ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:27 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity
บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี[แก้ไข ]
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีมีชื่อย่อว่า มทส และคนมักจะเข้าใจผิดกันว่า มทส มีจุดหลังชื่อย่อ ซึ่งจริงๆแล้วไม่มี!และกรุณาอย่าเลือกภาษาไทยเวลาพิมพ์ชื่อมหาวิทยาลัยเป็นภาษาอังกฤษ มันไม่สุภาพ
- มอทอสอ เป็นตัวย่อ เหตุไฉนจึงไม่มีจุดตามหลัง? มีตัวย่อคําใดที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีจุดบ้าง? หาไม่แล้วก็จะอ่านมะ-ทะ-สะ หรือ มะ-ทด ไปเสีย (จริงๆ นะ) ====แก้ไข=== ในตอนแรกนั้น มทส ไม่มีจุด แต่เมื่อประมาณปี 2550 ตามหลักพจนานุกรม หากเป็นคําย่อ ต้องมีจุดตามหลังคําย่อนั้น มหาวิทยาลัยจึงได้มีพระราชบัญญัติ ให้ เป็น มทส.ขึ้นจนถึงทุกวันนี้
- อยู่โคราช หรือ นครราชสีมา
- คนหลายๆ คนชอบคิดว่าเป็นวิทยาลัยเทคนิค เนื่องจากในชื่อมีคําว่าเทคโนรวมอยู่ด้วย ช่วงก่อตั้งมหาวิทยาลัยช่วงแรกๆ จดหมายจะถูกส่งไปยังเทคโนสุรนารี อยู่ใกล้สี่แยกอัมพวัน
- เปิดมา 30 ปี แต่มีนักศึกษา 27 รุ่น...เตรียมพร้อมก่อน 3 ปี
- มีพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ( 7,200 ไร่ )รองจาก ม.วลัยลักษ์ ม.แม่ฟ้าหลวง และ ม.เกษตร กําแพงแสน แต่บางตึกที่จอดรถไม่พอ
- กองบินมักมาฝึกบินเหนือน่านฟ้า มทส (โดยเฉพาะช่วงสอบและเช้าที่เราต้องการพักผ่อนหลังจากไม่ได้นอนทั้งคืน!)
- นอกจากนี้ยังมีกองบินพื้นราบ ที่ปั่นต้นหญ้าหลังหอช่วงสอบทุกเทอม (ไม่เข้าใจว่า เวลาไม่มีสอบทําไมไม่ตัดกัน )==แก้ไข==เดี๋ยวนี้เขาปรับปรุงแล้ว กลายเป็นว่ามาตัดก่อนสอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีนศ.ไปร้องเรียนกับฝ่ายอาคารสถานที่ = แก้ไข ล่าสุด 3/2554 ตัดหลังสอบเสร็จ
- ห้องเรียนมีแอร์ทุกห้อง และมักจะเย็นเกินไป เย็นขนาดเขียนข้อสอบไม่ออก ต้องขอให้ผู้คุมสอบปิดแอร์กันมาแล้ว
- อากาศที่นี่จะร้อนมากในหน้าร้อน และหนาวจัด ลมแรงในหน้าหนาว และจะหนาวมาก ๆ ไม่เกิน 2 สัปดาห์
- ฉะนั้นเด็ก มทส. มักจะสวมแจ็กเก็ตตัวโต ..กันร้อนนอกห้องเรียนและกันหนาวในห้องเรียน
- ชอบเรียกห้องเรียนเป็นตัวเลข เช่นห้องพันห้า (มี 1,500 ที่นั่ง, บรรยากาศเหมือนโรงหนัง, นักศึกษาชอบหลับเรียน=แก้ไข 3/2557 ตอนนี้เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ เป็น 1560 ตัวแต่ก็ยังเรียกห้อง1500 อยู่ดี) แล้วก็ห้อง 300 ห้อง 600 ด้วย
- อ่างสามแสน คืออ่างน้ําที่มีขนาดสามแสนลูกบาศก์เมตร แม้ปัจจุบันจะเพิ่มขนาดเป็นสามล้านลูกบาศก์เมตร แต่คนก็ยังเรียกสระสามแสน=แก้ไข= 3/2557 ตอนนี้มีถนนสําหรับวิ่งออกกําลังกายรอบสระ
- มีสถานที่ที่เรียกว่า หัวใจ มทส ... อยากรู้คืออะไรต้องถามเด็ก มทส เอง | **2562** ปัจจุบันกลายเป็นพื้นท่ี่ของ รพ.มทส. และ รร.สุรวิวัฒน์แล้วจ้า ความไหว้ถนนปลกๆๆๆ ไม่เหลือแน้วววว 5555555
- ห้องสมุดหรืออาคารบรรณสารต้องใช้บาร์โค้ดที่บัตรนักศึกษารูดเข้าเพื่อใช้บริการ (ปัจจุบันใช้ระบบ RFID วิทยุคลื่นสั้นโดยเลือกใช้ Barcode หรือ เอาบัตรผ่านหน้าเครื่องได้)
- จะส่งการบ้านต้องติดบาร์โค้ดเพื่อสะดวกในการตรวจ
- คะแนนสอบบางวิชาออกประมาณ 2 ชัวโมงหลังสอบเสร็จ
- วิชาเรียนคอมพิวเตอร์ทุกชั้นปีมีอัตราส่วนคอมพิวเตอร์ต่อนักศึกษา 1:1
- หอสัญลักษณ์ของ มทส หรือ หอสุรนภา หรือ หอดอกบัว แต่นักศึกษามักเรียก หอแห้ว สูง 82 เมตร เท่ากับตึก 25 ชั้น เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา หน้าที่หลักเอาไว้ชมวิว
- ห้องน้ําหรูที่สุด แห้ง สะอาด มีทิชชู เพราะมีแม่บ้านคอยทําความสะอาดอยู่ตลอดเวลา (ยิ่งกว่าห้างอีกนะ)=== แก้ไข === บางห้องก็สกปรกครับ มีการขีดเขียนตามผนังหนังน้ํา อาทิ ห้องน้ําชายใกล้กับร้านถ่ายเอกสารเรียนรวม 1 =แก้ไข= 3/2557 ตอนนี้ห้องน้ําเรียนรวม2สะอาดสุดๆ
- มทส อยู่ไกลจากตัวเมืองถึง 20 กิโล และมี รถเมล์ 1 สาย(เปลี่ยนเป็นรถสองแถวสาย 17 มทส. - บขส ใหม่ [2555]) และรถสองแถว 1 สาย วิ่งเข้าออกตั้งแต่ 07.00-20.00 น.
