่ป้าเฟรนด์ลีนะ
  • เมนูใหม่ (ณ ก.ย. 2559) คือข้าวกล่องราคา 25 บาท ปริมาณกําลังดี มักขายตอนกลางวันและมักเป็นข้าวไข่เจียว ใส่มาในกล่องกระดาษแบบดูดี ถูกสุขลักษณะมากๆ <-และมันก็จากไปในเวลาไม่นาน เพราะ ป้าไม่มีสิทธิ์ขายข้าว ถ้าจะขายข้าวต้องอยู่โรงอาหาร <- ตอนนี้ป้าก็ขายข้าวเรื่อยๆ พวกข้าวไก่ทอด ข้าวไข่เจียว ถ้าช่วงเปิดเทอมอาจมีสปาเก็ตตี้ หรือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (คาดว่าเพราะรับนักศึกษามาเพิ่มขึ้น แต่ร้านข้าวมีเท่าเดิม ป้าเลยขายได้มั้ง(?))
  • เก้าอี้ห้องออดิทอเรียมมีสกิลดูดวิญญาณ <- นอนสบายจริงๆการันตี
  • เพียงเอนหลัง และเอาหัวพิง HP ของนักศึกษาจะลดลงเรื่อยๆ (อาจารย์โชติพัฒน์ได้กล่าวไว้)
  • ออดิทอเรียมจึงมีอีกชื่อนึงว่า "ห้องดูดวิญญาณ"
  • เป็นคณะที่มีทางเลือกในการเล่นอินเทอร์เน็ตเยอะและครอบคลุมมาก ทั้งเน็ตคณะ, เน็ตสถาบัน (@KMITL, KMITL-WiFi), True Wi-Fi และ 4G เรียกได้ว่า ไม่มีวันขาดแคลนเน็ต (เว้นแต่มันจะเน่าหมดพร้อมๆกันซึ่งไม่น่าเป็นไปได้)<-มันเคยเป็นมาแล้ว <- ตอนนี้ true wi-fi หายไปแล้ว เหลือแต่เน็ตคณะกับเน็ตสถาบัน
  • ถึงกระนั้น ห้อง 226 ก็ยังเป็นจุดอับสัญญาณ <- 224 เอามาติดแล้วกําลังจะเพิ่มด้วยนะ
  • เน็ตแรงมากสมกับเป็นคณะไอที เคยวัดที่ห้องแล็บ 203 เมื่อเดือน ก.ค. 2559 ได้ความเร็วดาวน์โหลดเกิน 600 Mbps (เซิร์ฟเวอร์ในประเทศ) <-- สิงหา 60 วัดได้ 1Gbps!
  • มี Access Point กระจายสัญญาณ Wi-Fi แทบทุกหน้าประตูห้อง (ตั้งแต่มี True Wi-Fi ก็มี Access Point แทบจะทุกๆ 5 เมตรเลยทีเดียว)
  • ที่คณะมี True Wi-Fi แต่น่าจะเป็นที่เดียวที่ใช้ชื่อ SSID ว่า WINNING <---ไม่มีแล้ว
  • น่าแปลกใจ เมื่อใช้จริงผ่าน Wi-Fi พบว่า True Wi-Fi ดันไวกว่าเน็ตคณะ (เสียใจ TT) <- แต่ถ้าเนตสถาบันล่ม 4G คือชีวิตสุดท้าย <- เด๋วนี้เนตคณะแรงแซงทรูไวไฟไปแล้วจ้า <- เดี๋ยวนี้ไม่มี True Wi-Fi ด้วยซ้ํา T^T
