ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ยินดีต้อนรับสู่ไร้วิทยาลัยภาษาไทย
แหล่งรวมเรื่องขําขันไร้สาระเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาที่ทุกคนร่วมเขียนได้
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 05:24 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (ช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง)
เว็บย่อ: http://th.uncyclopedia.info/wiki/Un-niversity
บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ไร้วิทยาลัย , แหล่งรวบรวมเรื่องน่ารู้ เรื่องลึกลับ เรื่องไร้สาระ ของสถานศึกษาในประเทศเทย!
เรื่องทั่วไป[แก้ไข ]
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ของประเทศ สถาปนาโดยท่านผู้ประศาสน์การ ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสอดีตผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย อดีตนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศและ กระทรวงมหาดไทยและปัจจุบันองค์การยูเนสโกได้ประกาศว่าท่านเป็นบุคคลสําคัญของโลกอีกด้วย
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีชื่อเดิมว่า มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ม.ธ.ก.) ที่ต้องตัดคําว่า "และการเมือง" ออกนั้นเพื่อไม่ให้น.ศ.ฝักใฝ่การเมืองมากไป รวมระยะเวลาที่ใช้ชื่อนี้ 18 ปี
- เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่ใช้ตําแหน่งผู้ประศาสน์การ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นตําแหน่งอธิการบดี) และตําแหน่งผู้ประศาสน์การมีเพียงท่านเดียว คือ ปรีดี พนมยงค์เพื่อยกย่องท่านในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย
- อธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยเป็นนายกรัฐมนตรี คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
- จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรีก็เคยดํารงตําแหน่งอธิการบดีในขณะที่ดํารงตําแหน่งนายกฯ ด้วย
- วันสถาปนามหาวิทยาลัย คือ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 (ตรงกับวันคล้ายวันพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ เสด็จมาเป็นประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัย เพราะขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
- ที่ตั้งเดิมของมหาวิทยาลัยก่อนจะย้ายไปที่ท่าพระจันทร์คือ ตึก ร.ร.กฎหมาย กระทรวงยุติธรรม เชิงสะพานผ่านพิภพภพลีลา ปัจจุบันเป็นที่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
- นายจิตรเสน (หมิว) อภัยวงศ์ สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงเป็นผู้ออกแบบ ตึกโดม โดยความหมายของตึกโดม คือ ตัวโดมที่เป็นรูป 6 เหลี่ยม เพราะจะได้สะท้อนถึงหลักที่ 6 ในหลัก 6 ประการของคณะราษฎรคือจะต้องให้การศึกษาเต็มที่แก่ราษฎร และ ที่ยอดตัวโดมแหลมขึ้นฟ้า เปรียบโดมเสมือนดินสอ ที่จดบันทึกวิชาความรู้และเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่รู้จักจบสิ้นเอาไว้บนผืนฟ้าอันกว้างใหญ่
- ความจริงคือโดมของตึกโดมเป็นรูปแปดเหลี่ยมครับ ไม่เชื่อลองมาดูได้ที่ท่าพระจันทร์
- จุดประสงค์ในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงที่ให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย การเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวิทยาการสมัยใหม่แก่ประชาชนทุกชนชั้นโดยเก็บค่าเล่าเรียนให้น้อยที่สุด
- ตราประจํามหาวิทยาลัย คือ พระธรรมจักร เกิดขึ้นในปี 2479 มีความหมายว่าสถาบันแห่งนี้ยึดถือคติธรรมของพระพุทธศาสนาในการกล่อมเกลาบัณฑิต
สิ่งที่อยู่กลางธรรมจักรคือพานรัฐธรรมนูญ หมายถึงการยึดมั่นเชิดชูรัฐธรรมนูญ
