ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยมหิดล

จากไร้วิทยาลัย — ส่วนหนึ่งของโครงการไร้สาระนุกรมเสรี แหล่งรวบรวมเรื่องราวตลกขบขันและบิดเบือนข้อเท็จจริง
(เปลี่ยนทางมาจาก มหาวิทยาลัยมหิดล)
ไปยังการนําทาง ไปยังการค้นหา

ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:11 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity

บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!

มหาวิทยาลัยมหิดล[แก้ไข ]

ยุคโรงศิริราชพยาบาล (พ.ศ. 2429 - พ.ศ. 2431) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ตั้งคณะคอมมิตี้ เพื่อจัดสร้างโรงพยาบาล โดยใช้ที่ดินส่วนหนึ่งของวังหลัง มาเป็นที่สร้างโรงพยาบาลแห่งแรก ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่า "โรงพยาบาลวังหลัง" ในระหว่างการสร้างโรงพยาบาลนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ได้สิ้นพระชนม์ลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อโรงเรือนและเครื่องใช้ต่าง ๆ ในงานพระเมรุนําไปสร้างโรงพยาบาล และเสด็จพระราชดําเนินเปิดโรงพยาบาล พร้อมทั้งพระราชทานนามโรงพยาบาลว่า โรงศิริราชพยาบาล

ยุคโรงเรียนแพทยากร (พ.ศ. 2432-พ.ศ. 2440) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้น ณ โรงศิริราชพยาบาล โดยมีชื่อว่า โรงเรียนแพทยากร นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้สร้างโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลขึ้น ในบริเวณโรงศิริราชพยาบาล นับเป็นโรงเรียนพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย ในปัจจุบัน คือ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ยุคโรงเรียนราชแพทยาลัย (พ.ศ. 2443 - พ.ศ. 2375) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดําเนินเปิดตึกโรงเรียนแพทย์ และพระราชทานนามโรงเรียนแพทยากรใหม่ว่า โรงเรียนราชแพทยาลัย ในโอกาสนั้นโปรดเกล้าฯ พระราชทานประกาศนียบัตรให้แพทย์รุ่นที่ 8 จํานวน 9 คน และพยาบาลรุ่นแรก จํานวน 10 คน ในปี พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐาน โรงเรียนข้าราชการพลเรือนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รวมโรงเรียนราชแพทยาลัยเข้าเป็นคณะหนึ่งของมหาวิทยาลัย มีชื่อว่า คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล ในช่วงนี้ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เสนาบดีกระทรวงธรรมการ รับพระบรมราชโองการทําจดหมายถึงมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ขอให้เข้ามาช่วยปรับปรุงการศึกษาแพทย์ โดยมี สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ ทรงรับภาระเป็นผู้แทนฝ่ายไทย และได้ขยายหลักสูตรเป็นแพทยศาสตรบัณฑิต ต่อมา มูลนิธิฯ ได้ขยายความช่วยเหลือไปถึงโรงเรียนพยาบาล และคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ด้วย

ยุคมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (พ.ศ. 2486 - พ.ศ. 2512) ตราประจํามหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ได้รับการสถาปนาขึ้น โดยแยก คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาตั้งเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในช่วงนี้ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ได้จัดตั้งและโอนคณะต่างๆ มากมาย ได้แก่ พ.ศ. 2491 จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ในกระทรวงการสาธารณสุข (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2490 พ.ศ. 2491 จัดตั้งคณะสาธารณสุขศาสตร์ตามพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ในกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2491 พ.ศ. 2498 โอนคณะสัตวแพทยศาสตร์ไปสังกัดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2500 จัดตั้งคณะเทคนิคการแพทย์ขึ้นในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พ.ศ. 2501 จัดตั้งโรงเรียนเตรียมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่อมาเป็นคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ พ.ศ. 2502 จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์เชียงใหม่ขึ้นในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เพื่อจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่อีกคณะหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ มีหน้าที่จัดการศึกษาฝ่ายแพทยศาสตร์ และฝ่ายวิชาพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ พ.ศ. 2503 จัดตั้ง คณะอายุรศาสตร์เขตร้อน (ปัจจุบันเป็นคณะเวชศาสตร์เขตร้อน) และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ปัจจุบันเป็นคณะวิทยาศาสตร์) ในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ โดยที่สมควรอบรมความรู้เรื่องอายุรศาสตร์เขตร้อนโดยละเอียดแก่บรรดาแพทย์ทั้งหลาย ตลอดจนทําการศึกษาวิจัยเพื่อความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคเขตร้อนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 จัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแพทย์ ช่วยเหลือ ปรับปรุงคุณวุฒิ และสมรรถภาพของแพทย์ รวมทั้งเภสัชกร ทันตแพทย์ ให้มีความรู้เหมาะสมกับสมัยและช่วยวิจัยปัญหาการแพทย์การสาธารณสุข พ.ศ. 2508 จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่อีกคณะหนึ่ง เพื่อผลิตแพทย์ อาจารย์ พยาบาล ผดุงครรภ์อนามัย และพนักงานวิทยาศาสตร์ ตลอดจนบริการประชาชน ผู้ป่วยไข้ และโอนคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ไปสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2510 โอนคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ไปสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติโอนกิจการ ทรัพย์สิน หนี้สิน ข้าราชการ ลูกจ้างและเงินงบประมาณของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เฉพาะที่เกี่ยวกับราชการของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ไปเป็นของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2510 พ.ศ. 2511 จัดตั้งคณะทันตแพทยศาสตร์ พญาไท และ คณะเภสัชศาสตร์ พญาไท ในมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่อีก 2 คณะ โดยคณะทันตแพทยศาสตร์ พญาไท มีหน้าที่จัดการศึกษาด้าน ทันตแพทยศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ พญาไท มีหน้าที่จัดการศึกษาด้านเภสัชศาสตร์ พ.ศ. 2512 เปลี่ยนชื่อคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็น คณะวิทยาศาสตร์

ยุคมหาวิทยาลัยมหิดล (พ.ศ. 2512-ปัจจุบัน) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์ โดยจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยขึ้นใหม่ เรียกว่า "มหาวิทยาลัยมหิดล" มีขอบเขตดําเนินงานกว้างขวางยิ่งขึ้น ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2512 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "มหิดล" อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เป็นชื่อมหาวิทยาลัยแทนชื่อมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เดิม ในช่วงนี้มีการจัดตั้งคณะต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อให้ครอบคลุมทุกสาขาวิชาทั้งสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย[แก้ไข ]

เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยมหิดล

  • กับความฝัน 4 ปี สู่หนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยโลก รุ่นพี่ที่กลับมาเยี่ยมวิทยาเขตศาลายาต่างอึ้ง เมื่อศาลายา เปลี่ยนไปแบบ hi-so สุดๆ ทั้ง รถราง (อันน้อยคัน แถมแออัดด้วย โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน) คาเฟตใหม่ สนามหญ้ามีทุกที่ สนามขี่ม้า รวมทั้งฝูงเป็ด (เทียม!) มุมโดยรอบและถนนหน้าม.เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง
  • มีวิชา MUGE ซึ่งเป็นวิชา(削除) ที่ไม่น่ามี (削除ここまで)ชั้นดีมีมาตรฐาน << กด like ได้มั้ยเทอว์... (จริงๆน่าจะอ่านจุดประสงค์ของ MUGE นะ มันทําให้เด็กมหาวิทยาลัยมหิดลแตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นๆไง)<<จริงๆมันก็ดี แต่คนสอนแม่งเรื่องมาก (削除) อิสัส (削除ここまで)
  • เป็นมหาวิทยาลัยเดียวในประเทศไทยที่ชุดพิธีการของนักศึกษาหญิงต้องผูกโบว์ไทหูกระต่าย
  • เมื่อฝนตกหนัก ถึงแม้จะทําถนนทุกปี น้ําก็ยังท่วมถนนหน้าหอเหมือนเดิม ขนาดตึกวิศวะยังท่วมแบบร่อแร่... <---รถที่ขับผ่าน จะกลายเป็นเรือโดยอัตโนมัติ เพราะจะรู้สึกถึงความโครงเครง เมื่อคลื่นกระทบ ชายฝั่ง(ฟุตบาท)แล้วย้อนกลับมาหา(เรือ)รถของเรา
  • บางคนคิดว่าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ คือโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล หรือไม่ก็โรงเรียนเตรียมแพทย์ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงเพราะว่ามหิดลมีโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหิดล อินเตอร์ฯ แต่ในความเป็นจริงโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนที่เตรียมนักเรียนเข้าสู่ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เท่านั้น นานๆถึงจะมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั้งที่ความเป็นจริงควรจะเป็น คณะวิทยาศาสตร์ ก็ตามเหอะ
  • ทุกคณะและภาควิชาของมหาวิทยาลัยมหิดลจะเรียกเป็นชื่อย่อภาษาอังกฤษ เช่น SC หรือ PT ซึ่งคนภายนอกไม่มีวันเข้าใจว่ามันย่อมาจากอะไรกันแน่ เช่นนายพีจะแนะนําตัวกับเพื่อนใหม่ ก็จะบอกว่า "เราพี EN" แปลว่าชื่อพี เรียนคณะสิ่งแวดล้อม หรือนางสาวฝน คณะ SC (วิทยาศาสตร์) อยากบอกให้ชัดลงไปว่าเรียนภาคอะไรของ SC ก็จะบอกว่า ฉันฝน SCCH แปลว่าฝนเรียนอยู่ภาควิชาเคมี ของคณะวิทยาศาสตร์นะจ๊ะ เป็นต้น
  • มหิดล ศาลายาตรงสะพานข้ามคลอง (เป็นที่รู้จักในนาม "คลองบุ๋ย") ทางด้านตึกคณะสิ่งแวดล้อม ถ้าเจอเต่าในคลองข้างซ้ายจะอกหัก ถ้าเจอเต่าในคลองข้างขวาจะติด F (ชิหายแล้ว ผมเจอทั้งสองด้านเลย)
  • ฝั่งตรงข้ามมหิดลศาลายา มีร้านอาหารอีสานเลื่องชื่อคือร้าน "ป้าแจ๋ว" แต่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นป้าแจ๋วเท่าไร
  • ร้านป้าเสธ (ร้าน 11) มีข้าวยําไก่แซบ ป้าบอกว่า "ชั้นทําก่อน KFC นะยะ"
  • มี "แมงทับ" อยู่ในสวนสมุนไพรศาลายา ของคณะ PY !!!! ดึกๆ ไปดูได้ จะพบว่ามี 8 ขา บางครั้งอาจพบเสื้อผ้าตกอยู่ บางครั้งพบถุงยางหรือคราบหรรษา บางครั้งก็พบแมงทับในรถด้วย
  • ในมหิดลมีป้ายรถเมล์ แต่รอเท่าไหร่ก็ไม่มีรถเมล์มาจอดหรอก
  • 80% ของเด็กมหิดลอยากดูเรื่อง Season Change เพราะมันถ่ายที่ศาลายา, 15% เพราะนางเอก, 5% เพราะพระเอก
  • 90% ของเด็กมหิดลต้องเคยทําสายกางเกงเล พันกับล้อจักรยาน แต่ 95% เคยทําสายกางเกงเลตกชักโครก
  • 80% ของเด็กมหิดลเป็นเด็กต่างจังหวัด
  • มหิดลมีถนนดวงดาว แต่ที่มันเหมือนดวงดาวนั้นเพราะมีเศษแก้วระยิบระยับอยู่เต็มพื้น
  • มหิดลศาลายา เค้าว่ากันว่าผีดุมากเนื่องจากมีประวัติมายาวนาน พระผู้ใหญ่ท่านนึงเปรยว่า พุทธมลฑลแสงสว่างสุขใส แต่โรงเรียนเจ้าฟ้ามหิดลฯ (หมายถึงมหิดลศาลายา) มืดครื้มมัวหมองเสียนี่
  • หมาหนึ่งตัวที่มหิดลมีมากกว่า 150 ชื่อ (แน่นอนว่าแฮปปี้ดังสุด!)
  • Cafet คือชื่อเล่นสุดหรูของโรงอาหารในมหาวิทยาลัย ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าย่อมาจาก "cafeteria" << ทั้งๆ ที่หน้าหอ 11 มีป้ายบอกไป MU Cafeteria อยู่
  • แต่เดิม Cafet อยู่ที่ตึกกิจกรรม แต่บัดนี้ถูกทุบทิ้ง เลยต้องย้าย Cafet ไปยังโรงช้างพักนึง ก่อนที่จะย้ายมาที่ MLC
  • ที่โรงช้างถูกเรียกว่าโรงช้าง เพราะเมื่อก่อนมันจะมีเสียงแปร๋นตอน 2 ทุ่ม (เสียงออดปิดโรงช้าง)
  • ยุงที่ศาลายากัดทะลุกางเกงหนาได้ แถมหน้าด้านไล่ก็ไม่ไป และบางครั้งการตบยุงครั้งเดียวได้ยุงถึง 3 ตัวก็มี ถึงยากันยุงก็ต้องเล่นโบ๊ะกันหนาๆหน่อย... <<< เบื่อมากตอนไปซ้อมสแตนด์ T-T
  • ปัจจุบันสงสัยว่ายุงศาลายามีภูมิคุ้มกันซอฟเฟล เพราะแต่ละคนแทบจะอาบแทน แต่ก็ยังโดนกัด
  • เรามีสวนจิงโจ้เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องถ่อไปดูถึง ออสเตรเลีย ^^ ที่มาของชื่อสวนจิงโจ้ มาจากถังขยะทุกใบในสวนเป็นปูนปั้นรูปจิงโจ้นั่นเอง (จิงโจ้ตัวเหม็นพิลึก - -") - ปัจจุบันอยู่ข้างตึก IC
  • จนบัดนี้ มีหลายคนยังงอยู่ว่ามหิดลมีกี่คณะ (เฉลยว่า 28 คณะ)
  • และกว่า 90% ของคนที่ยังงงอยู่ จะงงหนักกว่าเดิมเพราะไม่รู้ว่ามหิดลมีทั้งหมดกี่วิทยาเขต
  • ผู้บริหารมหาวิทยาลัยไม่ชอบให้เรียกศาลายา พญาไท บางกอกน้อย กาญจนบุรีหรือที่อื่นๆ ว่าวิทยาเขต..เพราะทําให้รู้สึกว่าแบ่งแยก..แต่มันก็แยกกันอยู่จริงๆนะ