  • ในทุกๆ วัน จะมีคนเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาผ่าน Facebook เช่น หนูเป็นเกย์ค่ะ, เหงาตูดจัง เป็นต้น (แม่งแฮ็กกันทุกวัน 555+)
  • และในทุกๆ วันจะมีรูปเพื่อนหลับ..อิ๊อิ๊
  • ทุกวันนี้ไม่มีหมาในคณะแล้วเพราะ กทม. จับไปหมด T___T
  • น้ําพุหน้าคณะเป็นยิมโปเกมอนโก <- อะไรคือโปเกม่อนโก
  • เพจแกล้งเพื่อน เห็นได้เป็นธรรมดาของสัตว์ตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่นเพจ เก่งมากเจ้าโดบะ[1]
  • ขั้วโลกเหนือกับห้องคอมม่อน ใกล้กันมาก แนะนําผู้เยี่ยมชมซื้อขนมไปเลี้ยงนกเพนกวินในห้องด้วย
  • ออดิทอเรียม มี หน้าจอใหญ่ยักษ์ ที่นังระดับโรงหนัง ลําโพงหน้าหลังกลาง ขาดอย่างเดียวก็ป๊อปคอร์น (เหมือนไม่เหมือนยังไง ก็ต้องไปลองเอง)
  • วิธีที่จะต่อราคาที่ีร้านป้าไม่ได้อะไรเลยนั้น คือการหยิบแล้วถามราคา วางลง แล้วถามใหม่
  • เน็ดคณะ SSID ชื่อว่า ITFORGE_UFO ก็เพราะว่าเราเตอร์เหมือนจานบิน (ไอตอนแรกก็นึกว่าคนใช้เป็นต่างด้าว)
  • คณะมีห้องสมุดด้วยนะจ๊ะ แต่หลายๆคนคิดว่าเป็นห้องจดหมายเหตุ (หนังสือโบราณเต็มชั้นวางเลย ปี 2550 อ่ะเธอ) <- ปัจจุบันเหลือแต่ห้องสมุดที่ไม่มีหนังสือแล้ว เพราะ โดนขนไปรวมกับหอสมุดกลาง <- ตอนนี้กลายเป็นห้องแข่ง eSport ตอนงาน IT Openhouse, IT3K <- แปรสภาพเป็น Common room โดยสมบูรณ์(เสียดายแค่เอาเก้าอี้กับโต๊ะเข้าไปวางๆ ไม่ได้ทําให้สวยเหมือน Common room ตอนอยู่ชั้น4)
  • อินเตอร์เน็ดห้อง 223 ไม่เคยไปถึง กรุณาเรียนอย่างเดียว <- ไม่จิง ตอนนี้มีให้ต่อแล้ว
  • คณะมีที่จอดเฮลิคอปเตอร์ในแผนผังคณะ ขณะนี้ยังเป็นที่รกร้าง <- ตอนนี้สถาบันขุดเป็นบ่อ ที่มีป้ายเกร๋ๆว่าเป็นแก้มลิง
  • คณะเดียว ที่ห้องคอมม่อนเหมือนบ้าน เก็บของอะไรไว้ที่ห้อง ไม่หายแน่นอน <- iPad มันเคยหายไป
  • ห้องคอมม่อนมีบอร์ดเกม สายปลั้ก โซฟา ขาดก็แค่หม้อต้มนําร้อน ผ้าห่ม นอกจากนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากห้องนอนเท่าที่ควร <- ผ้าห่มนี่เคยเห็นคนขนมานอนที่โซฟาเป็นระยะ