- ต้นไม้ประจํามหาวิทยาลัย คือ ต้นยูงทอง มีอยู่ 5 ต้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเพาะชําเอง และเสด็จฯมาทรงปลูกด้วยพระองค์เอง
- บูมประจํามหาวิทยาลัย (TU Boom) เป็นภาษาฝรั่งเศส
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยมีร.ร.เตรียม เรียกว่า ชั้นเตรียมปริญญาชื่อ ร.ร.เตรียม ม.ธ.ก. (ต.ม.ธ.ก.) เพื่อผลิตนักเรียนเข้าเรียนต่อใน ม.ธ.ก. มีแค่ 8 รุ่นเท่านั้น แล้วก็ยุบไป
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยเป็นเจ้าของธนาคารเอเชียด้วย เพราะตอนแรกไม่ได้ขึ้นตรงต่อรัฐบาล จึงไม่ได้รับงบฯ และเป็นสถานที่ฝึกงานของนักศึกษาบัญชี
- คณะเริ่มแรกตั้งแต่สถาปนามหาวิทยาลัย มี 4 คณะ คือ นิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี รัฐศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์
- เพลงประจํามหาวิทยาลัยมี 2 เพลง เพลงแรกที่ใช้ คือ เพลงประจํามหาวิทยาลัยทํานองมอญดูดาว แต่งโดยขุนวิจิตรมาตรา และเพลงที่ 2 คือเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพื่อจะได้ดูเป็นกลาง แต่ไม่สําเร็จ และอีกครั้งในปี 2507 มีมติจากสภาการศึกษาแห่งชาติให้เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเป็น มหาวิทยาลัยภูมิพล โดยให้โอนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปรวมกับมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดลปัจจุบัน) และมหาวิทยาลัยศิลปากร แต่สมาคมธรรมศาสตร์มีมติคัดค้าน จึงไม่มีการเปลี่ยนแต่อย่างใด
- งานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์ - จุฬาฯครั้งแรก มีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2477 ณ ทุ่งพระสุเมรุ สนามหลวง ผลคือเสมอกัน 1-1 โดยครั้งนั้นยังไม่มีขบวนพาเหรด แปรอักษรหรือเชียร์ อย่างในปัจจุบัน
- งานฟุตบอลประเพณีปีใดที่ไหนเป็นเจ้าภาพ ก็จะเอาชื่อของที่นั่นขึ้นก่อนซึ่งการเป็นเจ้าภาพ ธรรมศาสตร์จะเป็นครั้งที่เป็นเลขคี่ จะใช้ว่า ธรรมศาสตร์ - จุฬาฯ ส่วนจุฬาฯจะเป็นครั้งที่เป็นเลขคู่ จะใช้ว่า จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์
- งิ้วธรรมศาสตร์ เป็นงิ้วล้อการเมืองโดยมีต้นกําเนิดจาก คณะนิติศาสตร์ แต่ปัจจุบันเรียกว่า งิ้วสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
- สมเด็จพระพี่นางฯ ทรงเคยเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์
- พระองค์ภาฯ ทรงเคยเข้าศึกษาในคณะนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ โดยทรงจบการศึกษาด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2
- ในอดีตหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นหอประชุมที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียอาคเนย์
- คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ได้แยกตัวออกไปเป็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
- มหาวิทยาลัยถูกปิดความเป็นตลาดวิชาลงเมื่อ พ.ศ. 2503 เป็นระบบสอบเข้าแทน
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถเคยเสด็จมาทรงดนตรีเป็นการส่วนพระองค์กับนักศึกษา มธ.
- อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยดํารงตําแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควบกับตําแหน่งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ แต่ตามระเบียบ ก.พ. นั้นข้าราชการจะทํางานพร้อมกันทีเดียว 2 แห่งได้ แต่จะได้รับเงินเดือนอีกแห่งเพียงครึ่งเดียวโดย อ.ป๋วยเลือกรับเงินเดือนคณบดีเต็มอัตรา 8,000 บาทและรับเงินเดือนผู้ว่าแบงค์ชาติครึ่งอัตราคือ 25,000 บาทแทน