  • กลุ่มการเมืองในมหาวิทยาลัยมีอยู่กลุ่มเดียวที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสโมสรนักศึกษา..ก็คือสโมปีก่อนนั่นแหละ
  • เดี๋ยวนี้เขามีรถกอล์ฟวิ่ง(削除) รอบศาลายาแล้ว (削除ここまで) รู้สึกว่าจะรับส่งแค่จากที่จอดรถไปในบางหย่อมหญ้าของมหาลัย (ของ IC เพื่อเด็ก IC ที่ขับรถมาเรียนโดยเฉพาะ) - รอนานเหมือนรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน
  • สโตร์ฯ(Store) คือสหกรณ์ของมหิดลศาลายา มีทุกๆอย่างถามดูได้สิ่งที่คุณต้องการมันหลบอยู่ในซอกโน่น และซอกนี่ เฉกเช่นเดียวกับ จีฉ่อย ของจุฬา << แต่สโตร์ไม่มีข้าวมันไก่ เครื่องสูบน้ํา กะเปียโน นะ...
  • GET IT ! ก็ขายเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ชุดชั้นในยันหม้อสุกี้
  • หอสมุดกลางด้านปีกซายแอร์เย็นสบายดุจสวรรค์ แต่ถ้าไปปีกขวาจะตรงกันข้ามทันที่ ถามที่ไร "หลังคามันสูงแอร์เลยไม่เย็น"
  • หอสมุดชั้นล่างปกติจะเสียงดังมาก บ่าย ๆ อาจจะเห็นนักศึกษานอนตายกันเป็นแถบ ๆ
  • ตอนนี้หอสมุดกลางเปลี่ยนรูปโฉมไปยังสิ้นเชิง ล้ําสุดๆ ปีกขวาชั้น 1 มีมุมให้เรียน E-lecture ย้อนหลัง สําหรับ นศ.ที่เข้าเรียนไม่ทัน (หรือขาดบ่อยๆ นั่นแหละ)
  • เมท คือ คนที่มีผลต่อการเรียนของเราไม่น้อยไปกว่าตัวเรา ถ้ามันขยันเราก็ขยัน ถ้ามันพากันเจ๊งบอล เราก็มักจะเจ๊งตามมันด้วย T-T
  • L หรือ Lecture hall สถานที่เป็นมากกว่าห้องเรียน แต่ใช้ทําอย่างอื่นได้ด้วยเช่น กินขนม อ่านการ์ตูน คุยกับกิ๊ก และที่ยอดฮิตคือเฝ้าพระอินทร์ มีชื่ออีกอย่างว่า "ห้องบรรทมรวม"
  • องค์พระฯ เป็นศูนย์รวมจิตใจของนักศึกษาปีที่หนึ่ง และของหลายๆ คณะที่ศาลายา ปรกติแทบไม่มีคนสนใจแต่ช่วงใกล้สอบควันจะพุ่งขึ้นอย่างกับมีไฟไหม้
  • เอนกฯ คืออาคารเอนกประสงค์ที่ทําได้ทุกอย่างพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะซ้อมเชียร์ ซ้อมกีฬาในร่ม และอบซาวน่า
  • ศูนย์สุขภาพฯ(MU Health หรือ MU Hell ฟระ) เป็นกี่โรคก็หายได้ด้วย พาราเซตามอล
  • หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่มหิดลศาลายาคือแทงค์น้ํารูป pyramid กลับหัว
  • ตึก 3 คือตึกโดดเด่นหน้ามหิดลศาลายา สามารถรวมร่างเป็นหุ่นยนต์ได้โดยมีตึก OP(ตึกอธิการบดีใหม่) ตึก Inter(MUIC) และตึกแดงคณะวิศวะ
  • การท้าตีกันหลัง 7-11 ปิดเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ใช้ไม่ได้ในศาลายาเพราะ 7-11 ศาลายา นั้นปิดทําการปีละ 1 ครั้งช่วงปิดเทอมใหญ่ <<<เดี๋ยวนี้มีเซเว่นใต้ตึกวิศวะซึ่งปิดสี่ทุ่ม
  • ในทีแรกแล้วต้นไม้ประจํามหิดลคือ ต้นศรีตรัง แต่ภายหลังศ.ดร.สตางค์ มงคลสุข ได้นําไปปลูกที่มอ.และกลายเป็นต้นไม้ประจํามหาลัยก่อน มหิดลเลยต้องหาใหม่ จนได้ต้นกันภัยมหิดล ซึ่งเป็นต้นไม้เลื้อย ผิดกับของม.อื่นๆ ที่เป็นไม้ยืนต้น << กดไลด์
  • และเพราะเหตุนี้ ทําให้เพลงประจํามหาวิทยาลัยที่ร้องในงานกีฬาเฟรชชี่ต้องถูกโละทิ้ง เชื่อสิว่า รุ่นพี่กะรุ่นน้องร้องเพลงมหาลัยได้ไม่เหมือนกัน <<< ทุกวันนี้น้องใหม่ก็ยังคงร้องเพลงที่มีคําว่า "ศรีตรัง" อยู่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเพลง "กันภัยมหิดล" อีกหนึ่งเพลง
  • ถึงแม้กันภัยมหิดล เป็นต้นไม้ประจํามหาวิทยาลัย แต่เชื่อไหม ทั่วทั้งมหิดลศาลายา มีกันภัยมหิดลอยู่แค่ 2 ต้น อยู่หน้า OP ไม่เชื่อไปดู <<< มีที่สวนสมุนไพรด้วยนะ + ซุ้มป้ายรถเมล์ confirm ไปดูมาแล้ว
  • เพลงที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้ยินตามสื่อต่างๆ ก็ไม่ใช่เพลงประจํามหาวิทยาลัยด้วยนะ
  • ลาน concert เล็กๆ ด้านข้างศูนย์นันทนาการ เคยรองรับการบรรเลงโชว์จากวงออเคสตร้าระดับโลกมาแล้วหลายครั้งไม่น่าเชื่อทั้งๆ ที่มันแคบและเล็กขนาดนั้นเนี่ย
  • มหิดลมีชมรมยิงปืน และมีสนามยิงปืน แต่ยิงได้แต่ปืนลม ถ้าจะยิงปืนจริง ต้องนั่งมอไซค์รับจ้างไปสนามตํารวจ แถวประตูสาม
  • ในช่วงที่เข้าสู่การสอบหากคุณได้มีโอกาสเดินผ่านไปแถวๆหอพักนักศึกษา ในช่วงหลังสองทุ่ม คุณจะได้ยินเสียงเอะอะดังกลับไปกลับมา อาทิเช่น กุไม่ไหวแล้วว้อย!!! กุอ่านไม่ทันแล้ว!!! กุก็อ่านไม่ทันเหมือนกัน!!! และเมื่อสอบเสร็จ เสียงที่ได้ยินจะเปลี่ยนไปอาทิเช่น กุสอบเสร็จแล้วว้อย!!! แต่กุยังสอบไม่เสร็จ!! กุทํา.....ไม่ได้!!! กุก็ทําไม่ได้เหมือนกัน!!! .....มันออกเ_ี้ยไรวะ!!!
  • นอกจากนี้ก็มีเสียงกรี๊ด ไม่รู้เอาลมมาจากไหน กรี๊ดกันนานมากกกกกกกกกกกกกก แล้วก็จะมีเสียงเอะอะโต้ตอบตามมาเช่นเคย
  • หลังจากงานสัปดาห์หนังสือของหอสมุด พ.ย. 2553 ซึ่งดันมีร้านขายประทัด (มาได้ไงวะเนี่ย!!) เสียงประทัดจึงกลายเป็นเสียงที่สร้างความหรรษากับชาวหอชายกันหลายวันเลยทีเดียว...
  • มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ) อยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัย คือ อาคารกายวิทยาทาน สําหรับประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา // มีตํานานอยู่
  • หอ11 เป็นหอที่นักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยคอนเฟิร์มว่ารูเริด
  • 'แฮปปี้'เข้าเรียนบ่อยกว่านักศึกษาบางคนเสียอีก (แฮปปี้ alert กว่าจริง ๆ นั่นแหละ รวมทั้งการเข้ากิจกรรมต่าง ๆ ด้วย)
  • วิชา มมศท หรืออีกชื่อหนึ่ง มาหาเมียเพื่อสืบส(ศ)กุลไทย