นอกรั้วสถาบัน[แก้ไข ]

  • หอพักซอยเกกี ทั้งหลาย หลังๆมาผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยแต่ก็เต็มทุกที่นะ

มีช่วงหลังๆที่เค้ารณรงค์ให้รักนวบสงวนตัวไรนั้นนะ ตอนแรกแต่ละหอพักจัดการซะยกใหญ่เลย ว่าต้องแบ่งหอนี้เป็น ชาย หรือ หญิง แยกไปเลย จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นแยกเลยนะ ...เหอๆ

  • ซอยเกกีงามเป็นชุมชนหอนอกที่ใหญ่ที่สุด พลุกพล่านที่สุด มีคนพักอาศัยมากกว่า 3 พันคน(จากการประเมินเบื้องต้น) มีราคาตั้งแต่ 1700-5200 บาท ยังไม่รวมค่าน้ําค่าไฟ
  • ซอบเกกีงาม 2 เมื่อฝนตกสามารถแปลสภาพเป็นคลองใด้ในพริบตา
  • ซอยเกกีงาม 2 จะเป็นหายนะ เมื่อฝนตก <--- ทําถนนแล้วตอนนี้ดีขึ้นเยอะ
  • อยู่เกกีไม่มีทางอด ตี 3- ตี4 ข้าวไข่เจียวยังขายอยู่เลย
  • ซอย RNP เป็นซอยที่มีหอหรูโคตร คนพักเยอะโคตร และที่สําคัญไกลโคตร (อาจต้องพึ่งพี่วิน)<--- ไม่อาจแล้วพี่ <<<<ต้องพึ่งเลยล่ะ
  • ซอยจินดา , บารอม , หอราช มักจะถูกมองว่าไกล แต่จริงๆ แล้วมันก็พอๆ กันหมดแหละ <- ถ้าจากหอรา หรือจินดาจะขึ้นสองแถวปากซอยเข้ามาในมอได้ แต่ถ้าจากบารอมต้องเดินไปรรอขึ้นสองแถวตรง fbt แทน
  • จากซอยจินดา ทะลุมาวัดปลูกเกกีได้ <- จุดที่เดินทะลุเข้าวัดปลูกนี่ไกลจากจินดามากนะ ข้ามสะพานไปอีก <- เสริมนิดนึงว่าจากจินดาเดินเข้ามาในสถาบันโดยผ่านทางซอยโรงบาลลาดกระบังได้ จะมาโผล่ตรงแถวสถานีรถไฟหัวตะเข้
  • มาถึงซอยเกกี อย่าลืมเดินเลยไปที่วัดปลูกศรัทธา ไปให้อาหารปลา แล้วท่านจะพบกับปลาตัวใหญ่เว่อร์จริงจัง,<<<<<ใหญ่มากกก
  • ทางไป RNP กันดาน + น่ากลัวมาก ลองเดินไปคนเดียวมืดๆ สิ จะรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังผียังไงยังงั้น <<<< ไม่เจงงง เคยลองเดินแล้ว
  • เกกี 4 บางคน เรียกซอยโลกีย์ (เต็มไปด้วยร้านชาข้าวบาเล่ย์) <- ปัจจุบัน เกกี4 กลายเป็นซอยร้านข้าว เพราะ ท่านผู้นําได้สั่งปิดร้านชาข้าวบาร์เล่ย์เรียบร้อย <-และปิดร้านข้าวตรงทางรถไฟไปด้วยเช่นกัน T___T <- มีโรงอาหารใหม่โผล่มาในซอยเกกี2แทน

ความเชื่อ&เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]

ความเชื่อ[แก้ไข ]

  • ว่ากันว่าถ้าเจอพี่เห้แล้วไม่ไหว้ จะติดโปร

"แล้วผมเจอตอนมันโดนรถเหยียบแล้วต้องไหว้เปล่าเนี้ย "

  • เด็กลาดกระบัง ต้องเคยกินเหล้าริมรางรถไฟ (กึ๊ดดดดด...

เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]

