ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

จากไร้วิทยาลัย — ส่วนหนึ่งของโครงการไร้สาระนุกรมเสรี แหล่งรวบรวมเรื่องราวตลกขบขันและบิดเบือนข้อเท็จจริง
ไปยังการนําทาง ไปยังการค้นหา

ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:27 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity

บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มีชื่อเดิม คือ ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล (ศรม.) เมื่อปี 2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อให้วิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาใหม่ว่า สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล มีหมายความว่า สถาบันเทคโนโลยีอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2531

จากพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2548 และได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 19 มกราคม 2548 มีผลให้สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลเดิม ปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล


เรื่องน่ารู้ประจํามหาวิทยาลัย[แก้ไข ]

  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมกันทั้งสองพระองค์
    • ปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงเสร็จมาพระราชทานปริญญาบัตรเพียงพระองค์เดียว
  • สีประจํามหาวิทยาลัยคือสีน้ําเงิน ซึ่งเป็นสีประจําองค์พระมหากษัตรย์
  • ที่นี่ ถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางของ ม.เทคโนโลยีราชมงคล และเมื่อถึงตอนรับปริญญา ม.เทคโนโลยีราชมงคล ทุกแห่งจะมารับกันที่นี่แห่งเดียว
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มี 1 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตปทุมธานี
  • เป็นราชมงคล ที่มีคณะเยอะที่สุดในราชมงคลทั้ง 9 แห่ง
  • สมัยเป็น สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เคยมี คณะศึกษาศาสตร์ คณะนาฏศิลปและดุริยางค์ และ คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร แต่พอเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ได้ยุบคณะไปรวม กับ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะเทคโนโลยีการเกษตร ตามลําดับ
  • แฟนเพจอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า ที่นี่คลอง6

ความรู้ทั่วไป[แก้ไข ]

  • ราชมงคลธัญบุรี ชื่อเดิมคือ ศรม.(ศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล)
    • เรียกสั้นๆว่า รม. (รอ มอ)
  • แต่ก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเป็นวิทยาลัยอาชีวะ มาก่อน
  • มักเรียกกันชินปาก ว่า "ม. คลองหก"
  • เด็กที่นี่จะเรียกตัวเองว่้า "เด็กคลอง" หรือ "เด็กธัญญ" มาจาก คลองหก ธัญญบุรี
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่มีน้ําล้อมรอบ ด้านหลังติดบึงพระรามเก้า ด้านหน้าติดคลองรังสิต6 ด้านข้างก็ติดคลอง ส่วนอีกด้านก็เป็นบึง
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุกรายล้อมอยู่เป็นดอกเห็ด
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่กรมทางหลวงชนบทไม่เคยเหลียวแล กลายเป็นลูกเมียน้อยในจังหวัดปทุมธานี เพราะเอางบสร้างทางเข้าไปสร้างสะพานหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิตหมดแล้ว
  • เป็มหาวิทยาลัยที่มีตัววรนุสมาเรียนด้วย เยอะมากกกก ทั้งที่คลอง6 และวิทยาเขต และบางทีก็จะเห็นซากที่โดนรถทับด้วย (ง่ะ)

คณะ[แก้ไข ]

คณะที่มีในมหาลัย มีดังนี้

คณะวิศวกรรมศาสตร์[แก้ไข ]

  • ตึกวิศวะมองดูดีๆ จะเป็นรูปจรวดขวดน้ําคว่ําหัว
  • ตึกวิดวะคอมที่อยู่ใกล้โรงอาหารมากที่สุด ไม่ควรเดินผ่านช่วงเปิดเทอม เพราะจะมีพวกรุ่นพี่ แกล้งน้องปีหนึ่ง โดยใช้คนเดินผ่านเป็นเหยื่อ
    • คนส่วนใหญ่จะนั่งรถผ่านไปแทน หรือไม่ก็เดินอ้อมไปทางตึก สบ. แต่คิดหรือว่าจะรอด มันยังมีวิดวะอีกหลายภาคที่ซุ่มรออยู่ในโรงอาหาร และตามตึกของคณะต่าง ๆ 55+
  • ปัจจุบันคณะวิศวะยังบังคับซื้อเสื้อ shop 1 ตัว แต่ตามกฏของคณะไม่อนุญาติให้นักศึกษาใส่มาเรียน
  • นักศึกษาวิศวที่นี่ โดยสัดส่วนแล้ว จะมีปัญหากับวิชา "แคลคูลัส" เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเด็ก ปวช. มาก่อนพื้นฐานด้านนี้เลยไม่มี (แต่เด็กที่จบ ม.ปลาย มาแล้วไม่ผ่านแคลคูลัสก็มีค่ะ ขอเพิ่มอีกพื้นฐานของปวช. ก็เรียนเหมือน ม.ปลาย แหละครับ ม.ปลายเรียนง่ายกว่าเยอะ เขาไม่ไล่ออกนิ ติด 0 เขายังให้แก้เลย)
  • เด็กวิดวะ นิสัยดี ส่วนมากจะเถื่อนๆ กวนส้นteen
  • วิดวะโยธาเป็นวิดวะที่ดูสกปรกที่สุด (บางที่อาจเห็นเด็กโยธาร้องเพลง ซีอิ้ว สงสัยเป็นตัวแทนจําหน่าย)
  • เวลาวิดวะโยธาเรียนน้องปี1 เหมือนพ่อมดกําลังร่ายเวทมนต์อยู่
  • เนตของคณะช้าเป็นเต่า เปิดgoogle ยังช้า แต่ คอม มีเนตส่วนตัวไวจัด
  • shop ตัดใหม่ต้อง idea พระนครเหนือ (ทําไมต้องไปไกลวุ้ย....)
  • ห้องน้ําชาย/หญิง ตึก eno ราวฟ้าก่าเหว 2 มาตรฐาน
  • ตึก eno เดิมคือ en0(อีเอ็นศูนย์)แต่เข้าใจว่าเป็น อีโน กันหมด
  • ในการบริจาคเลือด นักศึกษาวิดวะมีจํานวนมากที่สุด
  • เด็กปีหนึ่งคะน้าไฟ ต้องตัดผมหัวเกรียนกันทุกคน
  • ระบบ SOTUS สมัยก่อนต้องยกให้คะน้า 2 ระคม
  • ระบบ SOTUS เป็นสิ่งทีดีและยังเห็นได้ตามคะน้าต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะ คะน้าธรรมดา คะน้าหมูกรอบก็มี SOTUS นะเครป

คณะบริหารธุรกิจ[แก้ไข ]

  • หน้าตึกบริหาร ตึก 4 เรียกตึกครุอุด (ครุศาสตร์อุตสาหกรรม)
  • ตอนนี้คณะบริหาร สาวสวยเยอะมากๆ(โดยเฉพาะ เด็กกบรน่ารักโคดดดด )แต่โดนเด็กคณะคุรุ ตรงสามแยกปากหมาแซวซะเสียหมาหมดแล้ว (ส่วนมากจะเป็น อสบ. นะขนาดผมเองยังอายเลย เวลาอยู่กับผมนั้น)
  • มาคณะบริหาร ถ้าเจอหนุ่มหล่อ กรุณาดูดีๆ จะได้ไม่ตกใจในภายหลัง (หาชายแท้ยากส์มากก)
  • ปี 2554 จํานวนศึกษาเยอะที่สุด
  • คณะนี้มี4อาคาร แต่อาคาร3 เป็นของเด็กอินเต๋ออินเตอร์กับสะโมสอนคะน้า ตึกปรับปรุงดูไฮโซแต่ไม่มีลิฟแง่ว เด็กอินเต๋อเขาจะยึดเป็นฐานที่มั่น
  • อาคาร1 ไว้เรียนการเงินกับการตล๊าดของปริญญาตรีและมีห้องพักจารย์การเงินกับจารย์ตลาดอยู่ฉัน3 ไม่มีลิฟมีแต่บันไดเลื่อน(เอาเอง)
  • อาคาร2 ส่วนมากเอาไว้ให้ปริญญาโทเรียน แต่ป.ตรีก็มาเรียนบ้างเป็นบางวิชาเพราะตึก4ไม่พอเรียนไรว้า ตึกนี้เด็ก กบร.เขาจะอยู่แถวๆนี้เป็นฐานที่มั่น
  • อาคาร4 ชั้น2 ของบันชี ชั้น3 ของตล๊าด ชั้น4 ของจารย์ในคณะและผู้บริหาน ชั้น5 ของเสดสาด ชั้น6 ของจัดการ ชั้น7 ของสาระสนเตด ชั้น8 ห้องสมุดคณะ ชั้น9 ห้องประชุมห้องเรียนใหญ่ๆๆและห้องพักจารย์ของ กบร. ชั้น10 ไว้สําหรับ ปอโท เรียนกันง่ะ
  • ลิฟตึก4 มี4ตัว แบบว่า 2ตัวฝั่งต่อเติมออกมา มันร้องดังมากจนหน้ากลัวขึ้นและแบบว่าประจารกันเลยทีเดียว ไป5คนก็ร้องแล้วง่ะ ไรว้าใหญ่สะป่าวหรือมีคนอ้วนเข้าไปเยอะไม่รู้สินะ ส่วนลิฟอีกตัวโดดเดี่ยว มันเล็กแต่จุคนได้เยอะมักๆ ไม่ร้องสักแอะแต่มันจะล่วงเลยตังหาก มันไม่จอดชั้น2กับ3 มันบอกให้เดินเอาเสียเวลาเปิดประตูให้ ส่วนลิฟอีก1 ตัวเป็นของอาจารย์ โดยเฉพาะ พูดได้ว่า นศ.ไม่เกี่ยวนะ อาจเป็นคณะเดียวในมหาลัยเลยล่ะที่มีลิฟสําหรับอาจารย์ไฮโซอ่ะ
  • เวลาช่วงสอบลิฟตึก4 แถวจะยาวมาก ส่วนใหญ่ต้องเดินขึ้นบันไดเอาเองมะงั้นไม่ทันสอบ ถ้าสอบชั้น9นะ ไม่ต้องพูดเดินไปเลย9ชั้น บริหารสมองไปก่อนอย่าสะดุดบันไดนะม่ะงั้นลืมที่ท่องมาหมดแน่นอนเดินตั้ง9ชั้น
  • เป็นคณะที่มีนักศึกษาเยอะมักมักแข่งกับวิดวะเลยและคณะนี้ใหญ่มักๆ จนมีอาคาร5 แต่โดนคัดค้านให้เป็นอาคารเรียนรวมและปฎิบัติการแทน (ตึกเขียว13ชั้น) แง้ววว เขาบอกว่าบริหารตึกเยอะแล้วไรว้า ที่มีอยู่4ตึกก็ไม่พอเรียนแล้วนะแต่คะน้าเราใจดียอมให้คณะอื่นใช้ร่วมกันก็ได้ง่ะ
  • ซุ้มตึกบริหารมี4ซุ้ม แต่ตรงตึก4 มี2ซุ้ม ขายดีคนเยอะมักอ่ะ นักศึกษาที่นี่ชอบกินมาม่าใส่ไข่ใส่หมูใส่ลูกชิ้นใส่ผักแบบว่าคิวยาวโครตๆ รอไม่ไหวก็ข้าวกล่องไปก่อนนะตัวเธอ
  • เวลาแข่งกีฬาแสตนเชียร์คณะนี้คณะอื่นๆให้ความสนใจเป็นพิเศษมานั่งดู คณะอื่นมักจะมองว่าบริหาร บ้า (เพราะเขาแข่งกันเอาจริงเอาจังแพ้กันไม่ได้เชียวแหละมีหยามสักสี)
  • เด็กบัญชีกับการเงินจะแต่งตัวเรียบร้อยมักมัก ปี1 บัญชีนะใส่พีทยาวคัดรองเท้าผ้าใบการเงินใส่พีทยาวรองเท้าคัชชู เรื่องแสตนเชียร์ ต้องยกให้ทั้งคู่เขาแปะมากผลัดกันได้แชมเปี้ยนมาโดยตลอดดด แต่ว่า มาพลาดแชมป์ ให้การตล๊าดรุ่น56 นี่แหละเป็นแชมป์แสตนเชียร์ กีฬาแอดมินไปเก๋ๆ
  • เด็กการตลาดจะต้องเขียนแผนการตล๊าดตลาดทุกเทอม แล้วก็มีรางวัลกับมาจนเต็มคณะแล้วแต่เลือดตลาดก็ยังจะสู้ไม่ถอยขอแค่ประกาศ

ให้ชาวมหาลัยทั่วประเทศได้รู้ว่านี่คือตลาดคลอง6ที่กวาดรางวัลใหญ่ๆ เทียบกับมหาลัยดังๆมาแล้วเกือบทุกสนาม ที่สําคัญตลาดมักจะไม่ถูกกับ เสดสาด มันสืบทอดกันมารุ่น รุ่นอ่ะ เด็กตลาดมักจะคุยเก่งจนจารย์ทุกท่านที่ได้สอนต้องเอ่ยปากว่าเด็กตลาดจริงๆ เรียนตล๊าดต้องพรีเซ้นเก่งหน่อยนะเพราะเขามีพรีเซ้นกันทุกชั่วโมงเลยล่ะ ตลาดที่นี่ไม่ได้ง่ายอย่างที่ทุกคนคิดเพราะตลาดที่นี่คัดแต่หัวกระทิ ไม่งั้นแข่งแผนการตล๊าดสู้เขาไม่ได้นะคู่แข่งมอดังๆเยอะมัก มัก นอกเหนือจากรายงานรายวิชาแล้วจะต้องมีแผนการตลาดส่งประแข่งเพิ่มอีกเทอมนึงไม่ต่ํากว่า 5 แผนเอาเวลาไหนนอนกันถาม