- มีรถเมล์ภายใน วิ่งรับ-ส่ง นักศึกษาฟรี และมีรถตู้เข้ากรุงเทพตอนตีห้า ทุกวัน (ปัจจุบันมีหลายเวลา)
- ทางเดินระหว่างตัวตึกมี Cover way ตลอดเส้นทางเดิน -- มีเลนสําหรับจักรยานโดยเฉพาะ (แต่ไม่ค่อยมีคนใช้) === แก้ไข === ปัจจุบัน 2555 มีการใช้มากขึ้น โดยเป็นสถานที่ซ้อมแข่ง และสถานที่แข่งขันจักรยาน
- ที่นี่นักศึกษาทุกสาขาเรียนรวมกัน อยู่ในตึกเดียวกัน ไม่มีการแยกตึกคณะ อาจารย์ก็อยู่ตึกเดียวกัน (รักกันที่ซู๊ด) === แก้ไข === ปัจจุบันมีตึกเรียนรวม 2 แห่ง และมีตึกอาจารย์ 2 แห่ง แต่ส่วนใหญ่ก็คงวนเวียนอยู่ด้วยกันเพราะตึกอยู่ใกล้ๆกัน
- ตึกที่เรียกว่าอาคารเรียนรวม เรียนทุกสาขาโดยส่วนใหญ่จะมีแต่วิศวะ แต่สังเกตเห็นได้ว่ามีรอยร้าวอยู่เต็มไปหมด
- มีโรงอาหารใกล้หอ 4 นักศึกษาเรียนกันว่า ศาลาลอย (2555 เปลี่ยนชื่อเป็นกาสะลองคํา)
- ศาลาลอยมีทุกอย่าง ช่วงใกล้สอบนักศึกษาชอบไปที่นั่น (บางครั้งอาจมีแนวข้อสอบมาวางที่ร้านถ่ายเอกสาร)
- นักศึกษาสามารถเรียนได้จนเต็มอายุขัย (8 ปี) และก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ (หลักสูตรใหม่ 2554 ให้ 12 ปี)
- ที่นี่ทําตามกฎ ขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่ให้เข้า-ออก มหา’ลัย จึงเห็นนักศึกษาพากันเดิน หรือ จูง มอเตอร์ไซค์ ผ่านหน้าป้อมยามอยู่บ่อยๆ
- รปภ.ที่นี่ จะตะเบ๊ะ ให้แต่คนที่ขับรถยนต์เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นนักศึกษาก็ตาม ส่วน อาจารย์ที่ขี่มอเตอร์ไซค์หรือปั่นจักรยาน ก็หมดสิทธิ์
- สมัยก่อนชุด รปภ. จะเป็นเสื้อสีฟ้า กางเกงสีดํา แต่ปัจจุบัน แต่ตัวสีกากี วันแรกที่เปลี่ยนเครื่องแบบ คนในมหาวิทยาลัยนึกว่าเป็นทหารญี่ปุ่น =แก้ไข= 3/2557 ตอนนี้ชุดสีกรมท่าเห็นปุ๊บจอดรถปั๊บ | = แก้ไข2 = ล่าสุด 1/2559 กลับไปใช้สีฟ้าเหมือนเดิมแจ้
- ขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซค์ที่นี่ต้องระวัง ไม่งั้นรถของท่านอาจเสียศูนย์ได้ เพราะมีลูกระนาด อยู่เป็นระยะๆ (เยอะโคตรๆ)
- แปลกแต่จริง ที่นี่หอพักหญิง มีโถฉี่ของผู้ชายด้วยนะ จะบอกให้ เพราะเคยเป็นหอชายช่วงปี 2537 - 2538
- ชื่ออาคารสถานที่ล้วนแต่มี "สุร" นําหน้า นัยว่าเพื่อความน้ําหนึ่งอันเดียวกันกับชื่อมหา'ลัย เป็นต้นว่า
- สุรนภา คือ ชื่อหอสัญลักษณ์ของมหา'ลัย หอที่ตั้งใจออกแบบเป็นรูปดอกบัวตูม ข้างในมีลิฟท์และบันไดประมาณ 200 กว่าขั้นสําหรับให้ขึ้นไปชมทัศนียภาพรอบๆ มหา'ลัย นักศึกษาให้ฉายาว่า หอแห้ว (เป็นหอที่สูง แต่สร้างในหลุม)
- สุรสัมนาคาร คือ ชื่อโรงแรมหรู กี่ดาวไม่รู้ แต่คืนละ 800 บาท หนึ่งในกิจการของมหา'ลัย--นักศึกษาและบุคคลากรแสดงบัตร 700 บาท น๊ะ
- สุรนิทัศน์ คือ ชื่อเวทีแสดงดนตรีกลางแจ้ง เด็กมอเรียกแอมฟิ หรือ แอมฟิเธียเตอร์ ความจุประมาณ 4000 แต่ถ้าอัดกันจริงๆ 7000 ก็ไหว Silly Fools, Bodyslam, Big Ass , Plammy, Endorphine ต่างก็เคยมาเหยียบเวทีนี้มาแล้ว
- สุรพัฒน์ คือ ชื่ออาคารเอนกประสงค์ขนาดยักษ์ มีหลายหลัง สุรพัฒน์ 1 มีศูนย์หนังสือจุฬาฯ 7-eleven ธนาคาร, สุรพัฒน์ 2 ใช้ตอนรับปริญญาและรับน้องใหม่, สุรพัฒน์ 3 มีศูนย์ซินโครตรอน
- สุรวิถี คือ ชื่อถนนในมหา'ลัย เส้นที่ตัดผ่านหน้าองค์การนักศึกษาไปยังสระสามแสน นิยมใช้สัญจรไปส่องสัตว์ยามค่ําคืน
- สุรนิเวศ คือ ชื่อหอพักนักศึกษา เรียกย่อๆ ว่า S โดย S1-6 เป็นหอหญิงห้องน้ํารวม S7-12 เป็นหอชายห้องน้ํารวม S13, S14, S15 หอที่แต่ละห้องมีห้องน้ําในตัว สําหรับ ผู้ชาย บุคลากรชั้นประทวน และ ผู้หญิง ตามลําดับ (บุคลากรส่วนใหญ่ที่อยู่ที่ S14 จะเป็นเจ้าหน้าที่หอพักหรือบุคลากรที่ที่หน้าที่เกี่ยวกับนักศึกษาโดยตรง ชั้น/ยศ ไม่เกี่ยว) =แก้ไข= 1/2559 ปัจจุบันมีถึง S-18 เป็นหอหญิง ตอนนี้เปิดเฟสเดียว เป็นหอในที่ "ฮายโซววว์" ที่สุดในมหาลัย มีน้ําอุ่น แอร์ เฟอรนิเจอร์บิ้วอิน เมพกิงๆ
- ส่วน สุขนิวาส เป็นชื่อบ้านพักสําหรับอาจารย์และบุคลากร เรียกย่อว่าอาคาร R มีตั้งแต่ R1 - R8
- สุรสวัสดิ์ คือ ชื่อหมู่บ้านเอกชนข้างนอกมหา'ลัย คํา "สุร" ไม่เกี่ยวกับนโยบายมหา'ลัย แต่เข้าใจว่าแอบเนียน เรียกเต็มปากได้ว่าเป็นสุรนิเวศแหล่งที่ 2