  • ตึก A คณะวิดวะ ห้องน้ําหญิงชั้น 5 จะมีศาลพระภูมิ มีเรื่องเล่ากันว่าเป็นหญิงสาวคณะสถาปัตย์อกหักจากหนุ่มวิศวะแล้วเสียชีวิตที่นั้น บางตํานานก็ว่าเป็นคนงานก่อสร้างตึก (เรื่องเป็นไงไม่รู้ แต่มีหนังเอาไปสร้างแล้ว เรื่อง มหาลัยสยองขวัญ)
  • ตึก B คณะวิดวะ เป็นตึกที่มีบันไดวกวนมาก มีข่าวลือว่าตอนที่สร้างตั้งใจจะสร้างเป็นลิฟท์ แต่ไม่สามารถสร้างแล้ว ประกอบกับมีคนงานได้รับอุบัติเหตุอยู่เรื่อยๆ ก็เลยเปลี่ยนมาสร้างเป็นบันไดวนแทน ซึ่งว่ากันว่าจะทําให้สิ่งลึกลับนั้นงงจนไม่สามารถมาทําร้ายคนได้
  • มาเรื่องลี้ลับบ้าง ห้องน้ําหญิง ตึก A ชั้น 5 ของคณะวิดวะ เป็นแหล่งลองของชั้นดีของผู้ที่ต้องการ เพราะมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย แล้วในห้องน้ํานั้นมีแม้กระทั่งศาล (เคยขึ้นไปด้วย จะบอกว่า ตามตํานานคือ สาวถาปัด อกหักจากหนุ่มวิดวะเลยไปผูกคอตาย ที่ว่าสาวถาปัด เพราะจะมีงานวูดคัท ซึ่งเด็กถาปัดต้องได้ทํา อยู่บนหิ้งด้วย ใครอยู่รุ่นแรกๆ แล้วขึ้นไปก็จะได้เห็นรูปเล็กๆของชีด้วย ตอนนี้ไม่มีแล้วแต่ศาลยังคงมีอยู่ ที่สําคัญห้องน้ําตรงนั้นยังเปิดใช้อยู่ แต่บางตําราบอกว่าเป็นสาวคนงานก่อสร้างต่างหาก)--> ตอนนี้ไม่มีแล้วเพราะอัญเชิญลงมาตั้งศาลข้างหลังตึกแล้ว
  • ที่เสาโทรฯ ปิดมีหลายตํานานมากๆ แต่แต่ละตํานานก็สยองพอกัน
  • มีคนล่ําลือกันเกี่ยวกับเสียงดนตรีไทยที่ตึกพระเทพ.... ชมรมเรา (ดนตรีไทยและนาฏศิลป์) เดิมทีตั้งอยู่ที่ตึกพระเทพ ใกล้ๆ สระว่ายน้ํา สมาชิกบางคน ชื่นชอบการเล่นดนตรีไทยโดยที่ปิดห้อง ปิดไฟ และเอารองเท้าเข้ามาให้ห้องให้เรียบร้อย... เหอๆๆๆ ถามเพื่อนๆ หลายคน ไม่เคยมีใครรู้ว่ามีชมรมดนตรีไทยตั้งอยู่ที่นั้น จากนั้นก็ย้ายมาอยู่ชั้น 2 โรงอาหารสถาปัตย์ (ย้ายมา 7-8 ปีแล้ว...) ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า?? ไม่ได้แวะกลับไปนานแล้ว
  • เคยมีคนตกรูลิฟต์ตายที่ตึกอธิการบดี จริงๆ นะ (ประมาณปี 2543 และล่าสุดเมื่อต้นปี 2552เป็นช่างแอร์) << เห็นว่ารอเข้าลิฟต์ แต่เนื่องจากลิฟต์หยุดไม่่ตรงชั้น พอประตูเปิดก็คงเดินเข้าไปโดยไม่ทันดู (ไม่รู้จริงป่าวนะ)
  • เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2530 เคยมีรถเมย์สาย 1067 แฮปปี้แลน - สถาบัน ชนกับรถบรรทุกที่ถนนร่มเกล้าหน้าบริษัทศานติบรรจุภัณฑ์ ทําให้มีผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษา อาจารย์ ของสถาบันฯ รวม 20 ศพ น่ากลัวมากก <--อาจารย์บางท่านอยู่ในเหตุการณ์ครับ ลองถามๆ ได้
  • เคยมีคนขับรถ 143 ชนเด็กปี 4 ตายหน้าหอสมุดได้ยินว่าส่งโปรเจ็คเเล้วรออนุมัติจบ
  • มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับการคุ้มครองโดยพลังลึกลับ เพราะอยู่ใกล้กับอาศรมของท่านฤาษี
  • ตึกโทรเคยมีนักศึกษาป.โทโดดตึก(ไม่มีใครรู้อะดิ)
  • ตึกภาคอุตสาหการ(วิดวะ)เคยมีคนอยู่ในเสา (ลองถามพวกภาคอุตฯดู)
  • มาถาปัตย์กันมั่ง ห้องน้ําข้างสตูดิโอ (ห้องทํางาน)ภาคภายใน ไม่มีกระจก เพราะเคยมีพี่ก้มไปล้างหน้า พอเงยมาส่งกระจก ปรากฎว่าเจอคนยืนแน่นห้องน้ําสะท้อนอยู่ หลังจากนั้นเลยถอดออก วันดีคืนดี อยู่ๆ ก็มีกระจกโผล่ขึ้นมาซะเฉยๆ (เคยมีคนเจอมาแล้ว)
  • สตูฯ ของภาคสน. (ถาปัตย์ภายใน) เฮี้ยนสุดๆ แล้ว เจอกันบ่อยมากๆ
  • มีเชียร์ถาปัตย์ทีไร จะต้องมีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นปีละครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงลึกลับที่ร้องช่วยน้องๆ เวลาร้องเพลงคณะไม่ได้ (ขนลุกค้าบบ)
  • ทางเดินหลังคณะถาปัตย์ เมื่อก่อนเคยเป็นที่ประหารของกลุ่มโจรแขก เคยมีคนเห็นขบวนทัพโจรแขกตอนดึกๆ ดื่นๆ มาแล้ว
  • ตึกทรงไทย ก็มีคนเจอบ่อยเช่นกัน
  • แถบนี้ทั้งแถบ สมัยก่อนเป็นป่า บ้างก็ว่าป่าช้า เป็นสนามรบบ้าง