คณะแพทย์ศิริราชฯ วิทยาเขตบางกอกน้อย (SI) <<< เป็นคณะลูกรักของมหาวิทยาลัยจริงๆนะ

  • คนไทยไม่ค่อยรู้กันว่านี่คือหนึ่งในโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
  • เป็นคณะที่แยกสาขาเยอะ แต่ก็เรียกชื่อย่อต่างกัน MD(แพทย์ศาสตร์) TT(แพทย์แผนไทยประยุกต์) PO(กายอุปกรณ์) ET(เทคโนโลยีการศึกษาแพทย์ศาสตร์) แต่ก็เรียก MD ว่า SI นะ
  • ยามหรือพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ศาลายา น้อยกว่าที่ รพ .ศิริราช ซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่าแล้วก็มีที่เปลี่ยวๆ น้อยกว่าด้วย ..แต่อาจมีเหตุผลอื่น เพราะที่ศิริราชไม่ได้รักษาความปลอดภัยให้นักศึกษาอย่างเดียว (บางครั้ง เดินๆอยู่ก็กลัวโดนเข้าชาร์ตเหมือนกัน)
  • ร้านขายยาหน้าศิริราช ขายยาถูกที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปลีกหรือส่งหรือร้านไหนๆ ก็ราคาเท่ากัน
  • ข้ามแม่น้ําเจ้าพระยาหลังคณะไปก็คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • เด็กมธ.ทั้งที่เป็นเพื่อนบ้านกันแต่ฝีปากร้ายนัก กล่าวว่าแค่เพียงข้ามคลองก็เจอสาวโรงเรียนแพทย์ อ้วน เตี้ย ดํา สิว..
  • เด็ก SI เรียนดีเสียจนต้องตัดเกรดแยกจากคณะอื่นๆ ในหลายวิชาที่เรียนด้วยกัน
  • เป็นคณะแพทย์ที่คะแนนสอบเข้ากสพท.เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ (ปี 2566)
  • ซึ่งที่ 1 ประเทศจะผลัดๆกันกับแพทย์จุฬา
  • มีกิจกรรม 2 เข็ม (จุฬา-ศิริราช) แข่งกีฬา ประกวดแสตนด์เชื่อมสัมพันธ์ เพราะดั้งเดิมเป็นแพทย์สถาบันเดียวกัน (มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์) ก่อนจะแยกจากกันเป็นเอกเทศ

คณะแพทย์รามาฯ วิทยาเขตพญาไท (RA)

  • คนก็ยังไม่ค่อยรู้กันว่านี่ก็คืออีกโรงเรียนแพทย์ในสังกัดของมหาวิทยาลัยมหิดล
  • DeliHouse เป็นร้านขายขนมปังของคณะที่อร่อยมาก แต่ราคาก็ทําเอาสะอึกเลย
  • เคยมีอุบัติเหตุขอบทางด่วนตกลงมาโดนคนเดินไปมาแถวนั้น ก็เข็นเข้าตึกอุบัติเหตุฉุกเฉินใหม่หน้ารพ.ได้ทันที
  • แพทย์รามาคณะที่มีหมอสวยที่สุดในประเทศเทย นาวสาวเทยปี 2549 เรียนอยู่ // ปัจจุบันพี่หมอจบ ER รามา เป็น specialist แล้ว
  • รั้วของ RA ติดกับ SC เพราะว่าช่วงปีแรกๆ ต้องมาเรียนกับ SC
  • พวกเราเรียกเด็ก RA ว่าหมอเถิดเทิงเพราะว่านิสัยเด็กหมอ RA ทั้งเฮฮาและขี้เล่น(ตัว) ต่างกับเด็ก SI ที่จะดูเรียบร้อยกว่า
  • (ปี 66) มีการขยายอาณาจักรไปบางพลี สมุทรปราการ ในชื่อ "รามาจักรีนฤบดินทร์ (CNMI)" เป็นแฟรนไชน์รามาสาขาใหม่ มีครบวงจร และอนาคตจะขยายไปหัวมุมแยกราชเทวี เป็น "ย่านนวัตกรรมโยธี" แปลนตึกใหญ่มว้ากกกก เหมือนห้างสรรพสินค้า

คณะเทคนิคการแพทย์ วิทยาเขตศาลายาและบางกอกน้อย (MT)

  • ประกอบด้วย 2 หลักสูตร คือเทคนิคการแพทย์ (MT) และรังสีเทคนิค (RT) เรียกรวมๆกันว่าMR
  • เป็นที่แรกที่เปิดหลักสูตรเทคนิคการแพทย์และรังสีเทคนิคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • มีตึกคณะสองที่ คือที่บางกอกน้อย(ศิริราช) และศาลายา
  • ในปัจจุบันเฉพาะRTเท่านั้นที่ได้เรียนที่ศิริราช(เริ่มเรียนที่ศิริราชอย่างเต็มตัวตอนปี3เทอม2จ้ะ)
  • มีสโมสรนักศึกษาเทคนิคการแพทย์และรังสีเทคนิค(สทร.) ด้วยนะ <<< แปลกตรงไหนอ่า
  • ตึกคณะที่ศาลายาแบ่งเป็นสองส่วน คือตึกใหญ่สูงหลายชั้น และกระท่อมรจนาหลังตึก ขนาดประมาณ 5x5 ตารางเมตร แทบไม่มีใครรู้ว่า ข้างในเป็นเครื่อง CT SCAN ราคาร้อยกว่าล้าน พระเจ้า..
  • ที่ศาลายามีคลองเกือบจะรอบคณะ ในคลองมีน้ําพุด้วย โดนเอาไปไว้ด้านหลังๆ ของมหาวิทยาลัยเพราะว่ากลัวรังสีรั่วไหล
  • ที่คลองหน้าคณะมีเรือเป็ดให้ถีบด้วย ใกล้เคียงสวนสนุกขึ้นเสียทุกที..
  • หลังคณะมีสวนผักสดปลอดสารพิษ มีแม่ค้าชื่อ เจ๊รําพึง วันดีคืนดีเจ๊จะมีออพชั่นเสริมจากผักปลอดสารพิษ เป็นไวน์ปลอดแอลกอฮอล์ ชิมมาแล้วพบว่า อร่อยมากกก..
  • หลายคนสงสัยว่าทําไมเวลาขึ้นสแตน และกีฬาเฟรชชี่MT และRT ถึงแยกกัน ทั้งๆที่คณะเดียวกัน (นั่นน่ะสิ- -;)
  • น้องๆปี1ทั้งสองสาขาจะต้องใส่โบว์ไทและไทด์ไปเรียนจนกว่าจะถึงพิธืถอด(ซึ่งMTและRTก็ถอดไม่พร้อมกันนะจ๊ะ)
  • เรามีงานที่จัดร่วมกับ VS PT และ EN ชื่อว่างาน 'สี่มุมมอ'

คณะกายภาพบําบัดวิทยาเขตศาลายา (PT)

  • เป็นที่ๆเปิดหลักสูตรกายภาพบําบัดแห่งแรกของประเทศ
  • ตึกใหม่ทีศาลายาสวยเว่อร์19:24, 6 พฤศจิกายน 2553 (ICT)
  • เป็นหนึ่งในสองวิชาชีพที่ได้ผ่าอาจารย์ใหญ่เองทั้งร่าง นอกจากแพทย์ เพราะวิชาชีพอื่นดูแบบชําแหละแล้ว ส่วนทันต(DT)ผ่าเองแค่ท่อนบน
  • เด็กPTฮาได้โล่ เหมือนชีวิตนี้เรียนเพื่อนไปฮากับคนไข้
  • ตึกPT อยู่แถวลานเป็ด มีศาลากลางน้ําที่ตอนดึกๆ คนที่มีคู่เค้าไปกุ๊กกิ๊กกัน(ชิส์! อิจฉา)
  • หนุ่มๆ PT หน้าดีๆมีมากมาย แต่กลายเป็นสาวก็เยอะอยู่ เฮ่อ

คณะวิศวะ วิทยาเขตศาลายา (EG)