- หอพัก เก่ากึก ดึกดําบรรพ์ ตั้งกะรุ่น1 มี สองหอที่เป็น ตํานาน คือ อนุบาล1 และ อนุบาล2 ตรงข้าม กะ หอ พัก หญิง S1 ปัจจุบัน ทั้งสองอาคารใช้เป็นหอพักชั่วคราวในปี 2537 ตรงกับรุ่นที่สองของมหาวิทยาลัย รุ่นนี้เลยถูกเรียกว่ารุ่นอนุบาล กลายเป็นอะไรไม่รู้แล้ว ฮ่าๆๆ ==แก้ไข== ปัจจุบันกลายเป็นสํานักงานของฝ่ายอาคารสถานที่
- ทางโค้งก่อนถึง หอ อนุบาล1 เรียก โค้ง ดาวพระศุกร์ เนื่องจาก นักศึกษา รุ่น1 ขับมอไซค์ แหกโค้ง ตรงนั้นเพื่อให้ทันดูละครเรื่อง ดาว พระศุกร์
- เรียก "คณะ" ว่า "สํานัก" และเรียก "ภาค" ว่า "สาขา"
- ในระดับปริญญาตรีมีเปิดสอน 5 สํานัก คือ สํานักวิด สะ วะ กํา มะ สาด , สํานักเทคโนโลยีเกษตร, สํานักเทคโนโลยีสังคม สํานักแพทยศาสตร์ และสํานักวิทยาศาสตร์ (สําหรับพี่ๆที่จบไปแล้ว น้องๆรหัส 49 มีสาขาวิทย์กีฬาระดับปริญญาตรี ปี 2555 เพิ่มหลักสูตรก้าวหน้าวิทยาศาสตร์หลายสาขา สังกัดสํานักวิดยานะคะ ^^) **เพิ่มเติม ตั้งแต่ 2552 มี 6 สํานักวิชา เพิ่มสํานักวิชาพยาบาลศาสตร์ ***เพิ่มเติม ตั้งแต่ปี 58 มี สํานักวิชาทันตแพทยศาสตร์ ด้วยค่าเทอมแพงมาก
- ทางเข้ามหาลัยอย่างเป็นทางการมี 3 ประตู ส่วนประตูที่ 4 สามารถใช้บริการได้เหมือนกัน อยู่ข้างหลังหอชาย (ประตู 4 ยกระดับเป็นประตูแล้วแต่ปิดเที่ยงคืน เปิด 4.00 น มีป้อมยาม แต่ยามมักไม่เข้าไปอยู่ในป้อม)
- ทางเข้ามหาลัยประตู 3 เมื่อเข้ามาทางซ้ายมือจะมีโรงไฟฟ้ามทส.-ซินโครตรอนตั้งอยู่
- หอ S6 จะมีโถปัสสาวะชาย ในห้องน้ําหญิง (จิงไหมอ่ะ)
- ต้นไม้ประจํามหาวิทยาลัย คือ ต้นปีบทอง แต่เนื่องจากมีต้นมันสําปะหลังอยู่รอบมหาวิทยาลัยจํานวนมาก จึงมีคนบอกว่าต้นไม้ประจํามหาวิทยาลัยคือ "ต้นมันสําปะหลัง"
- ปี 2555 โครงการที่กําลังก่อสร้างได้แก่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ =แก้ไข= 3/2557 ตอนนี้โรงพยาบาลกับสุรเริงไชย สร้างเสร็จแล้ว เปิดให้บริการฟรีๆแก่นักศึกษาแล้ว
- ปกติหมวกกันน็อกมีไว้ให้ใส่เพื่อความปลอดภัย แต่เด็ก มทส ใส่เพื่อกัน รปภ. เพราะมหาลัยมีนโยบายให้ใส่หมวกเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงเปลี่ยนชื่อจากหมวกกันน็อกเป็นหมวกกัน รปภ.
ปีนี้วันที่ 23 กรกฎาคม 2553 มทส มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์มีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิเช่น หอประวัติ มทส ซึ่งตั้งอยู่อาคารบรรณสาร
- มีศูนย์การเรียนรู้สิรินธร ประกอบไปด้วย เมืองจราจรจําลอง อาคารกาญจนาภิเษก หอประวัติและจดหมายเหตุ หอสุรนภา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีไทยโบราณ สวนผีเสื้อ หอดูดาวส่วนภูมิภาค และฟาร์มมหาวิทยาลัย
เรื่องทั่วไป[แก้ไข ]
- มทส เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนปริญญาตรีแล้วมีอาจารย์จบปริญญาเอกมากที่สุดในประเทศ มากถึงร้อยละ 70 (อัพเดตปี 2555 ร้อยละ 80) และอาจารย์ส่วนใหญ่ที่จบ ดร. มักมีหน้าเด็กกว่านักศึกษา มีเรื่องเล่าว่ามีอาจารย์สวมเสื้อเชิ้ตขาวแฝงตัวอยู่ในหมู่นักศึกษาในรายวิชาพื้นฐาน แล้วนักศึกษาไม่สามารถหาตัวได้ว่าคนไหนคืออาจารย์ (อาจารย์อ๋วนแหงๆ) <<< Yess
- มทส. เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ให้เงินเดือนอาจารย์สูงที่สุดในประเทศ แต่อาจารย์ชอบซื้อข้าวแกงกิน
- คนที่ใส่กางเกงยีสน์เก่าเสื้อม่อเก่าๆ อาจจะเป็นถึง ศ. รศ. หรือ ดร. ก็ได้
- มทส. เป็นมหาวิทยาลัยที่มีผลงานวิชาการต่อหัวอาจารย์สูงที่สุดในประเทศ สูงกว่ามหาวิทยาลัยดัง ๆ เสียอีก
- แต่ มทส. เป็นมหาวิทยาลัยที่มีอาจารย์น้อยมาก ประมาณ 344 คน (อัพเดต 2554) แต่ไปไหนมาไหนเจออาจารย์บ่อย เพราะส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเหมือนนักศึกษา (น้อยกว่า รปภ. อีกมั้ง)
- EOS (End of Soi) เป็นชื่อเรียกกลุ่มบ้านพักบริเวณท้ายซอยในหมู่บ้านสุรสวัสดิ์ ยุคเรอเนซองส์ของ EOS คือยุคเดียวกับที่เกมส์สตาร์คราฟท์รุ่งเรือง แม้ต่อมาเปลี่ยนเป็นยุควอร์คราฟท์ EOS ก็ยังไม่ล่มสลาย จนมาถึงยุค DotA เรืองอํานาจ EOS ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจําของผู้คน
- การเป็นหนุ่มวิดวะในมหา'ลัยนี้ ไม่ได้ช่วยให้ดูดีมีสง่าราศีกระชากใจสาวๆ แต่อย่างใด เพราะ 80% มันก็วิดวะทั้งน้านนน