ของกิน[แก้ไข ]

เมนู แนะนํา[แก้ไข ]

  • ก๋วยเตี๋ยวฮ่องเต้(ตรงซอยที่ดิน)
  • ส้มตําคุณนาย
  • สง่า หมูกระทะ ปิดไปแล้ว
  • ซื่อฉาย ราดหน้า
  • หมูปิ้ง ปากซอยจินดา <------- ข้าวเหนียวนุ่มมากๆ
  • ก๋วยเตี๋ยวป้าหน่อย (เดิมอยู่ซอยตรงข้ามหอชัยพฤกษ์ ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่สนามบอลFBT ตรงข้าม ม.รุ่งอรุณ2 แล้ว อร่อยเหมือนเดิมๆๆ) (*ขณะนี้ป้าหน่อยได้ย้ายไปอยู่ซอยร้านพันซ์ ติดคลอง คนทํายังยังเป็นป้าหน่อยคนเดิม)
  • egg noodle nayhui...soi thipwaree
  • ก๊วยเตี๋ยวปลา/ต้มยํา/ลวกจิ้ม ที่อร่อยที่สุดในโลก ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาโรเบิร์ท หน้าปากทางเข้าหมู่บ้านรุ่งกิจวิลล่า 7 (ทางไปร่มเกล้า) ไม่เชื่อลองดูดิ..
  • ชานมไข่มุก ซอยจินดา inwacha ชงสด อร่อยมาก
  • ข้าวแกงอินเตอร์ ในโรงเอและโรงแอล ที่รูปตัวอย่างโคตรน่ากิน แต่ของจริง..........
  • คอม ป้าเอม <--- อร่อยจริง คอนเฟิร์ม
  • สไบนางกุ้ง ป้าดา
  • ข้าวคอหมูน้ําตก ร้านส้มตําหน้าร้านป้าดา
  • ปังเย็นพี่กิ๊ฟ&พี่พี ข้างร้านป้าดา
  • เฉาก๊วย+เต้าหู้นมสดเกกี
  • ส้มตําปากซอยเกกี 2
  • ข้าวตามสั่งหน้าหอรุ่งอรุณ 2 อร่อยมาก ราคาถูก <------ เมื่อก่อนไปกิน ไม่เปิดแอร์ มีฝุ่นด้วย สระว่ายน้ํา รุ่งอรุณ 2 ยัง ใช้ได้มั๊ยเีี่นี่ย
  • เติมนม & มอมิลค์ เกกี
  • ร้านโอมิยาเกะเฮ้าส์ ที่ซอยจินดาข้างโรงอาหารเก่า (เดิมโรงเรียนอนุบาล) มีสมูตตี้ผลไม้สดแท้ เพื่อสุขภาพ เมนูขนมแสนอร่อย ชาเขียว ชา กาแฟ บรรยากาศร้านดี รสชาติอร่อย เจ้าของร้านเป็นกันเอง อย่าลืมแวะไปชิม
  • ไข่เจียวป้าลําดวน
  • ก๋วยเตี๋ยวกัญชา ซ.จินดา อร่อยงอมแงม
  • เกี๊ยวกุ้ง ขี้เหล้า (ไม่ว่าคุณจะดื่มมาจากร้านใหนก็ตามแทบทุกคนต้องมาจบที่ร้านนี้) เดิมอยู่ริมน้ําตลาดหัวตะเข้ ขณะนี้ย้ายมาอยู่ที่โรงอาหาร ซ.จินดา เปิดเร็วขึ้น เริ่มขายตี2 และปิดช้าลง บ่ายๆยังกินได้ <----- ตอนนี้เปิดร้านตอน 1ทุ่ม ก็ไปกินได้แล้ว (บะหมี่เกี๊ยวกุ้งต้มยําอร่อยมาก) <-- ตอนนี้เปิดร้านตั้งแต่สายๆ แต่ขายยันดึกดื่นเหมือนเดิม
  • หมุย่างเทียงคืน เกกี2 ขายบ้างไม่ขายบ้าง แต่ขายทีไรคิวยาวเป็นหางว่าว
  • ฮ่องเต้กระทะร้อน ซอยหอ ABC ป้าใจดีมาก อร่อย ราคาไม่แพง
  • พาสต้าโฮม มีทั้งพวกพาสต้าทั้งอาหารตามสั่งแบบไทยๆ อร่อยทุกเมนู แต่อยู่ลึกเข้าไปในซอยจินดา(ไปช้าของหมดด้วย)
  • ร้านชาบูเยอะมาก แต่ที่แนะนําและเปิดมานานแล้ว ก็ โคเคชิ กับ ชาบูยูไลค์ แต่สองร้านนี้จะอยู่โวนนอกมอ ส่วนในมอเลย มีที่โวยเกกี บิลเลียน หลายร้านอยู่