  • เด็กเสดสาดมักจะรับน้องออกแนววิดวะ แค่โค๊ดจัดแถวก็กินขาดแล้ว อัยย่ะ แต่เด็กเสดสาดที่นี่หน้าตาดีเลยทีเดียว ไม่เชื่อส่องดูได้
  • เด็ก กบร.เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้สาขาไหนๆ เมื่อแข่งเชียร์เขาสู้ขาดใจอ่ะ ผู้นําเชียร์ต้องยกให้สาขานี้น่ะ สวยเริศตลอดได้รางวัลทุกปีเล้ยยยย เวลาเรียนเขาจะใช้ภาษาเป็นหัวใจสําคัญเพราะเขาคือธุรกิจระหว่างประเทศ อ่อ!!! อีกอย่าง ดาวสาขานี้เค้าสวยมาก สวยทุกปี มีสายสะพายทุกปีคิดดู ได้เป้นตัวแทนคณะไปประกวดดาวเดือนมหาลัย 3 ปีซ้อนแล้วเธออออใครๆก้เรียก "เด็กไหน...หว่างเทศ" อยากเจอป่ะละ
  • เด็กการจัดการก็ใช่ย่อยมี 3 จัดการไปสืบๆดูกันเอาเอง เขามักจะไม่ถูกกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ไม่รับรุ่นน้องไม่เอารุ่นพี่ก็มีมาแล้ว เด็กจัดการพิเศษใส่ไข่ ใครเรียนจัดการต้องมีสูตรไว้ใส่เรียนด้วยบางวิชา
  • เด็กสาระสนเทด มีช็อปสีแดงทํากันเอาเองเท่ๆอ่ะ ในบริหารเขาใส่สาขาเดียว แต่อาจารย์ก็มักจะว่าไม่ให้ใส่ผิดกดคณะ บลา บลา สาขานี้เขารับน้องเซคใครเซคมันนะ ไม่กินมาม่ากันสืบทอดรุ่นๆ
  • ส่วนคะน้าบริหาร จะไม่มีรับน้องรวมกันมีแต่วันปฐมนิเทศคณะเท่านั้น แบบว่ารับใครรับมันอย่ามายุ่งกับฉันนะ ป้ายห้อยคอก็ของใครของมันมีหลากหลายรูปแบบ หลายคอนเซ็ปแต่ละปีไม่เหมือนกันแน่นอน เวลารับน้องซ้อมเชียร์จารย์มักจะคุมเข้มไม่ให้เกินเวลาหรือไปนอกสถานที่ ไม่ให้ว๊ากก็มีมาแล้ว
  • โรงอาหารที่ใกล้ที่สุดก็พวงชมพู อร่อยสุดและแต่คนเยอะส่วนมากเด็กบริหารก็พึ่งข้าวกล่องกับมาม่าที่ซุ้มแทนอ่ะ
  • ก่อนน้ําท่วมปี54 คณะมีทางเดินร่มๆใต้ต้นสน แต่หลังน้ําท่อมต้นสนหายไปโดนตัดสะงั้น เด็กคณะนี้เลยดํากว่าเดิมอีกเดินตากแดด แดดคลอง6แรงมากไม่เชื่อรองมาเดินดูสิจะรู้ว่าดําสะกดอย่างไง

คณะคหกรรมศาสตร์[แก้ไข ]

  • มีโรงอาหารเป็นของตัวเอง มีชื่อเรียกว่า พวงชมพู

>> คณะนี้เป็นคณะที่ขลาดแคลนบุคลากร "ผู้ชาย" อย่างแท้จริง กระทั่งอาจารย์ ยังไม่มีผู้ชายจริงๆ แม่แต้คนเดียว(ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันมีหรือยัง) มีเรื่องตลกทุกปีในการแข่งขันกีฬาบัวน้ําเงิน คือคณะนี้จะมีบุคลากรชายไม่น่าเกิน 7- 8 คน และต้องตระเวนแข่งกีฬาชายแทบทุกประเภท (ไม่พร้องยังจะส่งแข่งอีก)

รู้จักคําว่าสปิริตป่ะ แล้วผู้ชายก้มีมากกว่า 7-8 คนคะ --มั่ว!!! (โทดนะครับ คนน้อยแต่ก็ไม่กากนะครับ)

และในทีมฟุตบอล มักจะมีนีกกีฬาพอดีตัว ห้ามเปลี่ยน ทีมนี้จะเอาน้องชายเทียมมาลงแข่งให้เต็ม จนกลายเป็นทีมแจกแต้มอย่างแท้จริง เมื่อประมาณปี 2545 - 2546 ไม่แน่ใจว่าปีอะไร ทีมฟุตบอลคณะนี้มีผู้เล่นไม่ครบแต่ไม่ยอมแพ้บาย จึงส่งสุภาพสตรีลงแข่ง และที่เซอร์ไพรส์ผู้ชมทั้งสนามคือ สามารถยิงทีมวิศวกรรมศาสตร์ได้ 1 ลูก สโมสรฯคณะวิศวะฯ ฝ่ายกีฬา รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก ทําให้เกิดข้อถกเถียงว่าส่งผู้หญิงลงแข่งได้อย่างไร และเมื่อเปิดกฏิกาดูจึงพบว่า คหกรรม ไม่ได้ทําผิดกฏ เนื่องจากไม่ได้ระบุประเภท ว่าเป็นฟุตบอลชายหรือไม่ และไม่กําหนดคุณสมบัติเรื่องเพศไว้ ปีต่อมากีฬาบัวน้ําเงินจึงเพิ่มชื่อประเภทกีฬา และกฏิกาใหม่ เป็น "ฟุตบอลชาย"

  • ผู้ชายมีแต่ตุ๊ดอ่ะ @วิดวะช่างไฟฟ้ามาเยือน อิอิ ไม่ตุ๊ดก็มีครับ เยอะด้วย
  • คหกรรมนู๋ผิดตรงไหนที่มีผู้ชายน้อย ชิชะวิศวะ

สาวคหกรรมน่ารัก โดยเฉพาะ เด็กสาขาปฐมวัย กับ เด็กอาหาร

คณะศิลปกรรมศาสตร์[แก้ไข ]

  • เดิมที ศิลปะกํา ย้ายมาจาก เพาะช่าง มาเป็นคณะในสังกัดของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
  • เสื้อช็อปสินกํา สีดําแถบส้ม แต่ชอบใส่ สีเขียวอ่อน แบบเดิมมากกว่า
  • ศิลปกรรมจะมี 3 ภาควิชาแต่จะชอบแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งศิลปกรรมแล้วก็ฝั่งนาดสิน (ซึ่งยุบมาจากคณะนาฏศิลป์และดุริยางค์)
  • ตึกนาดสิน เหมือนถูกทอดทิ้งเพราะเป็นตึกที่อยู่ห่างไกลจากคณะมาก (ตึกสีเขียวตรงประตู 4 ตึกที่มีพระพิฆเนศ)
  • เด็กศิลปกรรม มองดูก็รู้ว่าเป็นศิลปกรรม ผู้ชายติสสุด ผู้หญิงไม่สวยก็ดูสวย (ส่วนเด็กนาดสินดูได้จากคิ้ว ทุกนางคิ้วเป๊ะ!)
  • เวลามีการแข่งขันกีฬาภายใน หลังจบการแข่งขันจะมีการข่อนขอดกัน ระหว่างภาคออกแบบกับนาดสิน (แทบทุกปี)
  • เวลาแข่งขันแสตนเชียร์ ศิลปกรรมมักได้คําชมเรื่องการร้องเพลงที่ไพเราะมาตลอด
  • อาคาร 5 ที่อยู่ตรงแยกสถาปัตย์ เป็นตึกที่ค่อนข้างน่ากลัว ถ้าเดินมาจากด้านหลังตึก จะมีหุ่นตั้งอยู่บนตู้และมองมาที่คนเดิน (หลอนกันไปตามระเบียบ)
  • เมื่อถึงเวลาประกวด ดาว-เดือน ของคณะ ส่วนใหญ่แล้วตัวแทนจะเป็นสาขานาฏศิลป์ไทยซะส่วนใหญ่ (เพราะอะไร?) ปล.เพราะว่าสวยมากค้าบบบบ
  • สโมสรนักศึกษา.......?

คณะอุตสาหกรรม[แก้ไข ]

  • เมื่อก่อน คณะอุตสาหกรรมเคยได้ใบ กว. เช่นเดียวกะพวก วิศวะ
  • เด็กภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีการศึกษา 50 บางคนเรียนเทอมเดียวมีชื่อคณะ 3 ชื่อ มีชื่อ 1.ศึกษาศาสตร์ 2.ครุศาสตร์เทคโนโลยี 3.ครุศาสตร์อุตสาหกรรม
  • รับน้องครุศาสตร์ เถื่อนที่สุด มีที่ไหน ให้น้องกลิ้งในทินเนอร์ !!
  • รับน้องครุศาสตร์ บางสาขาขึ้นไปรับน้องบนลานดาดฟ้า....
    • ปล. เลิกแล้วครับ ไม่มีให้กลิ้งแล้ว เดี๋ยวน้องๆรุ่นหลังๆ อ่านแล้วตกใจ

เดี๋ยวนี้ครุศาสตร์ รับน้องเบา มาก ยิ่งศึกษาศาสตร์ เทคโนสื่อสาร ยิ่งแทบไม่มีไรเลยยย

 *ในสาย กล โยธา อุตสาหกรรม ยังเบาลงมาบ้างแต่ยังรับอย่างแข็งขัน
  • ครุศาสตร์อุตสาหกรรม ข้างๆตึก เป็นจุดรวมตัวกัน แซวสาวๆบริหารและคณะอื่นๆ จึงได้ฉายาว่า "สามแยกปากหมา" ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ลองไปเดินดู
  • ครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาเทคโนสื่อสาร และ เทคสารสนเทศ คนจะรู้จักกันในชื่อ ศึกษาศาสตร์
  • ครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่เป็นศึกษาศาสตร์มาก่อน มีอยุ่ 3สาขา คือ เทคโนสารสนเทศการศึกษา คอมพิวเตอร์ศึกษา เทคโนสื่อสารการศึกษา
  • เทคโนสารสนเทศการศึกษา และคอมพิวเตอร์ศึกษา จะรับน้องรวมกัน เรียกว่า คอม IT และ เทคโนสื่อสารจะรับเดี่ยว (เพิ่งแยกมารับ)
  • คอมพิวเตอร์ศึกษา และ เทคโนสารสนเทศศึกษา ซึ่งชื่อคนละสาขากัน แต่เมื่อมีพี่รหัส จะมีร่วมกัน
  • คอมพิวเตอร์ศึกษา เรียกว่า คอม5 ส่วน เทคโนสารสนเทศศึกษา เรียกว่า IT แต่เมื่อก่อน เรียกว่า คอม 4
  • ข้างๆ ตึก ศึกษา 2 จะเป็น ตึกศิลปกรรม มีรูปปั้นเยอะมาก ดุค่ําๆแล้วน่ากลัว
  • เสื้อช็อป ของครุศาสตร์ คอบ.-อสบ. จะเป้นสีครีม เสื้อช็อปของ ศึกษาศาสตร์บัณฑิต จะเป็นสีม่วง
  • คอบ.-อสบ. จะสามัคคีกันมาก เพราะสอนให้สามัคคีกันตั้งแต่ตอนรับน้อง
  • ครุศาสตร์อุตสาหกรรม จะอัดแน่นความรู้กันหนักหน่วงมาก (ก็เรียนกัน5ปีนี่เนอะ) ส่วนศึกษาศาตร์จะเรียนเบาๆ
  • ครุจะแสดงแสงยานุภาพตัวเองอย่าง "ครูช่าง" ต่างจาก ศึกษาจะมีความเป็น คุณครู (แอ๊บแบ๊ว)
  • ทั้งๆที่เป็นคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม แต่ตึก ของ คอบ.-อสบ. และ ศสบ. ห่างกันมาก
  • ตึกศึกษาศาสตร์ 2 ข้างๆ จะเป็นตึกบรรยายรวม สาวๆจะเยอะมาก
  • หน้าตึกศึกษาศาสตร์ 1 จะเป็นตึกดุริยางค์ศิลป์ แต่ปัจจุบันกลายเป็นโรงเรียนสาธิตนวัตกรรมฯ
  • ศึกษาศาสตร์2 จะมีผีเป็นครูนาฏศิลป์ (ตึกข้างๆ) มารําให้เห็น และมีชื่อแล้วว่า "สุกี้น้ํา"
  • ปัจจุบันไม่เปิด อสบ. แล้ว

คณะวิทยาศาสตร์เทคโน[แก้ไข ]