- ตรงกันข้ามกับ สาวไอที (เทคโนสารสนเทศ) ที่ถือว่าเป็นทรัพยากรล้ําค่าของมหา'ลัย แม้คุณจะหน้าตาธรรมด๊าธรรมดา แต่ถ้าได้ชื่อว่าเป็นเด็กไอทีแล้ว คุณจะดูหรูหรามีระดับ น่ารักน่าทะนุถนอมขึ้นมาในทันที ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีคู่แข่งอย่าง MT ก็ตาม
- ปัจจุบันหากพูดถึงทรัพยากรอันล้ําค่าแล้ว ผู้คนก็อาจจะนึกถึงสาว MT (เทคโนโลยีการจัดการ) เป็นอันดับแรก เพราะทั้งสวย น่ารัก และไฮโซ ดูได้จากสูทที่ใส่และรถที่ขับ (รถเก๋ง รถเบนซ์ กันทั้งนั้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งคอนเซปท์ มทส.ที่ต้องขี่มอไซค์ตัวโปรด)
- ปัจจุบันวิศวะเริ่มแต่งตัวดีขึ้นตามนโยบายของโครงการ เรารัก มทส จึงไม่แปลกที่จะเห็นเด็กวิศวะ แต่งตัวคล้ายเด็กไอที จนทําให้รุ่นพี่สงสัยว่า เดี๋ยวนี้ เด็กวิศวะม.เรามีแบบนี้ด้วยเหรอ คําตอบที่ได้รับก็คือ "ใช่"
- ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงในมหาวิทยาลัยนี้ ถ้าอยากเป็นดาวใน ม นี้ต้องขาว กล่าวง่ายๆ คือ แค่ขาวก็มีดาวติดหัว หมายความว่า แค่ขาวก็เป็นที่สนใจอย่างยิ่ง
- ม.สุรนารีเปิดเป็น ม. ในกํากับของรัฐแห่งแรก และพัฒนาอย่างรวดเร็วจนหลายๆสถาบันเริ่มเปลี่ยนมาใช้ระบบเดียวกันนี้แล้วถึง 13 สถาบัน และกําลังรอการเปลี่ยนผ่าน 1 สถาบัน
- มทส. ได้ก้าวสู่การเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีอายุน้อยกว่าเพื่อนในบรรดามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติด้วยกัน
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย[แก้ไข ]
- อาคารส่วนกิจการนักศึกษา, ลานสัญลักษณ์สถาน (ลานย่าโม) และ หอสัญลักษณ์สุรนภา สร้างอยู่ในระนาบเส้นตรงเดียวกันในแนวเหนือใต้
- ในขณะที่ เสาธงชาติเสาเอก, ลานสัญลักษณ์ และอาคารบรรณาสาร อยู่ในระนาบเส้นตรงเดียวกันในแนวออกตก
- ก่อน พ.ศ. 2545 มหา'ลัย มีอัตราการตกออก (Drop-out) สูงที่สุดในประเทศ คือประมาณ 40% (ปัจจุบันตกออกประมาณ 1 ใน 4) สมมติเข้ามาปีหนึ่ง 1000 พอขึ้นปีสองจะเหลือ 600 ซึ่งในปี 2, 3, 4 ก็จะทยอยตกออกกันไปอีกเรื่อยๆ จนจบปีสี่จะมีคนจบการศึกษาประมาณ 300 พวกที่เหลือก็หวังว่า ปี5-ปี8 คงมีสักปีที่จะจบ
- ปีการศึกษานึงจะแบ่งออกเป็น 3 ภาคการศึกษา โดยปิดเทอมย่อย (ภาคการศึกษาที่ 1 และ 2)15 วัน และปิดเทอมใหญ่ (ภาคการศึกษาที่ 3) 45 วัน
- ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา มีการปรับเกณฑ์ตกออกใหม่ คือจาก 2.00 เป็น 1.80 ทําให้อัตราการตกออกลดลง แ่ต่ก็ยังมีใ้ห้เห็นเป็นเรื่องปกติ>>> ปรับเกณฑ์ตกออกใหม่ เป็น 1.50 ปรับ รอพินิจน์ <1.80 รอพินิจน์ 3 ครังตกออกอัตโนมัติ
- ห้องพักหอใน (สุรนิเวศ) ว่ากันว่าเป็นห้องพักหอในที่กว้างที่สุดในประเทศ (จากปากคําของเด็กซิ่วทั้งหลาย) ก่อนพ.ศ. 2548 แต่ละห้องอยู่กัน 3 คน อุปกรณ์มี 3 เตียงเดี่ยว, 3 ตู้เสื้อผ้า, 3 ตู้เก็บหนังสือ, 3 โต๊ะอ่านหนังสือ แต่ก็ยังเหลือพื้นที่กลางห้องให้กินอาหารเย็นร่วมกันทุกวัน หรือตั้งวงได้เป็นบางโอกาส
- สมาชิก 3 คนที่ว่า ประกอบไปด้วย พี่ปีสองขึ้นไป 2 คน และน้องปีหนึ่ง 1 คน คําเรียกหาเป็น พี่เมท, น้องเมท บรรยากาศอบอุ่นน่ารักมาก ยกเว้นแต่ว่าได้พี่เมทขี้เมา หรือที่ซวยกว่าคือได้พี่เมท 2 คนที่เป็นกระเทย ยกเว้นแต่ว่าถ้าคุณเป็นกระเทยด้วย
- ตั้งแต่พ.ศ. 2548 นักศึกษาที่สมัครโควต้ามีจํานวนมากเป็นประวัติการณ์ ทําให้หอพักไม่เพียงพอ จึงมีนโยบายให้พักห้องละ 4 คน (ปัจจุบัน ห้องละ 3 คน สําหรับหอห้องน้ําในตัว และ 3-4 คน สําหรับหอห้องน้ํารวม)
- มทส เคยประสบปัญหาแหล่งน้ําแห้ง ถึงขั้นประกาศให้เปิดน้ําใช้ภายในหอพักได้ในช่วงเวลา 05.00 - 22.00 น. นอกเหนือเวลานั้น ก็หาถังเล็กมาตักน้ําในถังใหญ่ไปใช้เอง (ดีนะที่แม่บ้านเปิดน้ําทิ้งไว้ในถัง ไม่งั้นห้องน้ํา....หึ่งแน่) << ปัจจุบันมีการสนับสนุนการใช้น้ําที่ดีพอสมควร
- ปี 2547 มหา'ลัย เป็นเจ้าภาพกีฬามหา'ลัยแห่งประเทศไทย ชื่อ "สุรนารีเกมส์" ภาษาอังกฤษเขีียนว่า Sura Naree Games ซึ่งเป็นความสนใจหลัก 3 ประการของบรรดานักศึกษาชายที่นี่
- มทส มีจัดประกวดแบบเดียวกับ AF / The Star โดยมีชื่อการประกวดว่า SUT DREAM CHALLENGER มีผู้สนใจล้นหลาม ที่สําคัญมีกรรมการมาจาก tuneclub ใน bloggang ของ pantip.com ด้วย