เค้าเล่ากันว่า[แก้ไข ]

  • ส้มตําในซอยของถนนข้างตึก 12 อร่อยสุดแล้ว <---- ย้ายไปโรงอาหารหลังตึก ECC (โรงแอล) แล้ว
  • ร้านบางกอกเป็นร้านเหล้าที่อยู่นานที่สุด <----- อันนี้ต้องบอกว่าเปิดเป็นร้านแรกถึงจะถูก ตอนนี้ปิดไปแล้วเพราะกระแสดนตรีสด แต่ถ้ายังอยากนั่งร้านสไตล์นั้น เฮียเปาเจ้าของร้าน เปิดร้านอาหารที่บ้านแก หลัง FBT ถ้าคิดถึงลองไปดู
  • รุ่นพี่ชอบพาน้องรหัสไปเลี้ยงที่ร้านพันช์ <---- อาหารไม่อร่อยคับ
  • ตลาดหัวตะเข้ มีร้านขายขนมจีนที่อร่อยมากเจ้าหนึ่งเป็นคุณป้าแก่ๆ คนหนึ่ง มาขาย จะเริ่มขายราวๆ 5-6 โมงเย็น ไปถึงตอนเช้า ซึ่งช่วงดึกๆ เที่ยงคืนเป็นต้นไป คุณป้าก็จะขายอยู่คนเดียวในตลาด ...... <--- แล้วตกลงมันอร่อยหรือไม่มีอะไรจะกิน!
  • ร้านเต้าหู้นมสด แสนอร่อย เกกีซอย1 ไม่เคยกินนี่ไม่แนวอย่างแรงงง <-------(เพื่อนเราเรียกว่า เต้าหู้กัญชา เพราะกินแล้วติดงอมแงม ซึ่งถ้าหาเค้าไม่เจอ เค้ามักจะวนเวียนอยู่แถวๆร้านนี้)
  • ถ้าเกกีซอย2 ต้องปังเย็น&น้ําปั่นร้านพี่กิ๊ฟ อร่อยมาก.. แล้วก็ถูกด้วย...
  • ร้านพี่แหม่มเกกี2 อาหารอร่อย และให้เยอะมากมาก และก็นานมากมากด้วยเช่นกัน

การเดินทาง[แก้ไข ]

การจราจรครบ รถไฟ รถเมล์ เรือ(หลังถาปัด) และเครื่องบิน

รถไฟ[แก้ไข ]

1. เผื่อเวลาไว้ 2 ชม. เหมือนไปขึ้นเครื่องบิน เช่น จะขึ้นรถรอบ 8.00 ที่หัวลําโพง รถอาจจะมา ถึงตามตาราง 9 โมงหรือนอกตารางเช่น 10 โมง 10 โมงครึ่ง ก็ได้ ใครจะไปรู้

2. ลงที่สถานี "พระจอมเกล้า" หรือไม่ก็สถานี "หัวตะเข้" ไม่ใช่ สถานี "ลาดกระบัง" เคยมีคนลงผิดมาแล้ว ไปต่อไม่ถูกเลย

3. จําไว้ว่าคนขับรถไฟจะยึดคติ "มาตรงเวลา เราไม่ มาสายๆ เราชอบ" นี้อย่างเคร่งครัด 10 ขบวน แหกกฎแค่ 1 ฉะนั้นต้องเข้าใจเวลารถไฟมาเลทไป 1 ชม. 38 นาที

4. ฟิตซ้อมร่างกายอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถวิ่งขึ้นรถไฟ ได้อย่างทันท่วงที เพราะบางทีรอบที่คุณคิดว่าจะเลท กลับมาตรงซะงั้น ทําให้คุณต้องวิ่งจากซอยเกกี มาที่สถานี ข้ามฟากไปซื้อตั๋ว แล้วกลับมาขึ้นรถไฟ ไม่ฟิตจิงอาจสลบคา บันไดรถได้