ขอพูดถึงคณะวิทย์นิดนึงงงงง

  • ตึกคณะวิทย์เป็นตึกที่ ลมโกรกตลอดเวลา(และลมแรงมาก พวกเด็กกระโปรงบานต่างคณะมาเปิด "หวอ" ที่นี่ประจํา)
  • อาหารประจําคณะวิทย์คือ "มาม่า" และ "ไข่ต้ม" รวมไปถึงข้าวกล่องที่วางขาย สําหรับคนที่ขี้เกียจไปกินที่พวงชมพู
  • คณะวิทย์เป็นคณะที่บังคับให้ใส่กระโปรงทรงเอ เพราะ แถวนี้ลมแรง คนที่ใ่ส่กระโปรงพลีทมาแถวนี้ ระวังให้ดี เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ "มารีลีน มอนโร" กับตัวคุณได้ (ยืนยันโดยเด็กคณะวิทย์ ข้าพเจ้าเอง) ที่จริงแล้ว เพราะเดิมทีเด็กคณะวิทย์มักต้นขาใหญ่ เลยต้องปิดไว้แล้วอ้างเรื่องลม
  • นศ.คณะวิทย์มีร้านอาหารประจํา คือซุ้มในคณะ เพราะมีแค่ร้านเดียว และไม่มีโรงอาหารประจํา (ถ้าอยากกินดีๆ ต้องเดินไปโรงอาหารพวง(อะไร)ชมพู ซึ่งไกลพอสมควร)
  • อาคารสถาบันวิจัยเคมี (เป็นที่อยู่ของพวกนักวิทย์แปลกๆ) เป็นที่เรียนภาควิชาเคมี ของเด็กปี1-2 ภาคเคมีชั้น 6 เอาไว้เรียนตอนปี 3 ปี 4 เท่านั้น
  • ตึกคณะวิทย์ ชั้น 5 (ภาคชีววิทยา,สาวสวย) กับชั้น 6 (ภาคเคมี,สาวล่ํา) เวลาเดินผ่านจะมีกลิ่นฉุนๆของสารดองกับสารเคมีเสมอๆ
  • ได้ยินมาว่า ยามที่ตึกวิทย์ เป็นยามชั้นสูง เพราะเคยเป็นทหารรักษาพระองค์ แล้วมีคําสั่งให้มารักษาการที่นี่
  • ยามตึกวิทย์มีคนเดียว และต้องคอยดูแลตึกทั้ง 9 ชั้น ที่มีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่ไม่ยักกะมีใครมาขโมยไป เพราะไม่รู้จะเอาไปทําอะไร
  • ที่บอกว่าตึกวิทมีกล้องวงจรปิดนั้น ตอแหล
    • มีแล้วจร้า ชั้น 1 อะ มีตั้งแต่ หน้าห้องน้ํา หน้าลิฟท์ หน้าห้องสโม เดี๋ยวนี้กระเทยคณะวิทย์ จะมาเต้นแร้งเต้นกา หรือ เดินร่อนเป็นห่าน ไม่ได้แว้ว
  • ตึกคณะวิทย์มีชั้นดาดฟ้าด้วย ว่ากันว่า เย็นมาก และลมแรงมากกกกก
    • นอกจากจะมีทั้งบึงพระรามเก้า และคลองรังสิตติดกัน ยังมีบึงของคณะ (บึงมรกต ในตํานาน) จะไม่ให้ลมโกรกได้ไง -_-"
  • ห้องคอมพิวเตอร์ มักจะไม่มีเด็กไปเล่นคอมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะไปเล่นที่ห้องสมุดคณะ(ชั้น4,เจ้าหน้าที่หน้าหักๆ) มากกว่า
  • หนังสือในห้องสมุดคณะ ไม่ค่อยมีใครมาแตะ นอกจากจะมีการทํารายงานหรือ ทําโปรเจค หนังสือจะหดหายอย่างรวดเร็ว,หนังสือดีๆมักจะถูกพวกเด็กเรียน(ไม่เก่ง) ฮั๊วกันยืม สลับกันไปมา ไม่ตกมาถึงมือพวกเราซักที
  • แอร์ห้องสมุดคณะเย็นมากกก
  • ภาค com-sci กับ com-tech และ พี่ Tech com ใช้ชั้นเดียวกัน (แต่ไม่ยักกะถูกกัน) คือชั้น8 ( อะไรจะขี้เหนียวงบปานนั้น 3 ภาค เรียนอยู่ชั้นเดียวกันหมด แต่ชั้น 9 กลับไม่ค่อยมีคนเรียน - -" )
  • ส่วนภาค math กับ stat(สถิติ) ใช้ชั้นเดียวกันคือชั้น 9 แต่ห้องอาจารย์ math ดันอยู่ชั้น 2 -*- เอาไว้ถ่วงเวลาอาจารย์ขี้เกียจสอน
  • ว่ากันว่า ภาคชีวะ กับ ภาคเคมี เป็นภาคที่ไม่ค่อยถูกกัน แต่ดันเป็นภาคที่รุ่นน้องมีพี่เทคร่วมกัน -*- (ไม่ถูกกันด้วยสาเหตุใด ไม่มีใครตอบได้ แต่ทุกคนที่เข้ามาเรียนต้องไม่ถูกกันจริงๆนะ ยืนยันจากเด็กชีวะ รุ่น 4)
    • เดิมที ค๊ะน้า วิทย์ มีแค่ภาค เคมี (อุตฯ - วิเคราะห์ ซึ่งสองพวกนี้มักแข่งกันเอง) ต่อมาก็เป็นภาคคอม (คอมไซ กะ คอม(เที่ยว)เทค ก็ดันไม่ถูกกันเองอีก) และ คอมกะเคมี ก็ไม่ถูกกันเองอีก ต่อมามีภาคต่างๆก็ ไม่ถูกกันแยกย่อยออกมา สรุป สามารถจัดสายการต่อสู้ได้เหมือน บอลยูโร เลยทีเดียว
  • คณะวิทย์ เป็นคณะที่มีผู้คน(จากคณะอื่น) มากหน้าหลายตา มาใช้บริการมากที่สุด รองจากคหกรรม (ถ้ามีโรงอาหาร ชนะไปแล้ว ส่วนใหญ่มาเรียนแคลฯ ซึ่ง พวกวิดว๊ะมักจะดรอบกันไว้เรียนก่อนจบ พวกนี้มักถูกเรียกว่า วิดว๊ะสายอื่นๆ เพราะไปเรียนหนักทางวิชาช่วย เช่น แคมปลิ้น เอ๊ย แค๊มปิ้ง แล้วมันจะเป็นวิดว๊ะสายอะไร )
  • คณบดีคณะวิทย์ เป็นที่ปรึกษาเด็กคณะวิศวะ แต่ไม่เป็นที่ปรึกษาเด็กคณะวิทย์ด้วยกัน ( เพราะท่านเคยเป็นอาจารย์คณะวิศวะมาก่อน แล้วมารับตําแหน่งที่คณะวิทย์ !! ,ก็ดูเด็กมันสิ วิทว๊ะสายอื่นๆ)
  • รับน้องคณะวิทย์ใครว่าไม่โหด ขนาดเตะกระป๋องพลาสติกที่เขียนว่า "ตกไม่แตก" แตกมาแล้ว
    • แถมค่ายที่ไปรับน้องคือค่ายทหาร จปร.
 ***หนูว่าไม่โหดนะค่ะ มีพี่ๆมาไห้เต็นด็อกแด็กๆ แล้วพี่ว๊ากก้อเป็น ญ บ้างตุ๊ด บ้าง ตอแหล่ มาก
 ****เคยมีพวกแก่ๆ เล่าว่าเมื่อก่อน พวกว๊าก ทุกคณะ ส่วนใหญ่จะดูดี และแต่งตัวเรียบร้อยมากจะว๊าก เฉพาะเรื่องที่พวกเราแย่กันจริงๆ แต่ว๊าก ทุกวันนี้มันเป็นตัวประหลาดตามแฟชั่น
  • ตอนกลางวันที่นี่จะเปิดเพลง แต่ละเพลงก็ซ้ําๆกัน แต่ก็ฟังไม่มีเบื่อ

ปล. ในปัจจุบันนี้ ไม่มีเสียงเพลงอะไรเลยอ่ะ

  • คณะวิทย์มีทีวีดู ตรงหน้าห้องสโมฯ กับแถวร้านถ่ายเอกสาร
  • พี่สโมของที่นี่เวลามีงานอะไรก็ตาม จะแจกอาหารว่างน้องเป็น ไวตามิลค์ กับ แซนวิช เปลี่ยนที่เถอะเอียนไวตามิลค์!!!

ปล. ตอนนี้เปลี่ยนแล้วนะครับ เดี๋ยวนี้แจกชาเขียวกล่อง UHT กับขนมต่างๆ ที่ไม่่ใช่แซนวิชเพียงอย่างเดียว

  • วิชาที่ตกกันมาก และเก็บยากที่สุดของที่นี่คือ calculus เพราะเนื่องด้วยการสอน และการตรวจที่ดีมากกกกกกกก ของคณาจารย์ ทําให้รุ่นพี่ ปี5-6 ต้องมาเดินแก้กันเป็นทิวแถว ไม่ใช่แค่เด็กคณะวิทย์เท่านั้น พวกคณะอื่นก้อโดนหางเลขด้วย
  • เด็กคณะวิทย์ ชอบเดินผ่านคณะสินสาด เพราะเป็นทางเชื่อมสู่คณะบริหาร และโรงอาหารพวงชมพู ซึ่งจะเห็นความแตกต่างกันชัดเจน ระหว่างสูงยาวเข่าดี ขาวสวยหมวยอึ๋ม ที่ใส่กระโปรงยาวเสื้อหลวมๆ กับพวก ทรงเอล่ําๆใส่แหนมสีขาว

คะน้าเทคโนสื่อสานม้วนชน[แก้ไข ]

  • คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มีตึกแค่สามชั้น กับตึกการพิมพ์ ราคารวมแพงมาก
  • อาคารคณะสื่อสารมี 8 ชั้น แต่เดิมเป็นของคณะเทคโนฯการเกษตร หลังจากเทคโนการเกษตร ย้ายออกไปอยู่เมืองเอก (แต่ดันมีป้ายติดไว้เป็นที่ระลึก) ทําให้ตึกตั้งแต่ชั้น4ขึ้นไป โคตรจะร้าง
    • สมัยก่อนสื่อสารใช้ตึกร่วมกันกับคณะเทคโนฯการเกษตร โดยชั้น 1-3 เป็นของสื่สาร ชั้น 4-8 เป็นของการเกษตร
  • เด็กคณะสื่อสาร 60% ไม่รู้ว่าชั้นบนสุดของตึกเป็นหอประชุมอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งาน ร้างมานานมาก ฝุ่นจับหนาหลายเซ็น ขี้นกพิราบกองเกลื่อน
  • ในยุคแรกๆนั้น ภาควิชาถ่ายภาพ&ภาพยนตร์ กับภาควิชาการพิมพ์ อยู่ภายใต้คณะเทคโนฯการเกษตร O____0"
  • เด็กถ่ายภาพ&ภาพยนตร์ รุ่น12 เคยได้รับใบจบหลักสูตรของทั้งวิทยาศาตรบัณฑิต และเทคโนโลยีบัณฑิต จากความเข้าใจผิดในการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร (เรียนหลักสูตรวิทแต่ได้เทคโน ใครจะไปยอม!!)
  • เด็กใหม่มักจะหาตึกสื่อสารไม่เจอกัน เพราะป้ายมันโดนบังจากทุกทิศทุกทาง (บางคนถึงกับเรียกว่าคณะลูกเมียน้อย)
    • สมัยก่อนเรียกว่าคณะลับแล เพราะป้ายคณะ อยู่ที่หน้าตึกบันไดขวา โดนต้นไม้ใหญ่บังซะมิด (ปัจจุบันย้ายป้ายไปอยู่หน้าตึกบันไดกลาง) ใครผ่านไปผ่านมาจะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นคณะเทคโนฯการเกษตร เพราะป้ายเห็นชัดกว่า อยู่สูงกว่า (ย้ายคณะออกไปแล้ว แต่ยังเหลือไว้เป็นที่ระลึกทําไมก็ไม่รู้)
  • คณะนี้ขาดงบประมาณจ้างแม่บ้านทําความสะอาดชัวร์ๆ ถึงขนาดติดป้ายไว้ว่า "ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย แม่บ้านน้อย"
  • สตูทั้ง 4 ห้องโคตรเก่า ผนังก็พัง ฝุ่นก็เยอะ ถ้าใครเคยเดินขึ้นไปด้านบนจ ะรู้ว่าโสโครกแค่ไหน (แต่... เดี่ยวนี้เขาทําใหม่แล้ว ดูดีและไฮโซมากๆๆๆ)
  • ปัจจุบันคณะได้เครื่อง motion capture ราคาประมาณ10ล้าน มาตั้งไว้ที่สตู3 (สงสัยงบเยอะ)
  • หลอดไฟชั้น3 โคตรไฮเทค เป็นระบบเซ็นเซอร์ แค่ยุงบินผ่านก็ติดแล้ว
  • คณะนี้มี wifi เยอะมาก แต่อัตราการต่อติด...น้อยมากถึงมากที่สุด ต้องไปใช้ของวิศวะตลอด ปัจจุบันเปลี่ยนระบบแล้ว ยังกากอยู่ดี
  • พนันได้ว่า ยังมีคนไม่รู้ว่าห้องสมุดคณะอยู่ไหน
  • มีโรงหนัง มีห้องออกกําลังกาย ห้องฟิสเนต กับสตูดิโออยู่ในตึกด้วย
    • เดี๋ยวนี้ชอบมีหนังใหม่ๆ มาเปิดตัวที่นี่ (ดูฟรีๆ ในห้องสมุด)
  • อย่าคิดว่า เป็นเด็กสื่อสารแล้วต้อง "หน้าตาดี"
  • เด็กคณะนี้ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะนึกว่า เป็นเด็กสินกํา หรือถาปัต
  • เด็กมัลติจะสังเกตง่ายมาก เพราะมันใส่แว่นกันเกลื่อน
  • เด็กมัลติจะได้เรียนวิชาของสาขาอื่น แต่สาขาอื่นไม่ได้เรียนวิชาของมัลติ
 มั่ว ผมยังเรียนวิชามัลติเรย
  • สาขามัลติมีเดีย มีเครื่องแม็คอินทอช ให้ใช้ แต่ไม่พอใช้ เพราะสาขานี้รับเด็กเยอะมาก (เครื่องแมคลงวินโดว์ XP อีกต่างหาก)
  • บ้านใครรวย ถ้าเรียน มัลติฯ แนะนําให้ซื้อโน๊ตบุคแรงๆรอเลย เพราะถ้าไปเรียนสาย จะไม่ได้ใช้เครื่องแม็คฯ
    • ดังนั้นค่าใช้จ่ายของเด็กมัลติจะโคตรเยอะ ทั้งกล้อง+คอมหรือโน๊ตบุ๊ค (บางคนรวยจัดมีมัน2อย่าง) + acc เข้าไปอีก
  • เด็กโฆษณา กับ เด็กเทียบโอน หน้าตาดูดีสุดแล้ว (ขนาดกระเทยยังหน้าสวยเลย ให้ตายเหอะ)
  • ห้องสโมจริงๆแล้วอยู่ชั้น 3 แต่ไม่รู้ทําไมลงมาใช้่ห้องชั้น 1 ชั้น 3 มันเลยเป็นห้องเก็บของไป
  • เป็นอาถรรพ์เกือบทุกปี ที่ไม่เห็นหน้าเห็นตา คนเป็นอุปนายกคนที่ 1 และ 2 (ปีล่าสุด62มีเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย)
  • ห้องฝ่ายพัฒนานักศึกษา ก็คือห้องสโมสรนักศึกษา แต่เหมือนห้องเก็บของที่เปิดแอร์มากกว่า
  • แม่บ้านบางคน เหมือนวิญญาณ ล่องลอยได้ทั้งตึกใหญ่ และโรงพิมพ์ รวมถึงห้องสํานักงานคณะ
  • สโมสื่อสาร มีแต่เด็กมัลติ
  • ห้องเรียน ชั้น 2 และ 3 ถ้าไม่เคยเรียนห้องนั้นมาก่อนจะหาไม่เจอ (ซับซ้อนมากๆ)
  • เชื่อกันว่า ตึกของสื่อสาร เป็นโครงสร้างตึกแรกของสถาบัน ที่ตรงกลางปิดทึบ แต่ตึกคระอื่นตรงกลางกลวง
    • ดังนั้นห้องเรียนหลายห้องของที่นี้ จึงไม่มีหน้าต่าง ทางเดินภายในอาคารยังกับเขาวงกต
  • สมัยก่อนทุกคนจะเรียกตึกคณะนี้ว่า "วังค้างคาว" เพราะภายในตึกค่อนข้างมืด ไม่มีหน้าต่าง เลยเหมือนถ้ํา จึงมีค้างคาวจริงๆ เป็นฝูงมาอาศัยหลับนอน ห้อยหัวบนเพดานทางเดิน พอมีนักศึกษาเดินผ่าน พวกมันจะตกใจแตกตื่น บินกันว่อนโฉบหัวไปมา เหมือนในหนังสยองขวัญ!! 5555 แต่ปัจจุบันนี้แทบไม่เหลือให้เห็นแล้ว (มีแต่นกพิราบ อาจจะมีอยู่บ้างนิดหน่อยตามชั้น 4-8 ซึ่งไม่ค่อยไม่คนเดิน)
  • แต่ก่อนสื่อสารมีซุ้มป้าเสิรฐ น้ําจิ้มเดือดปุดๆ แต่ลูกชิ้นเย็นเจี๊ยบ ส่วนผสมในน้ําจิ้มมีซอสพริก น้ําจิ้มไก่(เคยเห็น) จะเอาน้ําในขวดที่เหลือ ไปใส่กาให้เด็กต้มมาม่า สั่งเป๊ปซี่ใส่น้ําแข็งแต่จะได้เป๊ปซี่อุ่นมาแทน สกปรกมากจนโดนร้องเรียน (แต่อร่อยดี 55)
    • ตอนนี้โดนเด้งไปแล้ว มีแต่ชาไข่มุกขาย แต่ไม่มีข้าวให้แดร๊ก มีแต่มาม่าใส่ผักใส่ไข่ ต้องเดินไปซื้อของกินหน้าตึกการพิมพ์ เซงฝุดๆ