- ชมรมอนุรักษ์สภาพแวดล้อม จะมีประเพณีโยนพี่บัณฑิตลงน้ําบริเวณสระน้ําพุข้างหอสุรนภาทุก ๆ วันรับปริญญา ช่วงหลัง ๆ จะเห็นมีบางชมรมและ นศ.บางกลุ่มเริ่มทําตาม ผมก็คนนึงที่เคยตกน้ําด้วยประเพณีนี้
- งานรับปริญญาแต่ละปี สาขาวิชาต่าง ๆ จะจัดซุ้มยิ่งกว่ามหากรรมพืชสวนโลก ไม่เชื่อลองไปดูได้
- ชมรมที่มีสมาชิกเยอะสุดน่าจะเป็นชมรมยานยนต์ เพราะพี่สาขาเกณฑ์น้องในสาขาที่เป็นเครือข่ายเดียวกันมาเข้าชมรม
- วิศวะที่หน้าตาดีที่สุดฝ่ายชายน่าจะเป็นวิศวะคอม ส่วนฝ่ายหญิงน่าจะเป็นเด็กอุตสาห์ฯ ไม่เชื่อก็ไปพิสูจน์กันดู
- สาขาที่โหด ๆ หล่อและเท่ในแบบเซอร์ ๆ จะนึกถึงสาขาแรกคือ วิศวกรรมโลหการ แต่ในสาขาเค้าก็รักกันมากนะ แบบว่าใครแตะต้องพี่น้องกูมึงตายว่างั้น และที่สําคัญมีพลังอันเต็มเปี่ยมแบบไร้ผู้ใดเทียมได้
- วิศวะเครื่องกล จะมีประชากรมากสุด เพราะมี หลักสูตรแยกออกไปคือ วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมยานยนต์ และน้องใหม่คือ วิศวกรรมอากาศยาน
- สาขาที่มีคนเรียนจบ 4 ปี น้อยที่สุดน่าจะเป็นวิศวกรรมเคมี (ทั้งวิชาที่เรียนและอาจารย์โหดพอกัน)
- งานลอยกระทงส่วนใหญ่เด็กไอทีจะได้ชนะเลิศประเภทขบวน (ที่มีคอนเซ็ปท์เดียวตลอดปีคือ ธรรมะ กับ อธรรม) ส่วนสา'สุข จะได้ชนะเลิศประเภทกระทงใหญ๋ (อันเนื่องมาจากการให้น้องปี 1 ในสาขา เย็บแบบอย่างน้อยคนละอัน แล้วแต่ฝีมือ ทําให้ใหญ่ไว้ก่อน ลอยได้ไม่ได้ค่อยไปลุ้นกันในสระน้ําพุอีกที)
- สมัยก่อนผู้หญิง มทส จะขึ้นชื่อว่า สวย ถึก และบึกบึน ปัจจุบันก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ จะเห็นได้จากงานลอยกระทง ที่ให้ผู้หญิงไปฟันต้นกล้วยแล้วแบกมาให้พวกผู้ชายที่กําลังนั่งเย็บแบบทํากระทงกัน
- สโมสรเทคโนโลยีสุรนารี เป็นองค์กรของบุคลากร มีชมรมเช่นเดียวกับนักศึกษา
- กีฬาที่สร้างชื่อให้กับมหาวิทยาลัยในช่วงที่ผ่านมาก็คือ เรือพาย (ได้เหรียญทองกีฬามหาลัยมา 3 ปีแล้ว) วอลเล่ย์บอลชายหาดหญิง (ชนะทีมชาติด้วย)ตะกร้อหญิง (ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ใจใหญ่) หมากล้อม (เหรียญทองเหรียญแรกในประวัติศาสตร์) หมากกระดาน (เล่นแล้วใช้เวลานานจริง ๆ)เทควันโด(เริ่มมาแรงหลังจากก่อตั้งมา6ปี) อื่น ๆ กําลังทยอยเก็บเหรียญกันอยู่
- * จุดที่อันตรายที่สุดในในมหาลัย คือ ประตู่ 1 ถึงขนาดต้องระดม รปภ.มาดูแล5-6 คน และต้องใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งที่ผ่าน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงกับนักศึกษา นักศึกษาบางส่วนถึงขนาดต้องลงเดินผ่านจุดนี้ทีเดียว
- หอพัก S2 แต่ก่อนเป็นหอรวม อย่าเข้าใจผิด ผู้ชายชั้น 2 ผู้หญิงชั้น 3 และก็มีทางขึ้นคนละทาง ไปหากันไม่ได้
- หอชายเกือบทุกหอ มีการตี Dot-a กันทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว ไม่รู้จะบ้ากันไปถึงไหน
- รับปริญา มทส รุ่น 13 ปีการศึกษา 2548 เป็นปีแรกที่สมเด็จพระเทพฯ มาพระราชทานปริญญาบัตรช่วงบ่าย และเปนปีแรกที่มีการบูม แล้วแดด ไม่ร้อน เพราะ ค่ําแล้ว และรุ่นที่ 16 ปีการศึกษา2551 ก็เช่นกัน
- มทส. มีบูมมหาวิทยาลัยวงใหญ่ที่สุดในโลก นักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยร่วมใจบูมให้กับพี่บัณฑิตทุกคน (เริ่มมีมาตั้งแต่ปีบทองช่อที่ 12 )
- ปี 2548 มีกรีฑาสาขา และหลังจากปีนั้นก็ไม่มีกรีฑาสาขาอีก กลายเป็น กีฬาน้องใหม่มาแทน //*แก้ไข ปี 2555 ได้มีการจัดกิจกรรมกีฑาสาขาขึ้นอีก(หลังจากห่างหายไปหลายปี) ซึ่งแยกต่างหากจากกีฬาน้องใหม่
ความเชื่อ[แก้ไข ]
- เป็นที่รู้กันว่า คุณย่าโมหรือท้าวสุรนารีนั้น เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองโคราช ซึ่งภายในมหา'ลัยก็มีลานสัญลักษณ์ที่มีรูปปั้นท่านอยู่ รอบๆ นั้นจะมีหุ่นปูนปั้น ช้าง ม้า มากมาย ช่วงก่อนสอบจะมีนักศึกษาไปกราบไหว้เยอะเป็นพิเศษ และช่วงเปิดเทอมจะมีประเพณีขัดลานย่า คงสืบเนื่องมาจากผลการบนบานนั่นเอง จุดนี้แม่บ้านไม่ต้องมาทําความสะอาด เพราะนักศึกษาเราจะบริการให้ด้วยความยินดี 365 วัน