 หากคุณคิดว่านี่เว่อร์เกินไป ดูของจริงได้ที่สถานีรถไฟ รอบประมาณ 4 โมง แล้วคุณจะเห็นด้วยตาคุณเอง



5. ถ้าคุณเพิ่งมาเรียนที่นี่เป็นปีแรก อย่าเพิ่งนั่งขบวนที่มาจาก อรัญฯ รอบนี้สงวนไว้ให้
กับผู้ที่มีประสบการณ์มาแล้วอย่างน้อย 1 ปี (ขนาดอยู่ปี 4 บางทียังไม่อยากจะนั่งเลย)

แต่ถ้าอยากพบกับประสบการณ์อันเลวร้ายตั้งแต่วันแรกๆ คุณจะไม่ผิดหวังเพราะคุณจะได้เจอ
- คนกินเหล้าโวยวายเสียงดัง
- กลิ่นเหงื่อ อันตลบอบอวลไปทั้งขบวน
- ไม่มีที่นั่งให้คุณนั่ง จนกว่าจะถึงหัวหมาก
สําหรับผู้โชคดี 12 ท่านแรก ท่านอาจจะได้เจอ
- แมลงสาบวิ่งตามขอบประตูหน้าห้องน้ํา
- มดไต่ตามขอบหน้าต่าง

* หากคุณคิดว่านี่เว่อร์เกินไป ดูของจริงได้ที่สถานีรถไฟ รอบประมาณ 6 โมง แล้วคุณจะเห็นด้วยตาคุณเอง


6. ซื้อตั๋วให้เรียบร้อยก่อนขึ้นรถ ถ้าไม่ได้ซื้อ หรือ วิ่งไปซื้อไม่ทัน (เนื่องจากไม่ฟิตร่างกายตามข้อ 4) ให้ทําตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- แกล้งหลับ ในกรณีที่ได้นั่ง แต่ถ้านั่งไปกับเพื่อน แล้วเพื่อนไม่หลับ ยื่นตั๋วให้เค้าตรวจ แถมบอกว่ารู้จักกัน อันนี้ก็ควรที่จะสรรเสริญเพื่อนด้วย หลังจากจ่ายค่าปรับไปแล้ว
- เข้าห้องน้ํา กะจังหวะว่าได้ยินเสียง แก็บๆ มาเมื่อไหร่ ก็เข้าห้องน้ําไปเลย ฟังเสียงว่าเสียงผ่านไปไกลแล้วค่อย ออกมา วิธีนี้ต้องมั่นใจว่าจมูกจะทนกลิ่นในห้องน้ําได้ และหูคุณต้องดีเหมือนหมา
- เดินผ่านคนตรวจไปเลย บอกว่าตั๋วอยู่กับเพื่อนจะไปเอาอยู่เนี่ย ตามมาปะหละ ร้อยละ 90 นายตรวจจะขี้เกียดเดินตาม

ถ้าทําตามแล้ว ยังไม่รอด ก็ถือว่าชาติที่แล้วทําบุญมาน้อย ชาตินี้เลยต้องมาจ่ายค่าปรับ ทําหน้าตาน่าสงสารเข้าไว้
แล้วบอกว่า 20 ได้มั้ยคร้าบบ (ปกติค่าปรับ 100) ถ้าบุญเก่ายังเหลืออยู่บ้าง นาจตรวจก็อาจจะบอกว่าเอามา 50

7. ไร้สาระมาหลายข้อและ เอามีสาระบ้างละกัน
- จะไปพันทิบ นั่งรถไฟไปลง ป้ายหยุดรถพญาไท แล้วข้ามฟาก นั่งสาย 38 ต่อ หรือนั่ง Airport Link ไปลงราชปรารภ แล้วเดินเอาหน่อย ไม่ไกลมากหรอก
- จะไปสยาม นั่งรถไฟไปลง ป้ายหยุดรถพญาไท แล้วต่อรถไฟฟ้า หรือ รถเมล์สายอะไรก็ได้ที่ไปสยาม หรือนั่ง Airport Link ไปลงพญาไท แล้วต่อ BTS ไปสยามได้เลย
- จะไป 0 ประชุม นั่งรถไฟไปลง ป้ายหยุดรถ อโศก แล้วนั่งรถใต้ดินต่อไปได้เลย หรือนั่ง Airport Link ไปลงมักกะสัน แล้วเดินมาต่อรถใต้ดินที่สถานีเพชรบุรี
- จะไป RCA นั่งรถไฟไปลง สถานีคลองตัน แล้วนั่งรถเมลล์ต่อไปอีก 4 ป้าย
(แต่จะไปวิธีนี้จิงเหรอ แต่งตัวมาสวยๆไปถึง เหมือนคุณป้าเข้า route เนี่ยนะ)
- จะไป เยาวราช นั่งรถไฟไปลงหัวลําโพงแล้ว ขึ้นสายอะไรก้ได้ที่ไปเยาวราช เยอะแยะ แต่ขึ้นให้ถูกป้ายหละ
- จะไป ไหนก้ไปเหอะ