  • รู้หรือไม่ว่า EG เกิดได้เพราะอาจารย์คณะ EN (สิ่งแวดล้อมฯ)
  • สัญลักษณ์ของ EG มหิดล ไม่ใช่เกียร์แต่เป็นน็อตตัวเมีย
  • ตึกวิศวะโยธาของมหิดล เรียกว่าตึกโรบอท บ้างก็ตึกบิ๊กซี ตึกนกฮูก ตึกโกร๋น ตึกเปลือย ตึกเหล็ก ฯลฯ ที่เรียกแล้วเข้าใจง่ายที่สุดคือ "ตึกแดง"
  • เกียร์ของเด็กวิศวะ ทําเท่าไรก็ไม่พอ(เล่นเอาไปแจกสาวๆหมด) - (ยังสงสัยอยู่ว่าสัญลักษณ์เป็นน็อตตัวเมีย แต่เวลาแจก ๆ เกียร์ - - )
  • การตัดเกรดของนักศึกษาชายปีหนึ่ง ไม่ได้แปลว่าการตัดเกรดผลการเรียน แต่แปลว่าการจัดลําดับขนาด(削除) น้องชาย (削除ここまで)โดยรุ่นพี่ในวันรับน้อง (ปัจจุบันยกเลิกเสียแล้ว)<<(เหรอ)
  • วิศวะที่นี่รุ่นพี่น่ารักมากๆ ที่สําคัญไม่มีการว๊าก มีแต่กิจกรรมประชุมเชียร์ (-*-)
  • สาวEGอ่อนโยนบอบบางเรียบร้อยเนิร์ตน่ารักนิสัยดีเป็นกุลสตรี เสียอย่างเดียว...........คือมันเป็นโลกในอุดมคติ
  • 1เดือนแรกเด็กปี1จะมีโรคจิตอ่อนอย่างหนึ่งคือ เห็นเสื้อ shopไม่ได้
  • EGเป็นคณะที่มีวิทยาเขตเยอะมาก เช่น วิทยาเขต เซลปิ่น เมเจอร์ ร้านเป็ด สนามบาส โลตัส และอื่นๆอีกมากมายในที่มี สาว(พยาบาล) อาหาร ร้านเกมส์ UNKNOW(ตัวต้านทาน)

EGoKE (อีจีโอเกะ) สวยร้องฟรี(ในสายตาของEG)หุ่นดีครึ่งราคา

คณะเภสัชฯ วิทยาเขตพญาไท (PY)

  • Pro จริงๆ หมายถึง Project love คือแอบไปชอบใครเค้า แต่คําว่าโปรสําหรับคณะนี้คือการรับจ้างบอกรักชาวบ้าน ค่าบริการเริ่มต้นที่ 39 บาท (กุหลาบ 1 ดอก) ไปจนถึง 1,000 บาท (ตุ๊กตาหมี ลูกโป่ง ฯลฯ)
 (เดียวEGจะทําProบอกเลิกแข่งกับPY)
  • ปี1เรียนที่ศาลายา ส่วนปีอื่นๆเรียนที่พญาไทนะจ้ะ
  • คณะเรามีผู้ชายสวยกว่าผู้หญิง และผู้หญิงหล่อกว่าผู้ชาย
  • ค่าเทอมถูกมว้ากก

คณะวิทยาศาสตร์ วิทยาเขตพญาไท (SC)

  • ชื่อเก่าคือโรงเรียนเตรียมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์
  • เป็นหนึ่งในไม่กี่คณะที่จัดตั้งมาก่อนมหาวิทยาลัยมหิดล
  • อะตอม ที่เป็นสัญลักษณ์ของเด็ก SC จะมีความหนาบางและสวยไม่สวย ขึ้นอยู่กับรุ่นพี่และสภาพเศรษฐกิจในปีนั้น ว่าขายสมุดได้ดีหรือเปล่า
  • ส้วมที่ SC ตึก B สร้างสมัยมูลนิธิรอคกี้เฟลเลอร์ให้ความช่วยเหลือ น่ากลัวเป็นที่สุด ถ้ามือถือตกลงไปแล้วก็อย่าเสี่ยงมุดหัวไปเอาเลย ตัดใจราดทิ้งไปเสีย
  • ส้วมที่ SC ตึก C เคยมีข้อความลึกลับบนกําแพง(คงเป็นใครทํามือถือตกแล้วเอามือไปละเลงอึบนกําแพง แปลข้อความได้ว่า "ใครพบเห็นโปรดส่งต่ออีก 7 ข้อความ!!!")
  • หนุ่มๆ SC ชอบเหล่สาวๆ RA เนื่องจากทั้งแจ่มและจิ้มลิ้มพริ้มเพราต่างจากสาว SC ยิ่งนัก แต่ทว่า บรรดาสาวหมอสาวๆ ทั้งหลายไม่เคยหันมามองหนุ่ม SC เลย แวะมากินข้าวแล้วก็เดินคีบส้นสูงกลับโรงพยาบาลฯ ไปหาหมอหล่อๆ แทน
  • เด็ก SC ชอบโดนเด็ก EN เขม่นว่าเป็นตัวดึงมีน
  • ถ้ารู้ตัวว่าสอบแคลไม่ผ่าน เตรียมตัวเดินทางจากศาลายาไปพญาไท


คณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาเขตพญาไท (PH)

  • เป็นหนึ่งในคณะแรกๆ ที่ตั้งมาตั้งแต่เป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์
  • เป็นหนึ่งในไม่กี่คณะที่มีพระบรมรูปสมเด็จพระบรมราชชนกประดิษฐานไว้หน้าคณะตัวเอง (พระองค์เป็นพระบิดาแห่งการแพทย์และการสาธารณสุขของไทย)
  • คณะนี้มีสโลแกน "ทนแดด ทนฝน ทดแล้ง" เหมือนดั่ง ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูณ)
  • เป็นคณะที่หักโหมซ้อมสแตนด์ที่สุด (สาสุขสัมพันธ์ รุ่นก่อนๆ ปิดเทอมไม่ได้กลับบ้านเลยทีเดียว)
  • มีสาขาวิชาที่หลากหลายถึง 5 สาขา คือ อนามัยชุมชน (ComHealth), อนามัยสิ่งแวดล้อม (Envi หรือ แซน), โภชนาการ (Nu), สุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ (HealthEd) และอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occ)
  • นศ.จะเลือกสาขาวิชาเมื่อขึ้นปี 3 ยกเว้น ภาค Occ ที่ต้องเลือกตั้งแต่สอบเข้า เพราะเนื้อหามากกว่า และต้องมีความอดทนสูง แต่จบมารายได้ก็ดีตามกัน
  • เมื่อขึ้นปี 3 ภาค Occ ต้องใส่ชุดพิธีการใหม่ ขอลายเซนต์พี่ใหม่ ห้ามใช้ลิฟต์ ให้เดินขึ้นไปเซ็นชื่อเข้าห้องเรียนที่ชั้น 6 แล้วลงมาเรียนทีชั้น 4 (เพื่อฝึกความอดทน)

คณะทันตแพทยศาสตร์ วิทยาเขตพญาไท (DT)

  • Dent มหิดลเคยเป็นคณะหน้าตาดีขนาดว่าได้นางนพฯ ของมหาลัยเกือบทุกปี แต่บัดนี้... =_="
  • ในปี 2544 แมลงทับ 8 ขาแห่งสวนสมุนไพรมาจากเด็ก DT คู่นึง เด็ก EG และ SC ตามไปดูจนเป็นที่เลื่องชื่อไปทั้งศาลายา
  • คณะนี้กําลังสร้างตึกใหม่ สูง20ชั้น+3ชั้นใต้ดิน เป็นโรงพยาบาลทันตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และที่สําคัญ!!! มันมีลานจอด ฮ. ด้วยยO_O // ตึกเสร็จเมื่อปี 52-53 เปิดบริการเต็มรูปแบบมา 10 กว่าปี (update 2566)
  • ทันตะมหิดล จะจัดงานยิ่งใหญ่ประจําปีในช่วงเดือนพฤศจิกายนคืองาน "เพื่อฟันที่คุณรัก" จัดที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้นG มีกิจกรรมหลายหลาย และที่สําคัญที่สุดคือ สอยดาวการกุศุล!!!(เด็กปี1จะต้องขายบัตรสอยดาว โดยลูกค้าทั้งหลายก็คือเพื่อนๆในศาลายานั่นแหละ ซึ่งเชื่อว่าน้อยคนที่จะไปงานนี้จริงๆ- -*)