คะน้าศิลปะสาด[แก้ไข ]

  • ตึกศิลปศาสตร์ มีสวนสวยกว่าตึกวิทยาศาสตร์ ที่แถบนั้นไม่มีต้นไม้เลย
  • ผู้ชายที่เรียนคณะศิลปะศาสตร์ น้อยมากที่จะเป็นชายแท้ (กระเทยสวยอีกแล้วววว)
  • คณะสินสาดต้องแต่งกายให้ถูกระเบียบ เสื้อใส่ในกางเกง รองเท้าผ้าใบหรือส้นสูง ไม่งั้นคุณจะเจอยามที่"วิ่ง" ขึ้นไปจากชั้น 1 ถึงชั้น 5 เพื่อเป่านกหวีดเรียกให้คุณเอาเสื้อใส่เข้าในกางเกง (เรื่องจริงจากเด็กสินกํา)
  • สินสาดเป็นคณะ ที่รวมอาจารย์ยันยาม กล่าวขานกันว่า "เข้มสุดๆ" ต้องแต่งกายถูฏระเบียบทุกครั้ง ไม่งั้นไม่ให้ขึ้นตึกหรือส่งงานใดๆ -*-
  • ลานเข้าตึกสินสาด ที่เดินขึ้นบันไดมา เรียกว่า ลานหมาหลับ จะสังเกตุเห็นหมาตัวสีขาวชื่อ แกรนดราฟ์ (ตายแล้ว T^T) กับ หมาตัวสีดําชื่อ อลิซาเบธ ซึ่งเป็นหมาประจําคณะนอนหลับอยู่บ่อยๆ เนื่องจากอากาศดี(ตอนนี้เข้าไปนอนในห้องทะเบียนแล้วเนื่องจากอากาศร้อน)
  • ลานที่มีคนเดินผ่านตึกสินสาด จากคณะวิทย์ เรียกว่า ลานกินหนม เป็นสถานที่ที่ไว้ให้กินหนม
  • นอกจากนี้ ทางคณะศิลปศาสตร์ยังจัดให้มี ลานมะเร็ง สําหรับบุคคลที่ต้องการจะสูบบุหรี่อย่างเป็นที่เป็นทาง
  • ชั้น 1 เป็นเพียงด่านแรกของการตรวจระเบียบ หลายคนบอก ยามดุ และสําหรับเด็กสินสาดด้วยกัน น้ายามใจดีที่สุด (จริงๆทั้ง 2 คนคอยช่วยเหลือเด็กตลอด ถ้าเด็กไม่ได้ทําอะไรผิดกฏน้ายามก็ใจดีมาก)
  • ชั้น 2 ไม่มีห้องเรียน เป็นห้องฝ่ายต่างๆของทางคณะ มีห้องของคณบดีด้วย เวลามีซ้อมเชียร์ที่ชั้นล่าง อาจารย์ที่อยู่ชั้นสอง ก็จะมายืนดู.. -*-
  • ชั้น 3 ของคณะ จะมีห้องเรียนประจําของนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศจีน ซึ่งนักศึกษาในคณะจะเรียกชั้น 3 ว่า "เมืองจีน"
  • ชั้น 4 อาจารย์ที่สอนพวกภาษาจะอยู่ประจําชั้นนี้
  • ชั้น 5 มีห้องประชุมขนาดใหญ่ของคณะ และ ห้องน้ําที่อยู่ข้างๆห้องประชุม เค้าว่ากันว่า "มีสิ่งลี้ลับ อาศัยอยู่ ซึ่งเด็กในคณะไม่มีใครกล้าเข้า" และเวลากลางคืน เมื่อยืนอยู่ชั้นล่าง อย่าเงยหน้าขึ้นไปมองชั้น 5 เชียว(ไปเข้ามาบ่อยมาก ที่น่ากลัวเพราะมันทืบ และเป็นห้องน้ําห้องเดียวที่อยู่มุมตึกฝั่งนั้น..)
  • ชั้น 6 ห้องแซวววววว (Self access language learning centre) ห้องเรียนภาษาด้วยตัวคุณเอง ซึ่งมีอินเตอร์เนตให้ นศ.เข้าไปเล่น Facebook แล้วก็ยังมีห้องสมุด ที่เปรียบเสมือนเมืองจีนแห่งที่สองของคณะ เพราะเด็กจีน เยอะมากกกก
  • ชั้น 7 มีแต่ห้องเรียน...
  • ชั้น 8 ชั้นนี้ เป็นที่กล่าวขานของเด็กในคณะ โดยเฉพาะเด็กท่องเที่ยวและเด็กโรงแรม หากแต่งกายผิดระเบียบ กรุณาอย่าได้ก้าวขึ้นไปเหยียบ เพราะอาจโดนทัณฑ์บน หมดสิทธิ์ฝึกงานได้
  • ชั้น 9 เป็นห้องลีลาศ ห้องยูโด (พวกเรียนยูโด ฟาดเบาะเสียงดังมาก)และว่างๆ ก็เป็นห้องซ้อมเชียร์ของเด็กปีหนึ่ง มีห้องปฏิบัติการของการท่องเที่ยวและการโรงแรมด้วย แถมยังมีห้องซาวน่า ที่หมดไปหลายล้านแต่ไม่ได้ใช้ - -

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย[แก้ไข ]

  • ว่ากันว่าอธิกรบดีเป็นคนของ บริหาร(ดูจากงบประมาณและความลําเอียงในการอณุมัดงาน รับน้อง บริหารทําได้ วิดวะห้าม) สงสัยจะหน้า_้อ
  • เป็นมหาลัยที่มีอธิการ 7 ชั้วโคตร อยู่อึด อยู่ทน ไม่ย้ายสักที่(เงินที่ตัดต้นสนไปขาย อยู่ไหน)
  • หอนอกที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ คือ หอพักเหลืองถาวร มีหลายตึกมากๆ =
  • ปี 2007 "Zoom" ได้ครองอํานาจเหนือทุกหอ สุดหรูหราอลังการงานสร้าง เข้าไปแล้วไฮโซจริง ติดอย่างเดียวทางเข้าน่ากลัว (ขนาดสร้างทางแล้วทางเข้าหอของหอ Zoom ยังน่ากลัวเช่นเคย - -")
  • ปี 2011 หอในเครือ RS (หอหญิงล้วน) เป็นหอที่หรูหราที่สุด
  • หอพักที่มีคนบ่นเป็นเสียงเดียวว่า เฮงซวยสุดๆคือ "นริศอาภา" เหตุเพราะ ทั้งเอาเปรียบ งี่เง่า กฎเยอะ ขี้โกง ใครเคยอยู่รู้กันดี
  • หอพักที่เจ้าของหอกับผู้เช่า มีปัญหากันบ่อยที่สุด คือหอ "ศิริสาคร" กัดจิกกันทุกปี55+ เจ้าของพูดจาดีเวลาเข้าอยู่แต่เวลาย้ายออกให้ระวัง)
  • หอVIP มีตัวกระจายเน็ตทุกชั้น แต่เน็ตเร็วเม็กเดียว ใช้กันทั้งสองตึก ป่วยมาก
  • สถาบันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ สถาบัน"เด็กคลอง"
  • ตอนเย็นๆ ของวันพุธจะมีชาวชมรมพุทธศาสนา ถือโทรโข่งซ้อนมอไซค์มาประกาศรอบๆ มหาลัยกับชาวหอต่างๆให้ไปตักบาตรตอนเช้าวันพฤหัส และปล่อยปลาในวันพุธ
  • ปัจจุบันยังเป็นเช่นเดิม แถมให้นิด ทุกต้นปีจะมีการตักบาตรพระครั้งใหญ่ในพรธิสาร
  • เด็กทีนี่ชอบขี่มอไซค์กันมากกว่าเดิน ใครมีมอไซค์เนี่ยก็หรูแล้วว และส่วนใหญ่จะเป็น honda wave และสมัยนี้เริ่มมี Fino กันเกลื่อน
  • ปัจจุบันนิยมใช้รถเก๋งกันมากขึ้น ทําให้รถติดในบางเวลา
  • มีหอประชุมไว้รับปริญญาเอง (ทุกราชมงคลจะมารับรวมกันหมด) (และรถจะติดมากกกก)
  • โรงอาหาร 7 ชั่วโคตรสร้างเสร็จแล้ว แต่ไม่ค่อยมีนักศึกษาใช้บริการมากนักถ้าเทียบกับจํานวนนักศึกษาทั้งหมด (โรงอาหารอีกแห่งเรียกว่าพวงชมพู)(พวงชมพูมาจากผู้หชิง ที่ขายอาหารอยู่ที่นั้น นั้นเอง)
 โทษทีนะครับ ที่ใช้ชื่อว่าพวงชมพู มาจากข้างหน้าตึกพวงชมพู มีต้นพวงชมพู ต่างหากหล่ะครับ จาก...เด็กคหกรรมนะ 
  • โรงอาหารแบ่งเป็นสามส่วน รับประทานอาหาร เล่นบาสและแข่งเทควันโด
  • รถโดยสารสองแถวในมหาวิทยาลัยเรียกรถไบโอดีเซล ////// ข้างรถติด สวัสดิการนักศึกษา แต่ทําไมเก็บตังค์ไม่เข้าใจ
 เก็บตังค์แต่ช่วงปิดเทอมครับ ถ้าในช่วงเปิดเทอม ช่วงที่มีการเรียน ขึ้นฟรีตลอดเวลา
  • มีห้องพยาบาล ที่นักศึกษาไม่รู้ว่ามีอยู่
  • มีสระว่ายน้ํา กับสนามเทนนิส อยู่ตรงหอใน นศ.เสียค่าเข้า 50 บาท ถ้านําใบรับรองแพทย์และบัตร นศ.ไปยื่น
  • โดมตรงกลางของหอใน ตรงชั้นสอง ฝั่งร้านสวัสดิการเย็นๆ(ถึงดึกดื่น) ชอบมีคนไปนั่ง
  • แถม สามารถมองเห็นสระว่ายน้ําได้ถนัด (สาวๆเยอะมาก)
  • ถ้าผู้ชายไม่ใส่ชุดว่ายน้ํา ไม่ให้เข้าสระ
  • มีสนามซอฟต์บอลที่เอาไว้เล่นอเมริกันฟุดบอล
  • ปัจจุบันนี้หลายๆอย่างได้เปลี่ยนไปมาก แต่ที่เหมือนเดิมคือโรงอาหาร ก็ยังไม่ค่อยมีคนกินเหมือนเดิม
  • จนปัจจุบันนี้ หอสมุดกลาง (ตึกวิทยบริการ) ทันสมัยมากๆ มี LCD TV เต็มชั้นสองเลยแถมด้วยเครื่อง MAC อีกเป็นกระบุง
  • ปัจจุบันหอสมุดกลาง มีระเบียงอ่านหนังสือด้านนอกด้วย สวยๆๆ
  • ร้านเหล้าที่มีเด็กศิลกรรม มากที่สุดคือ WINK คืนวันพฤหัส เพราะเป็นคืน เร็กเก้ (มันมากกก ฮิ ฮิ ฮิ )
  • แต่ถ้าร้านเหล้าปั่นต้อง อี-เมาส์ คนเยอะมาก และตอนนี้ก็มีร้านติดปากคนก็เยอะเหมือนกัน
  • Meeting เป็นร้านหมูกระทะ ที่มี นศ.ไปกินเยอะสุด (ผมเข็ดแล้วว กินรอบเดียวได้อาหารเป็นพิษเป็นของแถม)
  • เวลาไปหมู่บ้านพรธิสาร ทุกคนที่นี่จะพูดว่า "ไปพร"
  • ซอยพรธิสาร เป็นซอยที่มีของขายทุกอย่าง กระทั่ง กางเกงใน - -"
  • ต่อจากข้างบน ถ้าไปกินที่โรงอาหารพวงชมพู อย่ากินนานเพราะอาจเดินกลับมาไม่ทันเรียนคาบต่อไปได้
        • เพราะอารายอ่ะ
          • สําหรับคณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่บริหาร หรือว่าคหกรรมเค้ามีตึกเรียนไกลครับ เดินกันทีเหงื่อโชก แดดร้อนเกิ๊นนนน
  • โรงอาหารพวงชมพู เป็นโรงอาหารที่อร่อยและถูก แต่อาหารข้าวแกงที่ร้านตักให้น้อยมากก กับ 3 อย่าง 25 แพงงงง
  • รถสองแถวที่นี่มีสองสาย คือสาย 1 กับ 2 เป็นอะไรที่รอนานนนนมากกกก ยิ่งสายที่มาจากตลาดกลับหอใน เป็นเส้นที่อ้อมโลกมากที่สุด
  • สายที่สั้นสุดคือ สาย2 ที่มาจากตลาดมุ่งผ่านหอสมุด ถึงหอใน
  • หอใน ตอนเช้าเวลาไปเรียนช่วงเปิดเทอมแรกๆ เวลา 8 โมง- 8.30 คนจะเยอะมากกก เพราะรีบ หลังๆ 9 โมงแล้วยังยืนออรอรถในหอในกันเต็ม
  • เด็กหอในไม่เคยมีใครไม่รูั้้้จัก "ป้าลําดวน" ร้านขายข้าวแกงในหอ เป็นร้านสุดท้ายที่ ดูไม่สะอาด คนขายปากจัด แต่อาหารอร่อยโคตร และคนต่อคิวเยอะโคตร (โดยเฉพาะช่วง 5โมงเป็นต้นไป)
  • ร้านสุดท้ายที่ปิดในโรงอาหาร คือร้านข้าวแกงลุงตี๋ เพราะเป็นร้านทางเลือก
  • เวลาไปสมัครสมาชิกหอสมุดกลางหรือห้องสมุดคณะ ต้องเอาสําเนาลงทะเบียนมายืนยัน ทุกเทอม ถ้าไม่ทําก็ไม่สามารถยืมได้
  • ระยะทางระหว่างอาคารเรียน จะไกลพอสมควร ถ้าไม่อยากรอรถ ก็หาจักรยานหรือมอไซค์มาใช้ดีกว่า ทุ่นเวลาได้เยอะ
  • มีที่สูบยางตรงหอใน ใต้หอหญิงตึก 1 และ 4 (เติมลมฟรี) แต่ปะยาง คิด 10 หรือ20 บาทนี่แหละ
  • ใครที่อยากไปกินข้า้วที่โรงอาหารพวงชมพู ควรไปตอน 11 โมง เพราะคนน้อย (แหะๆ เคยโดดไปกินบ่อย)
  • ห้ามขี่มอไซค์ ซ้อนสาม ไม่หยั่งงั้นคุณอาจโดนเรียกแล้วทําฑัณฑ์บนได้
  • ตอนนี้มีมีอิทธิพลจากยาม มาข่มขู่เด็กด้วย (ยามเด็กคลอง)
  • ยามในมอ ไม่เคยดูแลนักศึกษาเลย รถชน ตีกัน ไม่เคยมาช่วยเหลือ แต่ถ้าโดนบ่อบัวข้างสนามฟุตซอล เป็นเรื่องใหญ่มากกกกกก (ผิดอย่ากับฆ่าคนตาย)
  • ห้ามตกปลาในมหาวิทยาลัยเด็ดขาด
  • ปีการศึกษา 2552 นักศึกษาคณะบริหารลดจํานวนน้อยลง วิดวะ กําลังจะครองแชมป์เด็กเยอะที่สุดในอนาคน(ไม่รู้อีกกี่ปี)
  • บัวเหล็กปัจจุบันเปลื่ยนชื่อแล้ว เป็น บัวทอง
  • ราชมงคลธัญบุรี ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีลูกระนาดมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เวลาจัดแข่งวิ่ง นักวิ่งแทบสะดุดหัวคว่ํา
  • ราชมงคลธัญบุรี มีสีเสื้อช็อปเยอะมาก มี สีน้ําตาล(วิศวะ) สีกากี(ครุครูช่าง) สีม่วง(คุณครูศึกษา) สีเทา(สื่อสาร) สีแดง(บริหาร) สีเขียว(ศิลปกรรม) สีดํา(ศิลปกรรมใหม่) กรมท่า(คหกรรม) สีครีม(ถาปัด) สีเขียว(เทคโนเกษตร) ช๊อปสายพวกช่าง(วิดวะ,อสบ.บลาๆๆๆ) อ่ะเข้าใจ แต่คณะอื่นมีทําไมหรอ????
ราชมงคลเป็นมหาลัยเน้นวิชาปฎิบัติ เสื้อช้อปคือเสื้อปฎิบัติการ ทุกคณะที่เรียนปฎิบัติ จําต้องมีเสื้อช้อป ไม่ใช่ไว้ให้แค่วิศวะใส่แอ็คอย่างเดียวค่ะ :)
เน้นปฏิบัติ แล้วทําไมมหาลัยไม่ขายเสื้อช๊อปให้ตั้งแต่แรกละ ??