8. รักการรถไฟไทยที่สุดเลย รักนะจุ๊บๆ

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง (เรียงชื่อตาม ก-ฮ)[แก้ไข ]

  • เนย bnk48
  • จรณ โสรัตน์ คณะวิดวะ ดาราช่อง 3
  • ทศพร อาชวานันทกุล (ซิน) นักร้องวง Singular
  • ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ (โป๊ป) คณะสถาปัตย์ ดาราช่อง 3
  • อนุสรณ์ มณีเทศ (โย่ง) นักร้องวงอาร์มแชร์

บทความที่เกี่ยวข้อง[แก้ไข ]


สถาบันการ(削除) (削除ここまで)ศึกษาในประเทศไทยและประเทศเทย แก้
มหาวิทยาลัย

กาฬสินธุ์ | กรุงเทพ | เกริก | เกษตรศาสตร์ | เกษมบัณฑิต | ขอนแก่น | คริสเตียน | จุฬาลงกรณ์ | เจ้าพระยา | ชินวัตร | เชียงใหม่ | เซนต์จอห์น | ทักษิณ | เทคโนโลยีปทุมวัน | พระจอมเกล้าลาดกระบัง | พระจอมเกล้าธนบุรี | พระจอมเกล้าพระนครเหนือ | เทคโนโลยีมหานคร | เทคโนโลยีสุรนารี | ธรรมศาสตร์ | ธุรกิจบัณฑิตย์ | นครพนม | นราธิวาสราชนครินทร์ | นวมินทราธิราช | นเรศวร | แสตมฟอร์ด | บูรพา | ปทุมธานี | พายัพ | ภาคกลาง | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | มหามกุฏราชวิทยาลัย | มหาสารคาม | มหิดล | แม่โจ้ | แม่ฟ้าหลวง | รังสิต | รัตนบัณฑิต | รามคําแหง | วงษ์ชวลิตกุล | วลัยลักษณ์ | เวบสเตอร์ | เวสเทิร์น | ศรีนครินทรวิโรฒ | ศรีปทุม | ศิลปากร | สงขลานครินทร์ | สยาม | สวนดุสิต | สุโขทัยธรรมาธิราช | หอการค้าไทย | หัวเฉียว | หาดใหญ่ | อัสสัมชัญ (เอแบค) | อีสเทิร์นเอเชีย | อุบลราชธานี | เอเชีย | เอเชียอาคเนย์ | กรุงเทพธนบุรี | เที่ยงคืน |

โรงเรียน

ป้องกันราชอาณาจักร | เสนาธิการทหาร | เสนาธิการทหารบก | เสนาธิการทหารเรือ | เสนาธิการทหารอากาศ | นายร้อยพระจุลจอมเกล้า | นายร้อยตํารวจ | นายเรือ | นายเรืออากาศ | โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา | โรงเรียนเซนต์คาเบรียล | โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย | สาธิตเกษตร | สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน | โรงเรียนนายสิบทหารบก | โรงเรียนจ่าทหารเรือ | โรงเรียนจ่าอากาศ | โรงเรียนช่างฝีมือทหาร | โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน | โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม | โรงเรียนเตรียมทหาร | โรงเรียนเกรียนอุดมศึกษา | โรงเรียนรักษาดินแดน | โรงเรียนประตูชัย | โรงเรียนมหิดลเวทยานุสรณ์ | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย | โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย |

รับข้อมูลจาก "https://th.uncyclopedia.info/index.php?title=ไร้วิทยาลัย:สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง&oldid=332446"