คณะสิ่งแวดล้อม วิทยาเขตศาลายา (EN)

  • มีตึกไฮโซสําหรับให้เด็กอินเตอร์เรียน บันไดกลางทางขึ้นไม่มี ได้แต่เดินด้วยบันไดหนีไฟ หรูป้ะละสาส
  • ละครของพี่บี้ ในเรื่องเป็น มธ. แต่มาถ่ายทําบางฉากที่ EN ศาลายา แต่น้อยคนนัก จะได้เห็นฉากนั้นในละคร
  • ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปยังไงน้ําในคลองบุ๋ยก็ยังเน่าเสียอยู่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่คลองบุ๋ยอยู่ข้าง EN แท้ๆ (จริงๆแล้วระบบน้ําในมหาลัยเป็นระบบปิด ความภูมิใจของอธิการคนไหนไม่รู้ จําไม่ได้ เพราะทําให้น้ําไม่ท่วมมอตอนน้ําท่วมใหญ่ แต่แม่งบําบัดห่าไรไม่ได้สักอย่าง)
  • อาถรรพ์นายกสโมฯ EN คือถ้าใครรับตําแหน่งตอนโสด จะมีแฟนตอนเป็นนี่แหละ
  • สันทนาการเก่งมาก เด็กคณะนี้หาสาระอะไรไม่ได้ยกเว้นตอนสันฯ
  • มีสายคล้องบัตรนักศึกษาเป็นของตัวเอง
  • คณะนี้มีเสื้อช็อปด้วยนะ สีเขียวขี้ม้า แต่ได้ใส่ตอนปี 2
  • อีตึกที่ว่าในข้อแรกมีคนเคยเรียกว่า MLC2 (削除) พ่อมึงสิอีสัสตึกชื่อพัฒนดลโว้ย (削除ここまで)

"วิทยาลัยนานาชาติ (MUIC)"

  • เป็นคณะที่เด็กนักเรียนไม่ค่อยเ่ห่ออะไรทั้งสิ้น ดารามาเรียนแล้วสามารถเสียความมั่นใจได้ เพราะไม่ถูกรุม ขนาดกอล์ฟไมค์มาเรียนจะมีเด็กจากคณะอื่นมาดู แต่เด็ก IC กลับงงและด่าในใจว่า "ทําไมคนในแคนทีน แม่งเยอะจังวะ ที่นั่งยิ่งน้อยๆ อยู่" เฌอปราง BNK48 ก็เช่นกัน
  • แต่พี่นาย นภัทร กลับมีคนเห่อและขอถ่ายรูปบ้างประปราย
  • ใต้ตึกที่เคยเป็นพื้นซีเมนต์ธรรมดา บัดนี้ ใต้ตึกดูไฮโซหรูหรา ไม่เหลือคราบเดิม
  • เด็ก IC ขับรถมาเยอะที่สุด แต่ตึก IC เสือกไม่มีที่จอด
  • แล้วรถแต่ละคัน.... ไปเดินดูที่จอด IC ดิ อย่างกะเดินอยู่ในโชว์รูม
  • ตึกใหม่เก็บค่าจอดแพงมาก
  • เป็นคณะที่ไม่ค่อยได้เจอกับเด็กคณะอื่น มีสังคมอยู่ในตึกตัวเอง
  • เป็นคณะที่มีหลายตึกเรียนมาก วันนึงคุณอาจจะเปลี่ยนที่เรียนสามสี่ตึกได้เลย
  • ช่วงสอบ ใต้ตึกไม่เคยหลับใหล
  • ช่วงสอบ ถ้าคุณไปสตาร์บัค ทอมแอนด์ทอม คุณจะเจอเด็ก IC อ่านหนังสือกันเกือบทั้งร้าน
  • ตึกใหม่ดู ไฮโซเว่อวัง แต่คุณภาพไม่สวยเหมือนข้างนอก เข้าเรีียนแล้วยังตกแต่งภายในไม่เสร็จเลยจ้า
  • คณะนี้มีเมเจอร์เยอะสุดพูดเลย
  • คณะนี้มีีสงครามภายในที่เรียกว่า Skywar แพ้แค่เสี้ยววิ ตารางที่คุณวางไว้ว่าจะเรียนบ่ายอาจจะเปลี่ยนเป็นเรียน 8 โมง ทุกวันก็เป็นได้
  • เด็ก IC ชอบไปเยาวราชกันมาก ไปทีไรเจอทุกที

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

  • เป็นหนึ่งในคณะ(ภาคปกติื)ที่ค่าเทอมแพง(削除) บัดซบ (削除ここまで)ที่สุดในม.
  • เป็นคณะที่คนนอกเข้าตึกไม่ได้
  • คณะนี้ไม่เรียน MUGE <<จัดว่าพลาดที่ไม่เจอของดี
  • ทุกวิชาสอนด้วยภาษาอังกฤษ แต่ที่อาจารย์พูดสําเนียงอังกฤษจริงๆเห็นจะมีแค่วิชาภาษาอังกฤษ(?)
  • อาจารย์แทบทุกท่านในคณะจะมีสําเนียงเป็นเอกลักษณ์ เรากล้ารับประกัน(削除) แต่จะไม่คืนเงิน (削除ここまで)ว่าท่านจะได้รับทั้งภาษาอังกฤษสําเนียงฝรั่ง ไทย อินเดีย ฯลฯ อย่างครบถ้วน
  • หลังจากปิดเป็นความลับมานาน ก็ปรากฏความจริงที่ว่าเขตหวงห้ามเฉพาะคือชั้นสี่ ไม่ได้เป็นที่ลงจอดจานบิน ไม่ได้เป็นที่แล็บของอัมเบรลล่า แต่เป็นแค่ห้องประชุมหรูหรา
  • จากข้อความข้างต้น ชั้นสี่ นักศึกษา ICT ไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้
  • คาดว่าวิชา SCCS ของปี 1 คือ Fundamentals of Programming และ Advanced Programming จะยากขึ้นเรื่อยๆเพราะในปี 2009 มีคนลงซ่อม Advanced Programming รวมแล้ว 100 กว่าคน
  • สอบชาตินี้ เกรดออกชาติหน้า

ความเชื่อ[แก้ไข ]

  • ถ้าคุณเจอตัวเงินตัวทอง(ตัวเห้) คุณจะได้เกรด A ถ้าเจอเต่าก็แปลว่านั่นแหละ F
  • อีกความเชื่อถ้าเห็นพี่เห้ลงน้ําได้ F ขึ้นจากน้ําได้ A นะจ๊ะ <<< ถ้าเจอมันอยู่บนบกเฉยๆ อ่ะ <<< อยู่ดีๆก็ F เฉยเลยจ้ะ
  • ลอยกระทงที่เรือนไทย ลอยกะกิ๊กแล้วจะเลิกกัน
  • ใต้ตึกอธิการเป็นบ่อน้ํา และมีงูเหลือมอาศัยอยู่ ตัวขนาดรับประทานคนได้
  • หลายๆเรื่องราวในคืนมหิดล <<< ถ้าได้เข้าม.ล่ะก็ไม่ต่างจากมหาลัยร้างเลยล่ะ

เรื่องลึกลับ[แก้ไข ]