- ทั้งๆ ที่เป็นความขัดแย้งระหว่าง วิทยาศาสตร์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่นี่สองอย่างนี้ถูกหลอมรวมกัน ผู้เขียนเองก็เคยไปขอย่าหลายครั้ง เช่น ขอให้จบใน 4 ปีบริบูรณ์, ขอให้จบด้วยเกรดสูงกว่า 2.75, ขอให้ไม่ติด F ในรายวิชาหนึ่งที่สอบกลางภาคได้ 11 คะแนนจากคะแนนเต็ม 40 ซึ่งทุกอย่างก็สมปรารถนา โดยเฉพาะอันสุดท้ายได้ตั้ง C แน่ะ นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งไม่กล้าลบหลู่ดูหมิ่นแม้แต่น้อย แม้ว่าทุกๆ อย่างจะได้มาด้วยความพยายามของเราเองก็ตาม
- ความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ร่ําลือว่า หากทําโปรเจ็ค โดยเฉพาะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แล้วรันไม่ผ่าน หากบนจะเกิดปาฏิหาริย์รันโปรแกรมผ่านในทันที มีเคสน่าสนใจแล้วอย่างน้อย 2 กรณี 1. สร้างเกมแล้วเสียงไม่ออก แก้ไม่ได้สักที พรุ่งนี้ต้อง present แค่บนในใจ เสียงดันดังขึ้นมาซะงั้น งานนี้บนมาลัย 20 พวง 2. เขียนโปรแกรมรันเท่าไหร่ก็ไม่ผ่าน ถ้าส่งไม่ทันก็เรียนไม่จบเพราะเป็นโปรเจ็คจบ คนผู้ชายพูดบนเล่นๆว่าถ้ารันผ่านจะเต้นเพลงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ และสวมชุดให้เหมือนด้วย อ้าปากบนเพียงชั่วลมหายใจ รันผ่านทั้งๆที่ไม่ได้แก้อะไร!!! ไม่แน่ใจว่ามีคนเห็นชายคนนั้นตอนแก้บนหรือไม่
- หากเด็ดดอกไม้ประจํามหาวิทยาลัย (ดอกปีบทอง) สดๆจากต้น จะเรียนไม่จบตามกําหนด บางกระแสบอกว่าจะติด F ตามจํานวนดอกที่เด็ด ส่วนเก็บจากใต้ต้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]
- เหมือนกับทุกมหา'ลัย โดยเฉพาะหอหญิงจะมีเรื่องเล่าและตํานานที่ไม่รู้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยไหน อย่างเรื่อง "ผีอํา" หอหญิงจะมีบ่อยมาก แต่ถ้าเป็น "ผีอม" สามารถหาฟังได้จากฝั่งหอชาย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเรื่อง ความสัมพันธ์ของผีกับการเมียไทย
- หอหญิงที่เฮี้ยนๆ ในระดับตํานาน เช่น S2 เรื่องผีชุดไทยโบราณ, ชุดตะเบงมาน วิ่งทะลุ 3 ห้อง ว่ากันว่าต้องนิมนต์หลวงพ่อคูณมาเหยียบถึง 2 ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินข่าวคราวอีก หรือจะเป็นผีเด็กที่ S4 ที่ว่าอาบน้ําอยู่ดีๆ แล้วมีเด็กมาเล่นน้ําด้วย ซึ่งความจริงแล้วสามารถพบเด็กผีได้เยอะบริเวณหอชาย (เด็กหงส์, เด็กปืน ก็มีพอๆ กัน) ส่วนผีเด็กนั้น หอชายก็น่าจะมีเยอะกว่าอยู่ดี เพราะดูจากอัตราการติดไวรัส *.dat, *.avi, *.mpeg สูงมากๆ
- หอหญิงที่เป็นข่าวดังที่สุดคือ S15 โซนต้นโพธิ์ จากการที่เด็กนักเรียน รด. มาพักแล้วพากันเล่นพิเรนบริเวณต้นโพธิ์ และเกิดอาการคลุ้มคลั่งไปตามๆ กัน ซึ่งแพทย์ก็วินิจฉัยว่า เป็นความบกพร่องทางประสาทชนิดติดต่อ เนื่องจากการฝึกหนักในช่วงกลางวัน
- ลานจอดรถยนต์เก่าและป่าละเมาะ ข้างศูนย์บรรณาสาร (หอสมุด) ว่ากันว่าเป็นบริเวณที่นิยมนําคนมานั่งยาง และเป็นแดนประหารเก่า ว่ากันว่า รปภ.กะดึกเคยเห็นผีคอขาด เดินลากโซ่เีสียงดังเกรียวกราว ดึกๆ ขับรถผ่านแถวนั้น ขนชอบลุกโดยไม่มีสาเหตุ ไม่รู้เป็นเพราะเรื่องเล่าที่ฝังหัวหรือเปล่า
- สวนหย่อม ป่าไผ่สีทอง ข้างๆ ฟาร์มมหา'ลัย ที่นี่ "เขา" ชอบหยอกล้อคนขับรถคนเดียว โดยรถคันอื่นจะเห็นว่า เรามีเพื่อนซ้อนมาข้างหลังด้วย โอ้วววว
- บริเวณลานย่าโม และต้นไม้ใหญ่ระหว่างทางไปอาคาร A (อาคารบริหาร) กับอาคาร C (อาคารวิชาการ) ซึ่งต้องทําถนนอ้อมต้นไม้ต้นนั้น เป็นถนนจุดเดียวในมหา'ลัย ที่ต้องอ้อมสิ่งกีดขวาง จุดอื่นพี่แกฟันเหี้ยนไม่เหลือ
- สุรนิทัศน์ หรือ แอมฟิเธียเตอร์ สถาปัตยกรรมที่มีเส้นลวดขึงเป็นองค์ประกอบ เรื่องเล่าที่จุดนี้คือจะเห็นสิ่งซึ่งคล้ายคนไปนั่งห้อยขาอยู่บนเส้นลวด
- สรุปแล้วทั้งมหา'ลัย เพราะพื้นที่ 7200 ไร่นั้น ในอดีตเป็นป่าเสื่อมโทรมขนาดใหญ่ ว่ากันว่าถูกใช้เป็นสถานที่ฆาตกรรมที่ขึ้นชื่อของโคราช อีกทั้งยังเป็นทางรบสมัยท้าวสุรนารีอีกด้วย จึงทําให้มีเรื่องเล่ามากเป็นพิเศษ
- บริเวณน่ากลัวทุกๆ จุดข้างบน จะมีรปภ. ไปตรวจอยู่เสมอ และมักรายงานกลับไปยังหน่วยว่า "เหตุการณ์สงบ พบหนึ่งคู่ (หรือมากกว่า)"
สถานที่ท่องเที่ยวและของกิน[แก้ไข ]
- เดอะมอลล์ (หรือที่ปัจจุปันมักจะเรียกกันว่า อาคารM)คือสถานที่ท่องเที่ยวตอนกลางวัน ส่วนตอนเย็นมี เซฟวัน และ ไนท์ บาซ่า(เจ๊งไปหมดแล้ว) เป็นสถานที่ยอดนิยม