เสื้อช๊อปวิดวะไม่ได้ไว้ใส่แอ็ค ประเด็นหนึ่ง กันเปื้อน เนื่องจากในงานปฏิบัติเกี่ยวกับเครื่องจักรกลอาจจะเปื้อนได้ สอง ขี้เกียจซักเสื้อขาว เข้าใจผิดเข้าใจซะใหม่นะ

 ช่ายๆๆ ไม่มีแล้วก้อหาข้ออ้าง - เกรียน

[จะมีบริหารอ่ะ ที่ช็อปสีแดงเลือดหมู สงสัยอยู่เหมือนกันใส่ทําไม หรือต้องไปลุยฝุ่นรึเปล่าน้าาาาา|]]

ร้านอาหาร[แก้ไข ]

  • ร้านนมที่นี่แรกๆ ป๊อบมาก ต้องร้าน NJ ,มัมมิ้ว ต่อมาร้านนมเลิกฮิต กลายเป็นร้านเหล้าปั่นผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดแทน
  • ร้านมัมมิ้ว อาหารอร่อย ราคาเหมาะสม (ลูกสาวก็น่ารักมาก) แต่ได้ปิดตัวลงอย่างถาวรเมื่อช่วงขึ้นปีการศึกษาปี 45
  • ปัจจุบัน Nj ยังอยู่ดีมีสุข ส่วนร้านเหล้าปั่นมันหายไปพักนึงแต่เริ่มกลับมาอีกแล้ว
  • มีก๋วยเตี๋ยวไก่พันชาติ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เรียกอะไรแล้ว กินครั้งเดี่ยวอิ่มไปนาน
  • ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเฮีย??? แสนอร่อย กินมา4ปี คุยกับเจ้าของเจ้าทุกวัน แต่ยังไม่รู้จักชื่อแกเลย
  • ร้านข้าวไก่ทอด สีเขียว ตรงข้ามตลาดนัด อร่อยมาก ลูกสาวสวยด้วย เหมาะกับการเตะบอลเสร็จ แล้วมานั่งกินน้ํากัน ยิ่งถ้าเป็นวันที่มีตลาดนัดด้วยล่ะ แหล่มเรย
  • ร้านกรรมกร สมัยก่อนอยู่ในซอยบัญชา-ปราณี ตอนนี้ย้ายไปหน้าก.ไก่ ให้ข้าว+กับมหาศาล (เหมือนเรากินแล้วจะต้องไปแปกถุงปูนต่อ) โดยที่ความสะอาดแปรผกผันกับปริมาณ
  • ร้านน้องแนน ข้างอู่รถเมล์ ไม่รู้เลิกขายไปรึยังหลังจากขายข้าวจนสร้างบ้านใหม่เสร็จแล้ว โดยเมนูอาหารจะสั่งได้ตามใจปรารถนาผสมได้ตามความบ้า รสชาติเป็นเลิศ แถมทําเลยังอยู่ต่ํากว่าระดับน้ําจืด มานั่งกินตอนเย็นๆ วิวแจ่มมาก ถึงมากที่สุด (ปริมาณ ข้าว และ กับข้าว เยอะกว่าร้าน กรรมกร)
  • ร้านบะหมี่ท้ายๆซอย บะหมี่อร่อย ลูกสาว(น้องเปิ้ล ม.กรุงเทพ)น่ารัก
  • ใครเคยกิน 'วุ้นมะพร้าวอ่อนอาจารย์เอ' บ้าง ถ้าไม่รู้จักเชยสุดๆ หอมหวานอร่อย ราคาไม่แพง ของเขาดีจริงๆ กินที่ร้านลาบเป็ดร้อยเอ็ด ต้องสั่งกินทุกที อ้อ..อาจารย์เอตัวจริงอยู่ที่คณะศิลปกรรม ไม่ใช่อยู่คหกรรม จานเอบอกใครกินวุ้นอาจารยฺเอจะเรียนเก่ง สมองดี เรียนได้เกรดเอสมชื่อ (ม่ายเชื่อลองเด่..แล้วจาติดใจ) ขายร้านเตี๋ยวเป็ด เตี๋ยวหมูพรธิสาร8 ก๋วยเตี๋ยวเรือ อะเมซอน ซุ้มในรม. กินทุกวันเผลอๆเรียนได้เกียรตินิยมเหมือนจานเอ
  • ครัวสงขลา เป็นร้านที่อร่อยมาก เปิดเวลาไหนไม่ทราบแน่ชัด แต่ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ถ้าหิวมากๆ แนะนําให้ไปกินร้านอื่น เพราะรอนาน แม้กระทั่งมีลูกค้านั่งอยู่ในร้านแค่ 3 คน และช่วง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป นั่งรอจนสามารถเล่นออดิชั่นในร้านเกมจนเลเวลขึ้นไปถึง 10 ได้เลยทีเดียว แต่เสียดายตอนนี้ปิดไปแล้ววว
    • ครัวสงขลา เป็นร้านที่อร่อยมาก เปิดเวลาไหนไม่ทราบแน่ชัด แต่ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ถ้าหิวมากๆ แนะนําให้ไปกินร้านอื่น เพราะรอนาน มากลูกค้าก้อโครตแยะ ปิดไปแล้วงง่ะ
      • เดียวนี้ต้อง กิน เตี๋ยวลุงอ้วน หน้าหอ SP Condo เยอะมาก ต่อคิวนาน(มีเมียหลายคนด้วย เป็น Idol ผมเรย) เพราะมั่วแต่ กริบเหล้า อร่อยมาก คอนเฟริม///เพิ่มเติม เมีย 3 คน นานเพราะคนเยอะ กริบแปบเดียว ยิ่งเมายิ่งให้เยอะ
      • ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงอ้วนต้องไปกินตอนตี 1-2-3 ง่ายๆ ตอนดึกๆ ไม่มีคน ประมาณจะเก็บร้าน จะได้ซ่งติงกะข้อไก่เยอะมากกกกก

ชมรม[แก้ไข ]

ร้านข้าว ตรงอู่ รถเมล์ ชื่อร้านน้องเนย์ ต่างหาก แต่ปัจจุบัน ไม่ทราบยังอยู่มั้ย เพราะจบมาตั้งแต่ ปี 49 แล้ว

เชื่อหรือไม่?[แก้ไข ]