  • มหิดลศาลายา เค้าว่ากันว่าผีดุมากเนื่องจากมีประวัติมายาวนาน พระผู้ใหญ่ท่านนึงเปรยว่า พุทธมลฑลแสงสว่างสุขใส แต่โรงเรียนเจ้าฟ้ามหิดลฯ (หมายถึงมหิดลศาลายา) มืดครื้มมัวหมองเสียนี่
  • เชื่อกันว่าในคืนวันมหิดล (24 กันยายน)นักศึกษา SI ที่นอนเตียง C ในหอจะเจอของดีหากนอนในคืนนั้น เนื่องมาจากนักศึกษา SI ที่ถูกรถชนตายจะกลับมาเตียงเดืมของเขา บางกระแสบอกด้วยว่าให้พยายามหาของไว้บนเตียงไม่ให้ว่าง ระวังไว้ก็แล้วกันคืนวันมหิดล หึหึ
  • วันมหิดล หมาในวิทยาเขตศาลายาหอนทุกปี และจะว่ารถรับส่งเด็กจากศาลายาไปทําธงที่ศิริราชมีคนอยู่เต็มคันรถ ทั้งๆ ที่จริงๆ รถนั่นกําลังจะเข้าอู่
  • ว่ากันว่าอาคาร 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ (EG) เคยมีคนตาย!!! มีคนเคยเห็นหญิงสาวชุดขาวรางๆ ยืนที่หน้าต่างบริเวณหน้าตึกฝั่งที่หันออกถนน ปัจจุบันมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมไปแล้ว มองมากไปไม่ดีนะ
  • หอพักชายมีห้องน้ําห้องหนึ่งเคยมีแม่บ้านผูกคอตาย ไม่รุ้ว่าด้วยเหตุผลกลใด เจ้าหน้าที่หอไม่เคยปริปากใดๆ ระวังให้ดีเถอะ ใครที่อาบน้ําดึกๆ อาจมีเชือกห้อยลงมาจากเพดานก็ได้นะ เหอๆๆ
  • ในอดีตศาลายาเป็นที่ๆ โรคห่าระบาด คนตายเป็นอันมาก ทางการต้องสร้างศาลาแล้วเอายาแขวนไว้ให้เพราะไม่มีใครกล้ามาให้ยาเอง จนเป็นที่มาของชื่อศาลายาในที่สุด
  • เรือนไทย ที่เป็นฉากถ่ายหนังถ่ายละครบ่อยๆ เค้าว่ากันว่า ดึกๆมักจะมีเสียงดนตรีไทยแว่วๆ ลอยมาอยู่เสมอ
  • เด็ก MS คนนึงเจอคนเดินหายเข้าไปในต้นไม้ที่สวนจิงโจ้
  • ในปี 2544 ที่หอ 8 ชั้นสองเคยมีเด็ก EG คนนึงกระโดดตกจากเตียงชั้นสอง เพราะว่าเจอผู้ชายครึ่งตัวโผล่มาที่ข้างเตียง และอีกห้องนึงที่ชั้นเดียวกันมักมองเห็นคนอยู่ในห้องทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่มีใคร
  • ในปี 2544 มีเหตุนักศึกษาและบุคคลตกตึกเกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยจํานวนสามครั้งด้วยกัน ครั้งที่หนึ่งเป็นการฆ่าตัวตายของนศ.พยาบาลที่หอพยาบาลตรงประตูสาม (รุ่นเก่าจะเรียกประตูด้านคณะสัตวแพทยศาสตร์ว่าประตูสาม) โดยเหตุเกิดในเทอมแรกของปีการศึกษา หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีนักศึกษาร่ําลือว่าเจอนศ.พยาบาลคนดังกล่าวยังวนเวียนภายในหอพยาบาลที่เป็นสถานที่สุดท้ายที่เธออยู่ก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป
  • นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่ามาว่าหลังจากที่เธอเสียไปแล้ว บรรดารูมเมทของเธอที่หอ 2 (นศ.พยาบาลพักอยู่หอ 2) ได้ย้ายออกจากห้องเนื่องจากกลัววิญญานของเธอกลับมาหา ซึ่งก็เป็นดังคาดการณ์ เธอได้กลับมาที่ห้องของเธอ แต่อาจจะเป็นเพราะเธอกลับมาแล้วไม่พบใคร จึงเกรงว่าจะกลับมาผิดห้อง เธอจึงเดินลงไปอีกห้องที่อยู่ด้านล่างที่อยู่ชั้น 2 จากคําบอกเล่าของเจ้าของห้อง นศ.เจ้าของเรื่องได้บอกว่าเธอตื่นขึ้นมากลางดึกและพบเห็นวิญญานของนศ.พยาบาลที่เสียไปแล้วเดินทะลุเข้ามาในห้องและมองไปที่เตียงต่างๆ เพื่อดูว่าเป็นรูมเมทของเธอหรือไม่ ซึ่งเมื่อเธอเห็นว่าไม่ใช่เธอจึงเดินทะลุกลับออกไปจากห้อง
  • เหตุการณ์ในปี 2544 ครั้งที่สอง ที่เกิดต่อเนื่องจากเหตุการณ์แรก นักศึกษาคณะ EG ได้พลัดตกลงมาจากชั้นสามของหอ 9 เป็นเหตุให้เสียชีวิต จากการสอบสวนพบว่าในเวลาประมาณ 3.00 น. นักศึกษาคนดังกล่าวได้ปีนออกไปที่ระเบียงเพื่อจะเก็บเงินที่ปลิวออกไปนอกระเบียง แต่เสียหลักเป็นเหตุให้ตกลงมาจากระเบียงชั้นสาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้มีกลุ่มนักศึกษามาพบและนําตัวนศ. EG ส่งรพ. แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวทําให้สิ้นใจในตอนรุ่งสาง
  • หลังเกิดเหตุ ได้มีเรื่องเล่าต่อมาว่า นศ. EG คนดังกล้าวได้เข้าฝันกับเพื่อนสนิทและบอกว่า แท้ที่จริงแล้ว ที่เค้าตกลงไปเพราะโดนวิญญานของนศ.พยาบาลที่เพิ่งเสียชีวิตดึงให้ตกลงไปจากระเบียงนั่นเอง
  • มีีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เคยมีนักร้องลูกทุ่ง ชื่อดังคนหนึ่ง เคยมาจัดคอนเสิรต์แถว ๆ ประตู 6 (ใกล้ ๆ ที่ พักร่างอาจารย์ใหญ่) แล้วพูดเล่น ๆ ว่า ขอเชิญอาจารย์ใหญ่ลุกขึ้นมาเต้น ปรากฏว่าไฟดับทั้งม.เลยจ้า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์[แก้ไข ]

  • องค์พระหน้าหอ เดินผ่านกันทุกวัน แต่จะแน่นขนัดช่วงใกล้สอบ
  • พ่อปู่ขุนจันทุ่ง หรือเจ้าพ่อว่าว หรือเจ้าพ่อต้นไทรข้างตึกอินเตอร์ ที่พึ่งทางใจอีกที่ที่คนชอบไปบนบานศาลกล่าว ขอให้จบมั่ง ขอให้สอบผ่านมั่ง(และมักจะได้ด้วยนะ)

"ของเขาแรงจริงๆครับ ผมเคยลบหลู่ทีนึง สอบเข้าMUICไม่ได้เลย ไม่รู้พรุ่งนี้ผมจะเจออะไรอีก "

~ นิรนาม

ของกิน[แก้ไข ]

  • เด็กในคณะ MS (ดุริยางคศิลป์) ชอบกินไข่คนกะข้าว (ไม่จริงงง!!)
  • เด็ก EG กินข้าวป้าซุ้มโค้กใต้ตึกขาว ส่วนในกล่องข้าวจะมีอะไรแล้วแต่ป้าจะคัดสรรค์ (มีอะไรมาก็กินๆไป พริกน้ําปลาอร่อยมากขอบอก)

=> [54] ตอนจะจบ (หลายปีแล้ว) ป้าซุ้มโค้กหายไปแล้ว และมีร้านอื่นมาแทน(สยามสเต็กที่เด็ก ICT ชอบมาซื้อ) รวมทั้งมี เอ่อ ซุ้มอาหาร ในห้องสร้างใหม่ที่ใต้ตึกขาว แล้วมีซุ้มกาแฟ (ขมน่าดู)ด้วย แต่ ณ ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าเป็นยังไงบ้าง