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่มีผู้อัญเชิญธรรมจักรบนเสลี่ยงอย่างเช่นจุฬาฯ ในงานฟุตบอลประเพณี เพราะถือว่า ธรรมจักรอยู่ในหัวใจของนักศึกษาทุกคน โดยผู้ที่เดินนําขบวนอัญเชิญธรรมจักร เรียกว่า ทูตกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ฯ มีหน้าที่เชิญป้ายนามมหาวิทยาลัย ป้ายประกอบ และดรัมเมเยอร์ ผู้ที่ได้รับหน้าที่เดินนําขบวนอัญเชิญธรรมจักรคนแรก คือ นายชวน หลีกภัย
- จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นผู้ก่อตั้ง คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
- วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นวันธรรมศาสตร์อีกด้วย
- โขนธรรมศาสตร์ เคยใช้เป็นการแสดงในการสมโภชน์การสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร
- ลานโพ (เป็นชื่อเฉพาะไม่มี ธ์) เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของธรรมศาสตร์และสังคมไทยนับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ที่ขบวนการนิสิตนักศึกษาประชาชนร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
- ผู้มีพระคุณในเหตุการณ์ 14 ตุลา คือแม่ค้าย่านท่าพระจันทร์และปากคลองตลาด ที่จัดทําเสบียงส่งให้ตลอด
- สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เช่าที่ดินของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เนื้อที่ 1,110 ไร่เป็นเวลา 30 ปี รวมค่าเช่า 3,000 บาท
- รถโดยสารใน มธ.รังสิต คือ รถราง รอนานมากๆ บางทีไม่จอดด้วย แถมคนขับก็ดุยังกะแมว
- หอเอเชี่ยนเกมส์ เป็นหอมหาวิทยาลัยรัฐฯที่หรูที่สุด มีแอร์ เครื่องทําน้ําอุ่นยูบีซี ลิฟท์ แล้วก็เบอร์โทรศัพท์ 02 ส่วนตัวทุกห้อง ต่อเนตได้สบายๆ ค่าไฟแพงหูฉี่เลย เปิดแอร์อย่างเดียวตกช.ม.ละ 6 บาท หอเอเชี่ยนเกมส์จะมีโซน A-E แต่หอน.ศ.จะอยู่ที่โซน B C E โซน B เป็นโซนห้องละ 4 คน มี 8 หลังๆละ 8 ชั้น โซน C เป็นโซนห้องละ 2 คน มี 11 หลังๆละ 8 ชั้น เช่นกัน ส่วนโซน E มี 2 หลังๆละ 4 ชั้น
- หอในเป็นหอพัดลม อาบน้ํารวม จะมีอะไรที่เหมือนๆกับหอมหาวิทยาลัยอื่นทั่วๆไป
- ลักษณะของโดมแต่ละที่
- โดมไม้เมืองพี่ ท่าพระจันทร์
- โดมเปลือยขวัญ รังสิตทรงศรี
- โดมแก้ว ลําปางธานี
- โดมน้องพี่ เชิดชูธรรม นําผองชน
- คลื่น PCT จะมีที่หอเอฯ โซนซี อินเตอร์โซน แล้วก็บ.ร.1-บ.ร.4 แต่เดี๋ยวนี้มีเกือบทุกที่ ยกเว้นตึก SC หรือเกาะ SC ซึ่งไร้คลื่นอย่างมากกกก
- ที่ศูนย์รังสิตมีโชว์รูมรถยุโรปด้วย ไม่ว่าจะเป็น S-class, BMWseries5, เฟอรารี่ ฯลฯจะสามารถหาดูได้ที่ SIIT แต่ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นจะเป็นของอาจารย์
- SIIT กับ วิศวะ ภาคอินเตอร์ คือคนละอย่างกัน เพราะ SIIT เป็นอีกสถาบัน แต่สังกัดม.ธรรมศาสตร์ - อันที่จริง SIIT ก็สังกัดคณะวิศวะ มาก่อนที่จะแยกตัวออกไป แต่เนื่องจากป๊อบปูล่า ทางคณะวิศวะเลยเปิดหลักสูตรอินเตอร์ซะเลย
- ธรรมศาสตร์ ที่แยกออกไปจากท่าพระจันทร์แต่เดิมเรียกเป็นวิทยาเขตนะ
- ธรรมศาสตร์ มี 4 ศูนย์ คือท่าพระจันทร์ รังสิต พัทยา และลําปาง
- แต่แปลกที่ "ท่าพระจันทร์" ไม่มีคําว่า ศูนย์ นําหน้าเหมือนศูนย์อื่นๆ
- ในสมัยที่คุณหญิงนงเยาว์ เป็นอธิการบดี เคยมีการปิดโรงอาหารกลางตอนกลางคืนเพื่อเป็นเธค ให้ความผ่อนคลายแก่ น.ศ.ด้วย
- ธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่มีห้องสมุด อยู่ชั้นใต้ดิน ชื่อหอสมุดปรีดี พนมยงค์ ที่ท่าพระจันทร์*แก้ไข มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขต วังท่าพระ ก็มีหอสมุดที่อยู่ชั้นใต้ดิน
- มีการขุดพบปืนใหญ่หลายกระบอกเมื่อครั้งก่อสร้างประตูใหม่ ที่ต่อจากกําแพงโบราณ ด้านถ.พระจันทร์
- มีการขุดพบแนวกําแพงเมืองเก่า ในขณะสร้างอาคาร 60 ปี และลานจอดรถใต้ดิน หน้าคณะรัฐศาสตร์