  • หอห้าเป็นหอเดียวที่มีกล้องวงจรปิด (หอชาย หอเดียว) นอกจานั้นหอ 1-4 (หอหญิง)ไม่มีกล้องอ่า
  • ทุกคนที่ลงรถเมล์มา ต้องเดินข้ามรั้วเตี้ยๆ (มีลูงขอทานอยู่ข้างๆรั้ว )เข้าสถาบัน เพราะเขากลัวนักศึกษาได้รับความสะดวก สาวกระโปรงสั้นได้โชว์ก็ตรงนี้ล่ะ
  • สะพานเข้าหมู่บ้านพรธิสาร อยู่ใกล้นิดเดียว แต่สมัยก่อนต้องขับรถอ้อมไปออกประตูห่างออกไปเกือบครึ่งกิโล
  • ประตูที่เข้าออกหมู่บ้านพรธิสาร ได้สะดวกนี้เปิดใช้งานปีละครั้งเพื่อความสะดวกตอนงานรับปริญญา แล้วก็ปิดเพื่อความไม่สะดวกเหมือนเดิม
  • มาเฟิร์มว่าร้อนๆๆๆๆสุดๆๆ เพราะเนื้อที่กว้างมาก ต้นไม้เพิ่งปลูกเลยโตไม่ทัน
  • ปัจจุบันก็ร้อนอยู่ แถมต้นสนโดนตัดขายอีก เฮ้อ!กลุ้ม
  • ตั้งแต่เข้าเรียนมา4ปี เคยไปกินข้าวที่โรงอาหารกลางนับได้ไม่เกิน 10 ครั้ง(นอกนั้นมันปิดเพราะสร้างไม่เสร็จซักที)
  • โรงอาหารเห็นด้วย ว่า อมตะมหานิรันดร์กาลมากๆๆ สร้างนานสุดๆ เริ่มสร้างในปี 41 (แก้ไขจากปี44) เสร็จประมาณปี 46-47 (ใครรู้ข้อมูลที่แน่นอนรบกวนแก้ให้ด้วย)
  • โรงอาหารเจ็ดชั่วโคตรสร้างเป็นโรงอาหารแบบคู่ แต่เหมือนปิดร้างไม่ได้ใช้หนึ่งด้าน
  • สถานที่เตะบอลที่สนุกที่สุด คือโรงอาหาร(7 ชั่วโคตร)
  • คนนอกมักจะเข้ามาเตะบอลในโรงอาหารที่ไม่ได้เปิดใช้ และแถมยังเตะบอลใส่ป้ายไฟเลื่อนจนเสีย โดยที่ไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ
  • แม้ในบางครั้งจะมีอาจารย์มาใช้โรงอาหารส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน สอบวิชาพละศึกษา แต่พอได้เวลา(ประมาณ 4 โมงเย็น) ก็จะมีกลุ่มคนนอกมายืนกดดันเพื่อที่จะเล่นฟุตบอล (ใครจ่ายค่าเทอมหว่า)
    • ปัจจุบันโรงอาหารกลางมีสนามบาส และอัฒจรรย์เล็กไว้ใช้เวลาแข่งกีฬาภายใน
  • ร้านเหล้า ชื่อวีนาเล่ เด็กที่นี่เคยไปกันแทบทั้งนั้น
    • ปัจจุบันมันหายไปแล้ว เดี๋ยวนี้ต้องมาหาลัย (จริงๆชื่อร้านว่า "มา หา ไร")
  • มีชมรมอาสาพัฒนา ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์มาก มีพี่ๆบางคนมัวแต่ไปสร้างโรงเรียนให้น้องๆชนบท จนต้องเรียนจบช้าเป็น 5 ปีบ้าง แต่พี่ๆก็น่ารักทุกคนเลยน๊า อันนี้ขอปรบมือให้
    • ปัจจุบันชมรมนี้ยังอยู่ แต่ปีนี้ยังไม่เห็นผลงานเลย ปีก่อนนู่นขอรับบริจาคผ่านทาง Itv ค่ะ เพื่อสร้างโรงเรียนให้เด็กในชนบท ชมรมนี้เป็นหน้าเป็นตาของ รม.
  • นักศึกษาหญิงปี 1 ที่นี้ไม่มีใครไม่เคยใส่เสื้อคลุม และกางร่มเดิน เมื่อเข้ามาในเทอมแรก
    • มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีใครเข้ามาแล้วไม่ดํา (แดดแรงมาก)
  • เด็กอยู่หอแทบไม่มีใครไม่รู้จักข้าวมันไก่ตาเปี๊ยก (อร่อยมากขอบอกกก โดยเด็กคณะวิด)
  • หอหญิงนอกที่ไม่มีใครอยากอยู่ หอนรกอาภา (ชื่อจริงๆว่า "นริศอาภา")
  • หอในราคาแพงกว่าหอนอก อันนี้เรื่องจริงห้องสี่คน คนละ 7000 ต่อเทรม สองเทรมร่วมๆก็ 28000x2=56000ต่อ 9 เดือน ตกเดือนละ6300ไม่รวมน้ําไฟต่อเดือน
  • หอในชั้น4 ของทุกหอ จะร้อนกว่าชั้นอื่น เพราะเพดานต่ํา (จริงๆผมอยู่ชั้น 4 ยิ่งกลางวันร้อนโคตรๆ)
  • หอในเวลาช่วงตั้งแต่ 11.30 เป็นต้นไป น้ําในห้องน้ําจะร้อนมากกกกกก สามารถต้มมาม่าได้ (เคยอาบน้ําตอนก่อนไปเรียนคาบบ่าย จะบ้าตาย)
  • หอ ก ไก่ เป็นหอที่ดังมากในสมัยก่อน ปัจจุบันแทบจะไม่มีคนรู้จัก
  • แต่ก่อนหลัง 3 ทุ่ม ถ.พรธิสารเงียบสุดๆ จนเอารถป๊อบออกมาแข่งกันได้
  • แต่ตอนนี้ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ หรือช่วงจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00-20.00 รถจะแน่นพรธิสารสุดๆ ในวันอังคารกับวันศุกร์มีตลาดนัด ยิ่งแน่นสุดๆ
  • ปัจจุบันมี 7-11 สองแห่ง ในหอในกับโรงอาหาร
  • 7-11 ในโรงอาหารและหอใน เป็น 7-11 ที่ปิดในเวลา 4 ทุ่มครึ่ง
  • เซเว่นหอในปี 50 เคยเกือบทะเลาะกับร้านสวัสดิการข้างบน เพราะขายแข่งกัน
  • รองเท้าแตะคู่ละ 19 บาทก็หายได้ เมื่อไหร่ที่ต้องถอดรองเท้าขึ้นตึก (ไมรู้มานจาเอาไปทําอาราย )
  • มีชมรมทักษิณราชมงคล และหลายๆอย่างที่ support เด็กใต้ เพราะมีเด็กจากภาคใต้มาเรียนที่นี่เยอะมาก
  • ที่ราชมงคลคลองหก ไม่มีเสาไฟฟ้าตั้งเรียงรายเหมือนมหาวิทยาลัยอื่น เพราะจัดระบบไฟทั้งหมดและสายต่างๆ เอาไว้ใต้ดิน ซึ่งมีราคาแพงกว่าระบบปกติที่อยู่บนดินถึง 3 เท่า
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่น้ําท่วมยากมาก เพราะมีแหล่งน้ําล้อมรอบเยอะ (แต่มันก็ยังเคยอุตส่าห์ท่วม !!)
  • รถเมล์ สาย 538 สาย 188 สาย 1156 และรถตู้ที่เข้ารังสิต จะออกจากคลองหก แล้วไปติดตรงคลอง 1,2 และติดตรงโค้งเข้ารังสิตเสมอ ยิ่งตอน ชม. เร่งด่วนจะรอนานมาก กว่าจะได้ออกก็แย่
  • หลังจากพยามขึ้นราคาแต่ไม่สามารถทําได้ ทําให้ 538 และ 188 ลดรอบการวิ่งมากๆ บางทีต้องรอกว่าชั่วโมงกว่าจะมา โดยเฉพาะตอนเย็นคนเยอะเต็มรถเลย
    • ปัจจุบัน ไม่มีรถเมล์สาย 188 แล้ว
  • ซอยบัญชาอุทิศเช่นเดียวกัน เป็นซอยที่คนที่เดินข้างถนน มักจะด่ารถที่ขับ คนที่ขับรถก็มักจะด่าคนเดิน แต่จริงๆแล้วคนที่เดินน่าด่าที่สุด เพราะเดินแถวหน้ากระดาน ขวางถนนมากๆ จนมีการเบิ้ลเครื่องใส่กันหลายครั้ง (ทําไมไม่บีบแตรนะ)
  • เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่อนุญาติ ให้นักศึกษาไว้ผมยาวได้ ทั้งๆที่มหาลัยทุกๆมหาลัยในไทย วิศวสามารถไว้ผมยาวได้หมด (คงเพราะ ความจริงถ้าไปทํางานในโรงงาน ทํางานกับเครื่องจักรผมยาว ไปติดเครื่องจะตาย 5 เอา)
  • จะมีคนมาเล่นสไลด์ที่ลานบัวเหล็กตอนเย็นๆเสมอ โดยเอากระดาษลังเบียร์มาวางแล้วนั่งบนกระดาษลังเบียร์ แล้วสไลด์ลงมาตรงทางลาดที่บัวเหล็ก
  • ตอนจ่ายเงินค่าลงทะเบียนที่ ธ.กรุงศรีฯ วันจ่ายจะมีเวลาให้ 7 วัน(รวมเสาร์อาทิตย์) และแต่ละวันคนจะไปจ่ายเงิน และอัดเป็นปลากระป๋องอยู่ในธนาคารเยอะมากๆ
  • อ. ที่นี่หลายๆท่าน ส่งเกรดช้าสุดๆ ทุกๆคณะ โดยเฉพาะคณะใหญ่เช่น บริหารและวิศว บางท่านเป็นเทอมก็ยังไม่ส่งเกรด
  • เวลาแข่งเชียร์กีฬาประจํามหาวิทยาลัย (บัวน้ําเงิน) คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์ จะร้องเพลงเพราะๆมากๆจนน่าขนลุกทุกปี (ถูกยุบไปรวมกับศิลปกรรมศาสตร์แล้ว)
  • เมื่อปีการศึกษา 2549 ในการแข่งขันกีฬา "บัวน้ําเงินเกมส์" คณะที่ได้อันดับหนึ่ง ในการแข่งขันประเภทผู้นําเชียร์ คือ คณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ซึ่งมีงบประมาณรวมกันทั้งคณะ ยังไม่เท่ากับคณะบริหาร ภาควิชาเดียว (และที่วิศวะ ไม่ได้เพราะเน้น แต่พลัง ไม่รู้ว่าจะบ้าไปถึงไหน ความเพราะไม่ได้มีกะเค้าเลย)
  • ร้านเหล้าที่มีเด็กศิลกรรม มากที่สุดคือ WINK คืนวันพฤหัส เพราะเป็นคืน เร็กเก้ (มันมากกก ฮิ ฮิ ฮิ )
  • Meeting เป็นร้านหมูกะทะที่มีนศ.ไปกินเยอะสุด (ผมเข็ดแล้วว กินรอบเดียวได้อาหารเป็นพิษเป็นของแถม)
  • นศ.คณะวิทย์มีร้านอาหารประจําคือซุ้มในคณะ เพราะมีแค่ร้านเดียวและไม่มีโรงอาหารประจํา ถ้ายากกินดีๆต้องเดินไปโรงอาหารพวงชมพู ซึ่งไกลพอสมควร
    • ต่อจากข้างบน ถ้าไปกินที่โรงอาหารพวงชมพู อย่ากินนานเพราะอาจเดินกลับมาไม่ทันเรียนคาบต่อไปได้
  • ถ้ามองไปทางบึงพระรามเก้า จะเห็นวิว พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เป็นรูปลูกเต๋า อยู่ไกลๆ
    • แต่ตอนกลางคืน หากคุณมองไปได้ไกลกว่านั้น คุณอาจจะมองเห็น UFO ...... !!!!
  • หอในตอนเช้าเวลาไปเรียนช่วงเปิดเทอมแรกๆ เวลา 8 โมง- 8.30 คนจะเยอะมากกก เพราะรีบ หลังๆ 9 โมงแล้วยังยืนออรอรถในหอในกันเต็ม
  • ถ้าอยากขึ้นรถสองแถวไปเรียนช่วงเช้าแล้วได้นั่งสบายๆ ควรไปตอน เกือบๆ 9 โมง และต้องเป็นวันที่เด็กถาปัตส่งโปรเจค เพราะคนเดินคิวจะให้ "สิทธิพิเศษ" ขึ้นนั่ง เคยนั่งแล้วสบ๊าย สบาย
  • หอใน จะเห็นวิวท้องฟ้าจําลองชัดเจนมาก และทุกๆวันยกเว้นวันจันทร์จะมีเด็กมาทัศนศึกษาตลอด
  • สนามบอลตรงถนนก่อนทางเข้าหอใน ส่วนใหญ่จะมีแต่คนนอกมาแตะบอล ช่วงเย็นๆ
  • ข้างๆซอยพรธิสารจะมีอีกซอยเรียกว่า"ซอยอีสเทิร์น" เพราะเด็ก อีสเทิร์นจะมาเช่าหอแถวนี้เยอะมากก มีกับข้าวอิสลามเยอะเพราะเด็กอิสเทิร์นส่วนใหญ่จะมีแต่มุสลิม
  • เด็กที่นี่ไม่มีใครไม่เคยกินหนมเบื้องที่ซอยพร ร้านอยู่ตรงหัวมุม มีวัยรุ่นซึ่งเรียนคณะบริหารที่นี่ขายอยู่ หร่อยแรงงงง
  • หอในบอกว่าจะสร้างหอ 6 แต่ยังไม่เห็นมีโครงการตอกเสาเข็มแต่อย่างใด

จนในปัจจุบัน ก็น่าจะยังไม่มีโครงการนะ มีแต่โครงการปรับปรุงหอ

  • หอ1-3 เป็นหอที่หันหน้าไปทางเดียวกัน มีแต่หอ 4 ที่หันหน้าเข้าหาหอ3
  • หอ4 เมื่อก่อนเป็นหอชาย แต่เนื่องจากเด็กเยอะ เลยเปลี่ยนเป็นหอหญิงแทน ซึ่งถ้าไปดูตามห้องก็ยังเห็นรอยวาดบ้าๆบอๆตามห้องหรือผนัง บางทีก็มีกางเกงในตามมา
  • เป็นมหาลัยที่ละครช่อง 7 (และช่อง 3) เริ่มมาถ่ายมากขึ้น ยกตัวอย่างเรื่องทางช้างเผือกตอนจบ (ทําให้เด็กหอทุกคนรู้ธาตุแท้ของหยาดและต่าย)

ละครเก่าก็... ลูกไม้ไกลต้น คณะวิศวะ แต่ทําไมไม่ค่อยมีใครรู้จักฟะ กํา สงสัยจะนานเกิน - -"

  • มีร้านไปรษณีย์อยู่ที่โรงอาหารใหญ่ บริการถูกกว่าหอในอย่างมากมายยย
  • เซเว่นในหอใน มีเรื่องกับร้านสวัสดิการหอใน เรื่องที่จะเปิด 24 ชม. แต่ท้ายสุด ก็ปิดแค่ เที่ยงคืน

ในปัจจุบัน เซเว่นหอใน ปิดตอน 4 ทุ่มครึ่ง

  • ตอนดึกๆ ร้านสวัสดิการข้างบนจะมีข้าวไข่เจียวชาววัง กระเพราไก่งวง เพราะแพงสาดดดด แต่ขายยันตี 2 เปิดตอนบ่าย
  • มีร้านเน็ตให้เล่น ถึงจะเห็นคนเล่นเกมส์อยู่ แต่ร้านยังไม่เปิด เปิดทีตอนบ่าย และจะมีคนไปยอดเหรียญ เล่น ออดิชั่น กับ GE ต่อมาก็ hi5 เป็นจํานวนมากก
  • บางทีก็มีการเปิดหนัง ส่วนใหญ่คนที่ดูก็เจ้าของร้าน แฟนเพื่อนเจ้าของร้าน เด็กเกมส์
  • ต่อๆ แถมเน็ตล่มบ่อย แต่เด็กเกมส์ประจํา ได้เล่นมันทุกวัน
  • ที่หอมีห้องอ่านหนังสือแต่คนน้อย จะเต็มก็ต่อเมื่อช่วงสอบ
  • ใครว่าผู้ชายไม่ดูละคร ยืยนยันจากเพื่อนชายข้าพเจ้า ดูมันทุกชั้น ยิ่งช่วงมีบอล จะได้ยินเสียง เฮ้......... ดังมาทุกระยะตอนตี2กว่า
  • ว่ากันว่าหอ5 หอชายชั้น 1,2 จะเป็นชายแท้ ชั้น 3 เปนเกย์ ชั้น 4 กระเทย (ข่าวเล่ามาจากเพื่อนออกสาวของข้าพเจ้า)
  • หอในมีบริการ UBC ให้ แต่มีแค่ช่อง HBO true exite true Asia discovery national geographic เมื่อก่อนมี [V] แต่โดนโละออกโดยไม่รู้สาเหตุ
  • และโทรศัพท์สาธารณะในหอ บางช่วงสายจะหลุดบ่อย บางทีก็ซ้อนสาย
  • หอในทุกห้องมีโทรศัพท์หมด (ไปขอได้ที่โดมกลาง) แต่โทรได้ภายใน เท่านั้นโทรออกภายนอกไม่ได้ แต่ภายนอกโทรเข้ามาได้
    • และมักจะมีคนเล่นพิเรนๆ โทรสุ่มมาก่อกวน
  • หอในทุกตึก โดยเฉพาะชั้น 4 จะมีคนดูทีวีน้อยมากกก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นห้องแอร์และอาจจะมีทีวีดูกันในห้อง
  • เทอมที่ผ่านมา ปี50 มีเด็กจีนแลกเปลี่ยนมาเรียนด้วย ทุกวันตอนเย็นจะเห็นขบวนจักรยานพร้อมเสียงโช้งเช้ง ดังมาตลอด
    • เด็กจีนกินส้มตําด้วยนะเออ!!
  • ร้านข้าวหอในที่รองจากร้านป้าลําดวน คือ ต้มเลือดหมู รองมาก็ข้าวมันไก่ และสุดท้าย ร้านส้มตําที่คนจะต่อคิวเยอะมากกก (อร่อยโคตร ยืนยันๆ)
  • เดี๋ยวนี้เด็กหอในทุกคนจะเดินเข้า 7-11 มากกว่า เพราะมีแอร์ และ...ของกิน บางคนเข้าไปงั้นๆรอซื้อข้าว แล้วออกมา
  • พนักงานชาย 7-11 หอใน หน้า่หม้อมากกกกกกกกกกก ขนาดมีแฟนอยู่แล้วนะ(เคยเจอเเฟนเค้าด้วย) แถมยังหม้อในร้านอีก อยากถีบมันมากเลย
  • ระหว่างตึกบริหารกับครุศาสตร์จะมีสามแยกที่สาวบริหารรู้จักกันดีว่า "สามแยกปากหมา"(แต่อย่าไปตอบโต้ เพราะมันหน้าด้าน เราจะอายซะเอง)
  • สาวใดน่ารัก ถ้าเดินผ่านข้างตึกครุเตรียมโดนแซวได้เลย(ขนาดหน้าตาไม่มดีมันยังแซว เฮ้อเดามันไม่ถูก)
  • ซุ้มอาหารคณะบริหารฝั่งซ้ายมือจะรู้จักกันว่าซุ้มเจ๊เฉี่อย(ช้ามากกกก แต่ไม่รู้ทําไมชอบไปซื้อซุ้มนั้น)
  • เด็กบริหารไปกินข้าวโรงอาหารกลางจะรู้สึกได้ว่ามีสายตาจับจ้อง เหมือนที่วิดวะมากินข้าวที่พวงชมพู(ทีใครทีมัน ไม่หล่อก็รอดตัวไป)
  • อาหารที่พวงชมพูอร่อยกว่าโรงอาหารกลาง แต่พื้นที่คับแคบมาก(ยิ่งไกล้เที่ยงจะหาที่นั่งไม่ได้เลย อาจจะมีการขโมยเก้ากี้เกิดขึ้นได้)
  • แถม ภาควิชาที่รวยที่สุดน่าจะเปน IE หรือวิดวะอุตสาหการ อันนี้คอนเฟิร์มเครื่อง CNC มีอยู่ 6 เครื่องๆละ 15ล้าน พังทีค่าซ่อมเกือบล้านเหมือนกันอ่ะคับ ขนาดคีย์บอย์ดที่ใช้คีย์โปรแกรมเข้าเครื่องยังอันละแสนแปดเลยเพิ่มปุ่มมาม่ะกี่ปุมเนี่ยนะ
    • เครื่องอื่นๆอีกมากมายที่แพงจนมหาลัยม่ะอยากมายุ่งด้วยกลัวเปลืองงบมั้ง
    • จะมีเด็กวิศวะอยู่คนหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร คือรถแมงกะไซค์จะเปิดเพลงได้ มีอยู่คนเดียวของคลองหก และจะเปิดแต่เพลงลูกทุ่ง สตริงบ้างนิดหน่อย แต่ที่เคยเห็นเขาเปิดคือเพลงของสุรพล สมบัติเจริญ ทูลทองใจ อะไรประมาณนี้เลยเชียว รถมอไซค์คันน้ําเงินรุ่น X-1 ทะเบียน กลพ964 สระบุรี มีคันเดียวครับ ในอดีต... เคยวิ่งประกาศให้กับชมรมพุทธให้ไปทําบุญใส่บาตรวันพฤหัส เจ้าของรถเป็นเด็กวิศวะ เจอเขา ทักได้ครับ