- ที่ไนท์ฯ มีร้านส้มตําระดับตํานาน (ลูกค้าเยอะ เลยตําน้านนาน) กลางวันเปิดร้านซ่อมแบตเตอรี่ ตกเย็นกลายเป็นร้านส้มตํา เด็กมอที่นิยมส้มตําทุกคนต้องเคยไปกินร้านนี้ อร่อยมาก อร่อยจริงๆ เจ๊คอนเฟิร์ม
- ร้านนมหน้ามอที่เป็นระดับปั่นนาน (คล้ายๆ ตํานาน) มี 3 ร้าน คือ ร้านป้าแดนซ์ ,ร้านพี่เปอร์ และร้านตาโอ โดยเฉพาะร้านแรก เด็กมอ "ทุกคน" ต้องเคยไปกิน ส่วนร้านตาโออร่อย บรรยากาศดีมาก นั่งจุดเทียนกินกลางลาน แต่ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว
- ร้านลาบที่หลายคนติดใจในฝีมือก็คือ ลาบร้อยเอ็ด แทบจะไม่มีใครที่ไม่เคยไปกินลาบร้านนี้ เมนูที่ชอบสั่งกันเป็นประจําคือ ลาบ ไก่ทอด ไข่เจียว และที่ขาดไม่ได้คือส้มตํา
- ร้านที่คนไม่ค่อยได้ไปแต่ถามใคร ๆ ในมหาลัยก็ค่อนข้างรู้จักคือ ร้านลุงหิน อยู่ทางออกประตู 3
- ร้านบ้านแต้ เป็นร้านอาหารตามสั่งหน้ามหาลัย ถ้าสั่งอาหารประเภททอด เช่น ข้าวหมูแดดเดียวทอด หรือ ข้าวปลานิลทอด ก็จะแถมแมลงวันทอดมาด้วย
- อยู่เป็นบางครั้ง และในข้าวเปล่าส่วนใหญ่จะมดแดงคลุกมาให้พร้อมเลย ร้านนี้จึงถูกแบนไปจากผู้ที่ช่างสังเกตุเวลาทานอาหาร แต่ปัจจุบันเปลี่ยนคนขายใหม่แล้ว
- ร้านป้าเซเว่น ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสุรสวัสดิ์แลนดิ์ เหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะว่าป้าแกเปิดร้าน 24ชม.เป็นร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งบางทีจะเป็นตามใจคนทําสั่ง
- ร้านงอมแงม เป็นอีกร้านหนึ่งซึ่งตั้งอยู่หน้ามอ ที่ใครหลายคนชอบไป แม้ว่าร้านนี้จะทําอาหารรสชาติใช้ได้แต่กลับไม่ค่อยมีใครสั่งอะไรที่นอกเหนือไปกว่าเอ็นไก่ทอด และยําแหนมมากินแกล้มเบียร์และเหล้า ซึ่งว่ากันว่าใครมาแล้วต้องมาอีกเพราะติดงอมแงมกับบรรยากาศการร่ําสุรา แต่หากนั่งนานเกินตี 1 ขึ้นไปก็อาจงอมอย่างอื่นแทน เพราะชอบมีขวดและตีนบินบ่อยๆ
- เบเกอรี่ของฟาร์มมหาวิทยาลัย เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก นักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยส่วนหนึ่งแวะมากินบ่อยๆ ประหนึ่งยาเสพติด ส่วนอาจารย์นิยมซื้อผักปลอดสารพิษ
- ร้านนั่งเล่น และ ร้านปล่อยรมย์ (ปัจจุบันปิดไปแล้ว เปลี่ยนเป็นร้านซ่อมมอร์เตอร์ไซค์) เป็นร้านที่นั่งดืมกันที่มีทําเลดีมากๆ คือจะมีสาวๆ ขับรถผ่านไปมา สาวๆ ก็ชอบมานั่งเหมือนกัน ส่วนเมนูที่สาวๆ สวยๆ นิยมสั่งก็น่าจะเป็นเหล้าปั่น ขอย้ําว่าสวยๆ วันไหนมีบอลคู่เด็ดคนเยอะมากๆ แต่ไม่เหมาะสําหรับคนชอบฟังเพลง เพราะร้านจะเปิดเสียงพากย์บอล และถ้าวันไหนมีชิงร้อยชิงล้านละก็คนจะไม่ค่อยมีคนมานั่ง เพราะเจ้าของร้านจะเปิดเสียงทีวีแทนเสียงเพลง นักศึกษาเลยคิดว่าถ้าจะดูทีวี ไปดูอยู่ห้องดีกว่า
- แต่ถ้าเบื่อสาวสวยๆ ก็มาที่ร้านริมมอ หรือ สิมิลัน ได้เลย เพราะที่นี้มึกจะเจอสาว สวย ถึก บึกบึน เมนูสุดฮิตก็น่าจะเป็น แฉงโฉม จะเห็นได้ว่า มทส ไม่นิยมของนอกครับ นานๆ จะเห็นของนอกซักที
- ร้านพี่วิ ไม่รู้เหมือนกันว่าชื่อร้านจริงๆ คืออะไร แต่พี่คนขายแกชื่อพี่วิ ก็เลยเรียกร้านพี่วิ กาแฟอร่อย แต่ต้องคอยนานนิดนึง เพราะพี่แกชงแบบความเร็วสม่ําเสมอ (ช้า)ไม่ว่าคนเยอะหรือคนน้อย มีข้าวขายด้วย เหมาะสําหรับคนที่อ่านหนังสือสอบจนดึก เพราะกาแฟแรงมาก เคยกินมอคค่าร้านนี้ อ่านหนังสือจนสอบเสร็จไปแล้ว อีกวันอยากจะนอนก็ยังนอนไม่หลับ ของเค้าแรงจริงๆ ร้านอยู่ในหมู่บ้านสุรสวัสดิ์ซอยบีมาร์ท
- หากต้องการบรรยากาศแบบชิวๆต้องที่ Andante (แอนแดนเต้) ร้านนมเปิดใหม่จากหนุ่มสาวไฟแรง ผู้ชื่อชอบในการทําอาหาร หลากหลายสไตน์ ที่ตั้งถนนทางเข้าสุรสวัสดิ์ ก่อนทางโค้งน๊ะ บรรยากาศดี เหมาะกับการนั่งแบบชิวๆ
- ร้านนมอยากแนะนําลองไปดูนะ ร้าน รูมเมท นมสด ทางเข้าสุรสวัสดิ์แลนด์ ที่จอดรถกว้างขวางดี มีบอลเสาร์-อาทิตย์ ให้ดูด้วย เด็กเสริฟ์น่ารัก แต่ตอนนี้ดูเหมือนสาวไอทีไม่มาแล้ว หือๆๆ
- 7-11 สาขาแรกในมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ด้านข้างอาคารสุรพัฒน์ 1 เป็น 7-11 สาขาที่ 3035
- 7-11 สาขาสองในมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ข้าง ๆ ลานวัฒนธรรม(ชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า "ลานหมอลํา" ทุกคนรู้จักแน่นอน)