  • เด็กศิล-ศาสตร์ (LA) ชอบกินข้าวหน้าไก่ทอด ไก่ย่าง คอหมูย่าง ..วันนั้นกิน ทําไมไก่แอบมีกลิ่นเหมือนกล้วยแขกด้วยว้าาาาาา
  • ที่เดียวที่จะไม่เจอเด็ก EG ปี 1 คือ โรงอาหาร EG (ราคาถูกมาก เอาไว้กินกันตาย)
  • ซูชิ MLC เป็นที่เลื่องลือ ในเรื่องของหน้าซูชิทีี่คุ้มค่ามากในราคคา สิบบาท (แต่ข้าวเสือกอัดมาไม่แน่น)

อาจารย์[แก้ไข ]

อาจารย์ เนื่องจาก นศ. มหาวิทยาลัยมหิดล แทบทุกคณะจะต้องเรียนกับคณะวิทยาศาสตร์ (SC) ตอนปี 1 ดังนั้นอาจาร์ SC จึงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในบรรดา นศ.ทั้งหลาย

1.อ.อุดม รอบคอบ เป็นหนึ่งในคณาจารย์ในมหาวิทยาลัย มหิดล ภาควิชาฟิสิกสิ์ สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ มีความรู้ทางด้านฟิสิกส์อย่างยิ่งสอนคณะต่างๆมากมาย อย่างเช่น วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ ฯลฯ แน่นอนว่าอาจารย์มีความรู้อย่างยิ่งยวดแต่เด็กที่เรียนกลับ...!?(แกสอนดีเกินไป)

2.อ.ชูสง่า สุวรรณศรี เป็นหนึ่งในคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยมหิดล ภาควิชาเคมี สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ มีสไตล์ในการแต่งกายดีเยี่ยมมากอย่างยิ่งสอนคณะต่างๆมากมาย หนึ่งในออฟชั่นของอาจารย์คือ แว่นตาดํา เพชร เพชรๆๆๆและเพชร แล้วเวลาสอนอาจารย์จะนั่งเอียงข้างๆ มองไปทางโปรเจกเตอร์ แล้วบรรยายเหมือนอยู่ในโลกของเทพนิยายเคมี แถมวกนอกเรื่องไม่เกิน 20 วินาที

3. อ.เติมศักดิ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มีเทคนิคการสอนที่สุดเริ่ด มีไมค์สองตัว ตัวหนึ่งแกถือบรรยาย ส่วนอีกตัวหนึ่งเวียนในหมู่นักศึกษา เมื่อถึงจุดใดจุดหนึ่งแกก็จะถามคําถามกับ นศ.ที่ถือไมค์อยู่ ทําให้ นศ.ใจตุ้มๆ ต่อมๆ เป็นอันมาก แต่ก็เป็นที่รักของหมู่ นศ. เพราะไม่เคยมีใครได้ F จากอาจารย์เลย


5.อ.เชิญโชค เดินให้ห่างถ้ารู้ว่าไม่ได้แต่งตัวถูกระเบียบ

6.อ.สุนันทา อาจารย์ภาควิชาเคมี (ปัจจุบันเป็นรองอธิการบดี) ที่มีวีดีโอการสอนขายดีที่สุดในห้องสมุด ประโยคที่ได้ยินจากอาจารย์บ่อยๆคือ "ใส่เสื้อเข้ากางเกงด้วย" ยึดบัตร 3 ครั้ง หมดสิทธิ์สอบ

7.อ.ซุปฯ[1]เป็นอาจารย์ที่เมพ ที่สุดในมหาลัย (ในเรื่องการทําน้ําตก)

8.คณะวิศวะ เคยมีอาจารย์ที่เป็นถึง ส.ส. พรรคการเมืองดังพรรคหนึ่ง <------ ปัจจุบันไม่ได้มาสอนแล้วเนื่องจากย้ายไปอยู่บ้านเลขที่ 111

9.และคณะวิศวะ มีอาจารย์ที่เป็นถึงบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง

10. คณะวิศวะ (ภาคเครื่องกล) มีอาจารย์ท่านหนึ่งเหมือนกับศาสตราจารย์สเนป ในแฮรี่ พอตเตอร์ มาก ด้วยความที่มีท่าทางเย็นชา นักศึกษาแม้แต่อาจารย์หลายคนยังกลัวไม่กล้าเข้าไปยุ่งด้วย ว่ากันว่าแก suffer จากการเรียนปริญญาเอกไม่จบ เมื่อกลับมาเลยเพี้ยนๆ ปัจจุบันหายตัวไปโดยไม่มีใครทราบว่าไปอยู่ที่ไหน

11. อ.ระพี อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มีแฟนคลับเป็นนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ (NS) เกินครึ่งคณะ สิ่งที่นักศึกษาชอบมากที่สุดในการสอนของอาจารย์คือ เสียง (หล่อ =.,=) เพราะฉะนั้น...ในชั้นเรียนก็พยายามอ้อนให้อาจารย์ร้องเพลงให้ได้ แต่การออกข้อสอบไฟนอลของอาจารย์ก็ช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน อย่างที่เขาพูดกันว่า คนน่ารักมักใจร้าย (จริงๆ)

บทความที่เกี่ยวข้อง[แก้ไข ]


สถาบันการ(削除) (削除ここまで)ศึกษาในประเทศไทยและประเทศเทย แก้
มหาวิทยาลัย

กาฬสินธุ์ | กรุงเทพ | เกริก | เกษตรศาสตร์ | เกษมบัณฑิต | ขอนแก่น | คริสเตียน | จุฬาลงกรณ์ | เจ้าพระยา | ชินวัตร | เชียงใหม่ | เซนต์จอห์น | ทักษิณ | เทคโนโลยีปทุมวัน | พระจอมเกล้าลาดกระบัง | พระจอมเกล้าธนบุรี | พระจอมเกล้าพระนครเหนือ | เทคโนโลยีมหานคร | เทคโนโลยีสุรนารี | ธรรมศาสตร์ | ธุรกิจบัณฑิตย์ | นครพนม | นราธิวาสราชนครินทร์ | นวมินทราธิราช | นเรศวร | แสตมฟอร์ด | บูรพา | ปทุมธานี | พายัพ | ภาคกลาง | ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย | มหามกุฏราชวิทยาลัย | มหาสารคาม | มหิดล | แม่โจ้ | แม่ฟ้าหลวง | รังสิต | รัตนบัณฑิต | รามคําแหง | วงษ์ชวลิตกุล | วลัยลักษณ์ | เวบสเตอร์ | เวสเทิร์น | ศรีนครินทรวิโรฒ | ศรีปทุม | ศิลปากร | สงขลานครินทร์ | สยาม | สวนดุสิต | สุโขทัยธรรมาธิราช | หอการค้าไทย | หัวเฉียว | หาดใหญ่ | อัสสัมชัญ (เอแบค) | อีสเทิร์นเอเชีย | อุบลราชธานี | เอเชีย | เอเชียอาคเนย์ | กรุงเทพธนบุรี | เที่ยงคืน |

โรงเรียน

ป้องกันราชอาณาจักร | เสนาธิการทหาร | เสนาธิการทหารบก | เสนาธิการทหารเรือ | เสนาธิการทหารอากาศ | นายร้อยพระจุลจอมเกล้า | นายร้อยตํารวจ | นายเรือ | นายเรืออากาศ | โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา | โรงเรียนเซนต์คาเบรียล | โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย | สาธิตเกษตร | สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน | โรงเรียนนายสิบทหารบก | โรงเรียนจ่าทหารเรือ | โรงเรียนจ่าอากาศ | โรงเรียนช่างฝีมือทหาร | โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน | โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม | โรงเรียนเตรียมทหาร | โรงเรียนเกรียนอุดมศึกษา | โรงเรียนรักษาดินแดน | โรงเรียนประตูชัย | โรงเรียนมหิดลเวทยานุสรณ์ | โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย | โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย |

รับข้อมูลจาก "https://th.uncyclopedia.info/index.php?title=ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยมหิดล&oldid=319090"