ปล. ตอนนี้น้องคนนี้เขาเรียนจบแล้วครับ แต่ว่ายังแวะเวียนเข้ามามหา'ลัยอยู่เป็นระยะ และขอบอกเลยว่าอย่าขับรถไปใกล้รถน้องเขาหล่ะเดี๋ยวได้แสบหูแน่ๆ เพราะติดแตรลม ใครขับไปใกล้แบบกวนส้นteen เจอแน่นอน อิอิ

ธรรมเนียมประเพณี[แก้ไข ]

  • ปัจจุบันคณะสถาปัตกรรมมีการซ้อมร้องเพลงยันดึกดืน บ้างวันเห็นแอบปีน้ั่วกันออกมา ไม่ทราบจะซ้อมกันไปถึงไหน จนยามต้องขับรถไล่(ชน) แต่นักศึกษาคณะนี้ก็ไม่ลดละในการซ้อม จะเอาโล่ไปเลยไหม
  • ช่วงเริ่มเดือน พฤศจิกายน เด็กปี 1 ทุกคณะจะต้องซ้อมบูมรุ่นพี่ ทําเอาปวดหลังไปตามๆกัน
  • เด็กปี 1 จะถูกเกณฑ์ไปรับเสด็จพระเทพตอนงานรับปริญญาพี่บัณฑิต ทุกคน
 ไม่จริง ไม่ทุกคน ไปทุกคนจะไปยังไง เด็กปี1 ปีๆ นึงงรับเข้า เกือบ เก้าพันคน (แปดพันปลายๆ)โม้ตลอด
 ปี 1 ทุกคนจริงคับ มีพวกที่ไม่ไปคือพวกขัดคําสั่งเท่านั้น รับปริญญา 3 วัน แบ่งนักศึกษาออกเป็น 3 ชุด เต็มพอดีตั้งแต่ประตู 1 ถึงประตูหอประชุม

หมายเหตุ ที่บอกว่า ปี 1 ไปรับเสด็จทั้งชั้นปี เป็นเรื่องจริง คิดดีๆ รับปริญญาราชมงคลไม่ได้มีวันเดียว หึหึ มีถึง 3 วัน วันไหนคณะไหนรับปริญญา ถึงจะให้น้องคณะนั้นๆ ไปรับเสด็จ

 ไม่จริงนะครับ มีแต่ตัวแทนของห้องที่จะไป รับเสด็จ ไม่ไช่ว่าไปรับทุกคน อย่าเกินจริง นะจ้ะ
 ปี1ทุกคนคับ ผมทํางานอยู่องค์การนักศึกษา รับรองว่าทุกคนคับคนที่ไม่ไปคือขัดคําสั่งคับ
  • วันแรกที่เปิดเทอมรุ่นพี่ที่คณะ ทุกคณะจะต้องพาเด็กปี1 ไปเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในมหาวทยาลัย
  • เด็กปี 1 ทุกคนต้องมีสมุด 1 เล่มเพื่อล่าลายเซ็นรุ่นพี่ที่คณะ และตอนไปขอลายเซ็นพี่จะแกล้งให้ทําอะไรก็ได้ก่อนจะเซ็นให้
  • พอวันรับปริญญาพี่บัณฑิต น้องปี 1 ต้องไปบูมพี่เพื่อเอาตัง (มันมากกกขอบอกก)
  • คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมเป็นคณะที่ไหว้ครูศักดิ์สิทธ์มาก ไม่เชื่อต้องลองดู ปี 51 ตอนไหว้ครูอาจารย์ฟังเพลงแล้วน้ําตาคลออ่ะ
  • เด็กปี 1 ทุกคนต้องไปรับเสด็จฯ ตอนงานรับปริญญา เพราะปี 1 หนึ่งเรามารับท่าน แล้วพอจบท่านก็คืนปริญญาให้กับเรา
  • บูมจะเป็นตามความสมัครใจ แต่รุ่นพี่จะบอกคิดให้ดีดีน่ะถ้าไม่บูม (หมายความว่างัย)

ความเชื่อ[แก้ไข ]

  • ในช่วงสอบ นักศึกษาเกือบทุกคนจะมาไหว้เสด็จพ่อ ร.5 โดยขอท่านได้ แต่ห้ามบน (ที่ห้ามบน เพราะว่าท่านเป็นเทวดา บารมีมากกว่า การบนก็เหมือนเราไปติดสินบนท่าน ตัวเราจะบาป)
  • ใครถ่ายรูปกับบัวเหล็กจะไม่จบ
  • ศึกษาศาสตร์ ห้ามใส่เสื้อช็อปตอนปี 1 ไม่งั้นเรียนไม่จบ
  • ครุศาสตร์ภาคเด็กช่าง มีความเชื่อที่ว่าห้ามใครยุ่งกับเสื้อช๊อปกับแหวนรุ่นของตัวเองเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเรียนไม่จบ

เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]

  • หอใน ตึก2 ขึ้นชื่อว่าเป็นหอที่ผีดุที่สุด เพราะมีคนเคยเจอมาแล้วหลายคน (ลองไปถามรุ่นพี่ปีสองดู) เรื่องที่เพื่อนผมเคยเจอคือ นอนอยู่ดีๆ จู่ก็มีเสียดัง "กึก กึก" เพื่อนผมก็เงยหน้าจากเตียงไปดู (ตรงปลายเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ)

ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงผมยาว นั่งเคาะโต๊ะ และจะเคาะ ยันตี 4

- เรื่องที่ 2 เพื่อนผมไม่เจอแต่ข้างๆห้ิองเจอ ปกติเพื่อนผมกับรูมเมทจะกลับบ้านทุกอาทิตย์ คือกลับวันศุกร์แล้วเข้าหออีกที วันอาทิตย์

ทําให้ห้องไม่มีใครอยู่ พวกที่บ้านไกลก็อยู่กันไป ตอนกลางวันไม่มีอะไร พอตกกลางคืน ได้ยินเสียงเพลงเปิดดังมากกกมาจากในห้อง คนข้างๆห้องก็ออกมาดูว่าห้องใครเปิดเพลง แถมไฟยังปิดเปิดตลอด แต่ที่รําคานสุดคือเสียงเพลง ทําให้ข้างห้องนอนไม่หลับ แต่ก็ไม่ได้ด่าอะไรเพราะเหนว่าเป็นวันหยุด

 พอวันอาทิตย์เพื่อนผมกลับมา(รูมเมทอีก 2 คนยังไม่กลับ) คนข้างห้องก็ออกมาบอกว่า "ห้องเธอทําไมเปิดเพลงทั้งคืนเลยละ เสียงดังด้วยนอนไม่หลับเลย แถมเปิดปิดไฟเล่นตลอดเวลา" 

เพื่อนมันก็งงเดะ เลยบอกไปว่าเพิ่งกลับมา แล้วในห้องไม่มีใครอยู่เท่านั้นแหละ มันเลยขนของย้ายมานอนกับเรา

  • หอใน ไม่รู้ว่าตึกไหน เคยมีประวัติปิดชั้นมาแล้ว คือปิดทั้งชั้นเลย เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ เพิ่งมาเปิดเอาเมื่อ2 ปีที่แล้วนี่เอง
  • ห้องน้ําศิลกรรม มีอาถรรพ์ อย่าได้ไปลบหลู่เชียว
  • ใครก็ตามถ้าอยากสมปรารถนาให้ไปขอพรกับรูปร.5 หน้าตึกอธิการบดี ตอน 4 ทุ่ม ไม่รู้ว่าได้จริงหรือเปล่า แต่เคยมีคนได้มาแล้ว

-ตึก2 หอหญิง ชั้น3 ปี50 เ ทมอ 2 ถูกปิดทั้งชั้น เนื่องจากมีคนเจอ ผีอําทั้งคืน เช่น โดดข้างเตียงไปมา วูบไปมา ลอยนอกหน้าต่าง จนคนทพยอยออกจนหมด

ถ฿งจะมีคนออกไปก็จะมีคนที่ต้องเดินผ่านชั้น3แล้วจะเห็น คนลอยทะลุจากฝั่งหนึ่งไปฝั่งหนึ่ง ชั้น2 จะได้ยินเสียงคนลากเก้าอี้ หรือทําของตก

-ตึก4 หอใน ชั้น4 มีข่าวว่ามีคนถูกฆ่าตาย เปนคนงานด้วยกันเอง โดย เปนผู้ชาย 2คนฆ่า ผู้หญิง แล้วหมกไว้ในตู้ จากนั้นมีคนงานทั้ง2ก็ฆ่ากันเอง

    • ยืนยัน ตึกสี่ ง่ะ ประจําทุกวันจนชินแล้ว เหอๆ หลายอย่างมากเล่าแทบไม่ไหว ห้องเรา เพื่อนมานอนได้ยินเสียงน้ําไหลตลอดคืนเลย เราเองก้อโดน แบบว่า ถ้าเรายังไม่นอนก็จะได้ยินเสียง ของตก ลากเก้าอี้ตลอดทั้งคืน ยันเช้าก้อยังได้ยิน เคยเจอเหตุการณนึง มีเพื่อนหอนอกแอบมานอนด้วย ประมาณตีห้าโทรศัพท์เรามีคนโทรเข้า พอดูเบอร์ก็ของเพื่อนคนนี้แหละ แต่โทรศัพท์มันวางอยู่ปลายเตียงซึ่งเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ และมันก้อนอนหลับอยู่ข้างๆเราอ่ะ แบบว่า เอ่อ...ไม่กล้ารับ ตัดสายนอนหลับตาอย่างเดียวเลย เช้ามาดูยังมีในบันทึกการใช้เลยอ่าว่ามันโทรเข้า

แบบว่า หอสี่จะได้เจอหลายเพศสุดอ่า เพราะเคยเป็นหอชายมาก่อน

- เราเป็นเด็กหอรุ่นแรก(ปี49) จากการที่เคยสอบถามชาวบ้านใกล้ๆมหาลัย และพี่ๆสองแถว เค้าเล่าตรงกันว่า พื้นที่สร้างหอในนั้น เดิมเคยเป็นหนองน้ํารกทึบ มีเหตุฆาตกรรมบ่อยครั้ง จนกระทั่งมหาลัยถมที่เพื่อสร้างหอพัก มันจึงเหมือนเป็นการสร้างทับที่นั่นเอง

  • เราก็เคยเจอกันเองเหมือนกัน เพื่อนๆร่วมรุ่นก็เจอพร้อมกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่งกินเหล้าในหอ อาจารย์มาพบหลักฐาน แต่ไม่มีห้องไหนยอมรับ (เราอยู่ชั้น2) อาจารย์ก็ให้ทุกคนออกมานั่งหน้าห้องตัวเอง เพื่อค้นห้อง แต่มีห้องหนึ่งที่ไม่ยอมเปิดออกมา ทุกคนก็โดนสั่งให้นั่งรอ อาจารย์ก็เรียก รปภ.มา เพื่อเตรียมงัดห้อง....จากนั้นอาจารย์เคาะประตู พร้อมบอกให้ออกมาสองครั้ง พอครั้งที่สามอาจารย์ถามว่า "จะออก ไม่ออก?" มีเสียงตะโกนออกมาว่า "กูไม่ออก" อาจารย์จึงสั่ง รปภ.งัดห้อง หลังจากนั้นทุกคนตะลึง เพราะในห้องไม่มีคนอยู่ครับ แล้วยิ่งไปกว่านั้น เจ้าของห้องกลับมาแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น และบอกด้วยว่าเค้าอยู่ห้องนี้คนเดียว ขณะที่อาจารย์เรียก เขาออกไปธุระมา...ทุกคนก็หลอนไปดิ

-หลังตึกคณะสื่อสาร ยามดึกจะมีคนมาภายเรือข้างหลังคณะ ทั้งๆที่เปนแค่บ่อเล็กๆ -ทางเดินภายในมหาลัยจะมีหลังคาบังแดด ยามค่ําคืนคานของหลังคาจะเปนนั่งสําหรับใครบางคน บรื้อออออ......