- 7-11 สาขาสามนอกมหาวิทยาลัยตั้งอยู่หลังมอ ประตู 4 ออกไปเจอเลย
- 7-11 สาขาสี่นอกมหาวิทยาลัยตั้งอยู่หน้ามอ ตรงข้ามกับตลาดหรืออยู่ตรงทางแยกไปหมู่บ้านสุรสวัสดิ์แลนด์
- ร้านข้าวมันไก่ในสุรสวัสดิ์ ร้านไอ้อ้วนเกาตูด ชื่อเรียกกันติดปากของเด้ก MT ใครอยากลิ้มลอง อร่อย สุด ๆๆ ลองหาดูร้านหาไม่ยาก
กินแบบเยอะ ๆๆ ต้อง โอ้ยแซ่บ
- เมื่ออิ่มอร่อยกับของกินแล้ว หนังตาก็จะเริ่มหย่อน เราขอแนะนําสถานที่พักผ่อนค้างคืนเหมาะสําหรับผู้ที่ชอบรักสนุกแต่ไม่อยากผูกมัดกับการจ่ายเป็นรายเดือนหรือท่านที่ชอบกิจกรรมเข้าจังหวะนานๆครั้ง คือ The Best Hotel อยู่ริมถนนนครราชสีมา-ปักธงชัย จะอยู่ตรงข้ามกับกองบิน 1 สําหรับบางท่านอาจจะรู้จักเป็นอย่างดี ที่นี่ท่านจะได้ดื่มด่ํากับบรรยากาศอึมครึมแสงไฟสีเหลืองๆส้มๆ(ไม่เข้าใจเลยว่าทําไมต้องสลัวด้วย มองไม่ชัดเลยวุ๊ย)พร้อมมีเครื่องดืมแล้วอาหารเช้าไว้บริการด้วยโดยเฉพาะข้าวต้ม+ไข่ลวก สําหรับท่านที่หมดเรี่ยวหมดแรงถึงกับต้องหยอดน้ําข้าวต้มกันเลยทีเดียว และจากการสังเกตุการณ์ ย้ํา!!สังเกตุการณ์เฉยๆ ถ้าเพื่อนคนไหนจะไปควรจะถอดเสื้อแจคเก็ดที่เป็นสัญลักษณ์ออกก่อนน่าจะดีกว่าด้วยความปรารถนาดี เดี๋ยวคนอื่นจะมองว่ามันไม่ดี และอีกสถานที่หนึ่งคือ ห้องพักสุรสวัสดิ์ ที่สํานักงาน ในหมู่บ้านสุรสวัสดิ์ สําหรับท่านที่รอจนถึงเบสท์ไม่ไหว บางท่านอาจเห็นได้ว่าสํานักงานเขาปิดแล้ว เราจะเข้ายังไง ไม่ต้องสงสัยคับ ที่นี่เขามีบริการ 24 ช.ม.เพราะแม้ว่าสํานักงานจะปิดเราก็สามารถเปิดห้องพักได้ที่ ร.ป.ภ.ที่ด้านหน้าสํานักงาน โดยจ่ายเงินและบัตรไว้ให้เขา ท่านก็จะสามารถเข้าพักได้ทันที และจากการสังเกตุการณ์ ย้ํา!!สังเกตุการณ์เฉยๆ ในช่วงคืนวันหยุดและช่วงสอบเสร็จ(สงสัยว่างจัด หาอะไรทําให้หายเครียดจากการอ่านหนังสือ) ห้องพักมักจะเต็ม เพราะฉนั้นควรมีการจองในช่วงกลางวันก่อนเข้าพักน่าจะดีกว่า และยังมีอีกหลายๆที่ที่ยังไม่ได้นํามาแนะนําจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
บัดนี้ร้านนมได้อุบัติขึ้นหลายร้าน
- ร้านพี่เปอร์ได้ปิดตัวไปแล้ว ร้านตาโอ ตอนนี้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้ว แต่จําชื่อร้านไม่ได้
- ร้านนม กระเพื่อม เปิดใหม่บรรยากาศดีมาก นมและขนมปังอร่อย และแว่วๆว่า เนื่องจากบรรยากาศน่าร่ําสุรากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเลยจะทําการเปิดขายเบียร์ในอีกไม่ช้า
- ร้านลั้ลลา หน้าม. ซอย 1 เปิดบริการเครื่องดื่มทุกประเภท รวมทั้งข้าวและเสต๊กด้วย คนเยอะ แต่ไม่อร่อยซักอย่าง อร่อยสุดคือ เบียร์ เจ้าของเป็นลูกคนมีเงิน ใช้เงินอย่างเดียว ไม่ค่อยสนใจลูกค้า
- ร้านละไม หน้าม. ซอย1 ร้านสวยดูดี บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน นมอร่อยมาก ขอแนะนําโกโก้ละไม กับขนมปังปิ้ง อร่อยมากๆๆๆๆ เจ้าของนิสัยดีเป็นกันเอง ดูเหมือนแพง แต่จิงๆแล้วถูกมาก
ร้านข้าว
- ร้านป้าเซเว่น ได้ปิดตัวลงแล้ว เนื่องจากเจ้าของสุรสวัสดิ์ที่ให้เช่าตึกแถวนั้น เพิ่มค่าเช่าเป็นอีกเท่าตัว ยายเซเว่นไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายขนาดนั้นได้
- ร้านงอมแงม และร้านปล่อยรมณ์ ปิดตัวลงแล้วเช่นเดียวกัน
- ร้านนั่งเล่น เปลี่ยนเจ้าของเป็นว่าเล่น ตอนนี้เป็นร้านซ่อมมอร์เตอไซด์ไปแล้ว
ร้านเหล้าเปิดใหม่มีมากมายมหาศาล แนะนํา
- ร้านแฮ้งค์โอเวอร์ ปัจจุบันปิดไปแล้ว
- ร้านเอกมัย ร้านฮอกวอตส์.....และร้านอื่นๆ **2562** ปิดหมดแล้วจ้า
- คิดถึงร้านเหล้า ต้อง ริมมอ ปัจจุบันปิดไปแล้ว เหลือแต่ตํานาน
ซอยร้านริมมอ...ควรใส่รองเท้าผ้าใบเพราะตีกันบ่อยมาก เตรียมวิ่งให้ทัน
- ร้านนมอยากแนะนําลองไปดูนะ ร้าน รูมเมท นมสด ทางเข้าสุรสวัสดิ์แลนด์ ตอนนี้ได้ปิดไปแล้ว
ร้านเกม
- ร้าน Yes do 100+ ร้านนี้เป็นร้านประจําของนศ ปี 1 ว่ากันว่าร้านนี้มันจะมีการดวล Dota lan ร้านอยู่เป็นประจําเอาเป็นว่าใครเจอพี่นนท์เป็นอันต้องร้องกลับหอไปเลยทีเดียว // ปิดไปแล้วเหมือนกัน ล่าสุดคือพี่ๆ ทั้่งหมดไปเป็น พนง. ที่ CP หมดแล้ว
- ยุคนี้ร้านเกมผุดขึ้นยังกะดอกเห็ด
บทความที่เกี่ยวข้อง[แก้ไข ]