-ตึกถาปัตมี คนเหนทุกปี ชั้น2 ชั้น5 ชั้น6 ชั้น8 ยืนยันเหนกับตา -ไม่ควรขี่รถผ่านหน้าตึกนาฏศิลป์เก่า เพราะถ้ามาคนเดียวจะมีคนซ้อนท้าย (เจอเองกับตัว เพื่อนเห็นว่ามีคนซ้อนท้ายเรามา) บรื้อออออ...

  • อาถรรพ์กีฬาคณะวิทย์

- งานกีฬา คณะวิทย์ ปี51 สาขา comsci โดนอาถรรพ์แม่พุ่มพวง ปีนั้น comsci ใช้ concept ราชีนีลูกทุ่ง ในการแข่ง แสตนด์เชียร์ แล้วก็ใช้เพลง แม่พุ่มพวง เป็นเพลงหลักในการแสดง แต่ได้มีการแก้ใขเพลง ของแม่พุ่ม แล้วก็มีการบนไว้ว่า ได้ที่1จะไปเต้นแก้บนที่วัดทับกระดาน คือวันนั้น ในการแสดงมันจะต้องมีคนมาแสดงเป็นแม่พุ่ม ตอนที่ตัวแสดงแทนแม่พุ่ม แสดงอยู่ มีคนบอกว่า ที่เห็นอ่ะ ไม่ใช่เค้าคนนั้น แต่เป็นแม่พุ่มมาแสดงเอง พอแสดงเสร็จ คนตีกลอง ก็เป็นลม พร้อมเด็กที่นั่งแทนที่ตัวแสดงแทนแม่พุ่มบนแสตนด์ (คือ ตัวแสดง จะแสดงบนแสตนด์เชียร์ก่อน แล้วค่อยเดินลงมาที่สนาม) พอคนตีกลองฟื้น เค้าก็บอกว่า เค้าเห็นแม่พุ่มพวงมาหา พองานกีฬาจบผลว่าได้ที่3 หลังจากนั้นก็ไปเต้นแก้บนให้แม่พุ่ม ที่หลังคณะวิทย์ (เพื่อความสบายใจ) ระหว่างที่เต้นๆอยู่ หลีดกับตัวแสดงแทนแม่พุ่ม ก็เห็นแม่พุ่มมาดู วันนั้นน่ากลัวมา ร้องไห้กันหลายคนเลย แล้วหลังจากนั้นก็เจอเหตุการณ์แปลกๆ รุ่นพี่เลยให้ไปแก้บ่นที่วัดทับกระดาน หลังจากนั้นก็ไม่เจออะไรอีกเลน (นึกถึงแล้วขนลุก บรึ๋ยย~)

รู้สึกว่าต้องไปขอขมากันทั้งหมดเลยนะ เป็นรุ่นปีสี่ปีนี้เอง (ปี 54 นะ)
  • สถาบันวิจัยเคมี ผีเฮี้ยน เรื่องนี้จะรู้กันในกลุ่มพวกเคมี พอถามพวกเก๋าๆเรามักจะได้คําตอบว่า

"กลัวอะไร! ไม่ต๊อองงงง! .....ของมันมีอยู่แล๊ววว" , "อ้าว ของขึ้นชื่อของที่นี่เลยนะ เจอกันแล้วหรอ ชั้นไหนอ่ะ ตัวใหญตัวเล็ก", ..หรือ"ไม่มี๊......อย่ามาถาม ไม่อยากพูดถึงอีก" อ้าวไหนบอกไม่มี

  • 1.ได้ยินมาว่าเดิมทีที่นี่เป็นตึกเรียนของพวกภาคเคมี รุ่นเก่าๆ ที่ยังมีความผูกพันธ์กับวิดวะกําและเทคโนโลยียวนการกะเฉดอยู่ พวกแก่ๆเคยบอกว่า พี่ของเรา(เด็กเคมี ยุควิดวะเกษตร)ตายไปทั้งๆที่ยังทําโปรเจคไม่เสร็จ ช่วงรับปริญญาเขาเลยมาทําแลปให้เห็นเพื่อจะบอกว่าเขากําลังจะจบเหมือนกันนะ
  • 2.1 ชั้น 4 ของสถาบันวิจัย เป็นที่ รวมตัวของพวกนักวิจัยและพวกนักวิทยาสาด(ตอนนี้ไม่มีแล้ว)พี่นักวิทย์ผมยาว เคยเล่าให้ฟังว่า ฝั่งทางติดกับบึงพระรามเป็นฝั่งที่วิจัยเกี่ยวกับ ชีวะ ที่นั่นจะมี กลิ่นตัวผู้ชาย วนเวียนอยู่ บริเวณอ่าง้างเครื่องแก้ว และมักจะเห็นคนเดินเข้าออกไปมาจากห้องนั้นไปห้องนี้ตลอดทั้งๆที่ไม่มีใครเปิดประตูถึงแม้จะตอนกลางวันก็ตาม(แผนกนั้นประตูเยอะมากเพราะเอาไว้กักเชื้อ)และแล้ววันหนึ่งในหน้าฝน เขาและนักชีวะอีกคน ก็มองเห็นคนก้อมๆเงยๆ อยู่ที่นั่น ทั้งๆที่พวกเขาเพิ่งล๊อกห้องนั้น และที่สําคัญ รอบๆร่างนั้นมีแสงออกมาด้วย
  • 2.2 ชั้น 4 ของสถาบันวิจัย ฝั่งปกติ(ไม่ใช่ฝั่งติดบึง) เป็นที่รู้กันของเด็กเคมี รวมทั้งคนในสถาบันว่า จะมีสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าผีชุกชุม เขามักจะมาเดิน ทะลุประตู(พวกที่มาติวเจอ) ขย่มฝ้า กระโดดจากระเบียง หรือแม้แต่ มาแอบดูตอนทําแลปกลางคืน เด็กๆที่ไปติว และ พวกนักวิจัย และเด็ก ป โท ที่นี่จะรู้กันดีว่า ต้องเจอกันแน่ ไม่วันไดก็วันนึง
  • 3. ชั้น 1 ตรงทางเดินไปตึก วิดว๊ะกะเฉด กลางดึกคืนหนึ่ง พี่คนนั้นเขาติดตามรุ่นพี่ปี 4 มาทําโปรเจค และเจอเด็กตัวเล็กๆวิ่งไปมาบริเวณนั้น
  • ที่นี่ วันดีคืนดี จะมีหมาหอนต่อกันเป็นทอดๆแล้วมาหยุดที่บริเวณชั้น 1 ฝั่งนั้น ในช่วงโพล้เพล้ผีตากผ้าอ้อม
  • ตึก 9 ชั้นคณะวิ๊ดยา เมื่อตอนสร้างเขาบอกว่ามีคน ตายเพราะเรื่องชู้สาว หลังจากสร้างเสร็จ พวกภาคเคมีก็เข้าไปอยู่ พี่กลุ่มหนึ่งทําโปเจคและต้องมาปิด ปฏิกิริยา ตอนเที่ยงคืน พี่ผู้ชายเลยขึ้นไปปิดเอง ที่ชั้น6 แล้วให้เพื่อนผู้หญิงรออยู่กันข้างล่างกะ รปภ พอขาลง ลิฟพี่เขาดันไปหยุดอยู่ที่ชั้น 4 แต่ประตูไม่เปิด เขารออยู่ในลิฟด้วยหวังว่า จะมีคนเข้ามาแต่มันไม่เปิด และแล้วก็ได้ยินเสียงถอนหายใจยาว ขณะที่ลิฟก็เริ่มเลื่อนลง ไปที่ชั้น1 พอลิฟเปิด เพื่อนๆที่รออยู่เขาโวยวายว่า ไปนานจังเป็ย ชม.แล้ว แต่พี่เขายืนยันว่า แค่ลงลิฟมันจะถึง ชม. ได้ไงว่ะ จึงเตือนน้องๆ แต่ละรุ่นมาเรื่อยๆ แต่ทุกวันนี้ คําเตือนนั้นไม่มีแล้ว แล้วใครจะโดนแจคพอทแบบพี่เขามั่ง แล้วถ้าตอนนั้น ประตูลิฟมันเปิดล่ะ

อาถรรพ์ ตึกคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อนดิฉันนั้นอยู่ที่ตึกคณะ ในวันปีใหม่ พอช่วงที่เขากําลังจุดพลุกัน ก็มีเสียงดนตรีไทยคลอ มาเพื่อนก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้สนใจ ก็นั่งเล่นต่อไปสักพัก หันไปมองในประตูเหล็กมองเข้าไป ก็เจอผู้หญิงรําไทยตั้งวง สไบออกเขียวๆ เหลืองๆ มองเพื่อนมันก็เลยรีบเก็บโน้ตบุคมัน ไม่แน่ใจเลยหันไปมองอีกทีก็เธอคนนั้นก็ยังอยู่เหมือนเดิมแล้วมองมาที่เพื่อน เห่อๆๆ เท่านั้นแหละรีบวิ่งทั้งๆที่โน้ตบุคยังเปิดอยู่ หอบปลั๊กไฟวิ่ง แบบไม่คิดอะไร

* อีกเรื่องเป็นโค้งรอบวิดยะ เห็นว่าเจอกันประจําเวลากลับดึง แล้วก้อโค้งตรงทางเข้าหอในอ่า ที่มีป้อมยามแบบว่า ตอนเลี้ยวผ่านโค้งไปอ่านะ ก้อมองกระจกหลังแล้วเห็นผู้หญิงซ้อนหลังอยู่เอามือลากพื้นตรงโค้งนั่นอ่าแบบมือยาวๆอ่ะ บรื๋ออีกแล้วง่ะ
  • เมื่อนานมาแล้วได้มีชมรมแอนิเมชั่นซึ่งเป็นชมรม "ใต้ดิน" ไม่ได้ขึ้นกับสภานักศึกษา นามว่า IDA (Intinitail Design and Animation) ตั้งอยู่ที่อาคารฝึกอบรม ติดกับอาคารสํานักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยอาศัยเวลาช่วงเย็นในการทํากิจกรรมชมรม หลายปีที่เปิดชมรมนี้ จะมีผู้สมัครและสนใจตอนเปิดภาคเรียนไม่ต่ํากว่า 60 คน แต่เหลือรอดอยู่ในชมรมและสามารถทํากิจกรรมชมรมได้เพียง 3 - 6 คนเท่านั้น และสามารถกวาดรางวัลการประกวดแอนิเมชั่นมาแล้วทั้งในไทยและต่างประเทศ นอกจากนั้นผู้ก่อตั้งชมรมหลังจากจบการศึกษาไปแล้ว ยังก่อเรื่องฉาวโฉ่สะท้านวงการแอนิเมชั่นกับแอนิเมชั่นที่มีชื่อว่า "3D Animation Rising of The Bangkok Hero " ด้วยเหตุผลอันลี้ลับ ปัจจุบันชมรมดังกล่าวได้กลายเป็นตํานานในที่สุด
  • ชมรมดังกล่าว ไม่ได้ถูกก่อตั้งโดยเด็กมัลติ ตอนนั้นคะน้าเทคโนสื่อสานม้วนชนยังไม่มีสาขามัลติ "แล้วใครก่อตั้ง !!?!"

บทความที่เกี่ยวข้อง[แก้ไข ]

เพิ่มเติม[แก้ไข ]



สถาบันการ(削除) (削除ここまで)ศึกษาในประเทศไทยและประเทศเทย แก้
มหาวิทยาลัย

กาฬสินธุ์ | กรุงเทพ | เกริก | เกษตรศาสตร์ | เกษมบัณฑิต | ขอนแก่น | คริสเตียน | จุฬาลงกรณ์ | เจ้าพระยา | ชินวัตร | เชียงใหม่ | เซนต์จอห์น | ทักษิณ | เทคโนโลยีปทุมวัน | พระจอมเกล้าลาดกระบัง | พระจอมเกล้าธนบุรี | พระจอมเกล้าพระนครเหนือ | เทคโนโลยีมหานคร | เทคโนโลยีสุรนารี | ธรรมศาสตร์ | ธุรกิจบัณฑิตย์ | นครพนม | นราธิวาสราชนครินทร์ | นวมินทราธิราช | นเรศวร | แสตมฟอร์ด | บูรพา | ปทุมธานี | พายัพ | ภาคกลาง | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | มหามกุฏราชวิทยาลัย | มหาสารคาม | มหิดล | แม่โจ้ | แม่ฟ้าหลวง | รังสิต | รัตนบัณฑิต | รามคําแหง | วงษ์ชวลิตกุล | วลัยลักษณ์ | เวบสเตอร์ | เวสเทิร์น | ศรีนครินทรวิโรฒ | ศรีปทุม | ศิลปากร | สงขลานครินทร์ | สยาม | สวนดุสิต | สุโขทัยธรรมาธิราช | หอการค้าไทย | หัวเฉียว | หาดใหญ่ | อัสสัมชัญ (เอแบค) | อีสเทิร์นเอเชีย | อุบลราชธานี | เอเชีย | เอเชียอาคเนย์ | กรุงเทพธนบุรี | เที่ยงคืน |

โรงเรียน

ป้องกันราชอาณาจักร | เสนาธิการทหาร | เสนาธิการทหารบก | เสนาธิการทหารเรือ | เสนาธิการทหารอากาศ | นายร้อยพระจุลจอมเกล้า | นายร้อยตํารวจ | นายเรือ | นายเรืออากาศ | โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา | โรงเรียนเซนต์คาเบรียล | โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย | สาธิตเกษตร | สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน | โรงเรียนนายสิบทหารบก | โรงเรียนจ่าทหารเรือ | โรงเรียนจ่าอากาศ | โรงเรียนช่างฝีมือทหาร | โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน | โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม | โรงเรียนเตรียมทหาร | โรงเรียนเกรียนอุดมศึกษา | โรงเรียนรักษาดินแดน | โรงเรียนประตูชัย | โรงเรียนมหิดลเวทยานุสรณ์ | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย | โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย |

รับข้อมูลจาก "https://th.uncyclopedia.info/index.php?title=ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี&oldid=329298"