- ชื่อของโรงพยาบาลประจํามหาวิทยาลัย เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- ในปี 2550 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อนโดยใช้ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเป็นสถานที่หลักจัดการแข่งขัน
- ที่จะลืมไม่ได้เลย ในปี 2541 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ก็ใช้ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเป็นสถานที่จัดการแข่งขันด้วย
- อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ฉายาคนของแผ่นดิน ผู้เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตอย่างสมถะ และสันโดษ ก็เคยดํารงตําแหน่งอธิการบดี
- สามอนุสาวรีย์คนดีศรีธรรมศาสตร์ และประเทศไทย อยู่ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้แก่ อาจารย์ปรีดีอยู่ที่หน้าตึกยิม 2 อาจารย์ป๋วยหน้าตึกเรียนรวม (SC) และอาจารย์สัญญาอยู่หน้าตึกคณะนิติศาสตร์-คณะรัฐศาสตร์
---> ปรีดีก่อตั้งมหาลัย แต่รูปปั้นอยู่ไกลปืนเที่ยงมากๆ - -
- ธรรมศาสตร์ เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพทุกตารางนิ้ว ปลอด SOTUS แน่นอล (เออ แต่ถ้ารุ่นพี่มันแอบโซตัสน้องสามารถแจ้งสภานักศึกษาได้เลยเพราะเมื่อเรื่องดังเมื่อไหร่พวกนั้นจะโดนลุมประนามจากทั้งมหาวิทยาลัย)(แต่ระวังพวกคณะสายวิทย์อะ ชอบทรยศแอบโซตัสไม่ก็ทําไรปัญญาอ่อนกับน้อง น่าส่งพวกนี้ไปอยู่ ม.เกษตรจริงๆ - ยังคงเห็นประปราย แต่แจ้งได้ถ้าอยากจะแจ้ง)
- คําขวัญอมตะของธรรมศาสตร์ คือ ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรัก(เธอ)ประชาชน
- นักศึกษาไม่จําเป็นต้องใส่ชุดนักศึกษามาเรียนก็ได้ แต่อาจจะยกเว้นบางวิชาแต่ตอนนี้ได้มีการรณรงค์ให้แต่งชุดนักศึกษา
- มีผู้เคยกล่าวไว้ว่า ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็คือประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์
- ธรรมศาสตร์ เป็นที่เรียนที่มีตั้งแต่อนุบาล-ปริญญาเอก << ตั้งแต่เกิดจนตายเลยเหอะ โรงพยาบาล-วัด ก็มีให้พร้อมสรรพ เป็นมหาอาณาจักร
- ธรรมศาสตร์ ไม่เรียกผู้ที่ศึกษาที่นี่ว่า นิสิต เพราะถือว่าการเป็นนิสิตเป็นการถูกกําหนดขอบเขต โดยจะเรียกว่า นักศึกษา แทน (นิสิตใช้กับ ม.ที่ใช้นามพระมหากษัตริย์มาเป็นชื่อสถาบันไม่ใช่เหรอ???)
- ธรรมศาสตร์ ยังไม่มีคณะสัตวแพทยศาสตร์ แต่คาดว่ากําลังจะมี
- ค่าไฟแต่ละเดือนของธรรมศาสตร์ ไม่ต่ํากว่า 8 ล้านบาท จึงต้องมีโครงการธรรมศาสตร์ หาร 2
- หอจดหมายเหตุธรรมศาสตร์ อยู่ตรงข้ามหอสมุดปรีดี ที่ท่าพระจันทร์
ถ้าต้องการศึกษาประวัติมหาวิทยาลัยตั้งแต่ ปี 2477 ก็สามารถดูได้จากที่นี่ (แก้ไข)ปัจจุบันอยู่ที่ชั้น3 ตึกสถาบันนานาชาติปรีดีฯ ครับ
- ศาลเจ้าแม่สิงโตทอง ซึ่งเป็นที่เคารพ สักการะของน.ศ.คณะรัฐศาสตร์และคณะอื่นๆ อยู่ริมฝั่งแม่น้ําเจ้าพระยา บริเวณอาคาร 60 ปี
- น.ศ.ที่อยู่หอพักที่ศูนย์รังสิต จะต้องทําการย้ายทะเบียนบ้านเข้าหอเพื่อที่ธรรมศาสตร์ จะได้ทําคุณประโยชน์ให้กับชุมชนคลองหลวงบ้าง (ใส่ให้มีเงินเยอะๆว่างั้นเถอะ)
มีอาจารย์หญิงโหดคนหนึ่งคุยให้ฟังว่ามหาลัยชนะคดีนักศึกษาไม่ย้ายทะเบียนบ้านมาทั้งๆที่อยู่หอใน จริงเท็จยังไงไม่รู้ แต่ไม่เคยเห็นคําพิพากษา
- สํานักงานจัดการทรัพย์สินฯ มีอีกชื่อหนึ่งคือ สํานักงานดูดทรัพย์สิน ยิ่งตอนบิลค่าไฟมานี่ยิ่งดูดหนัก
-->ห่านจิก มีคิดค่าไฟเกินด้วยนะ ระวังไว้ เห็นผิดแปลกอะไรไปค้านเลย
- อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ของธรรมศาสตร์ รังสิต เรียกเป็นที่ติดปากนักศึกษาว่า สวทช.
- แฟนพันธุ์แท้โขนไทย อยู่ปี 1 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ และแฟนพันธุ์แท้ห้างสรรพสินค้า ก็เพิ่งจบคณะรัฐศาสตร์ สาขาบริหารรัฐกิจ และแฟนพันธุ์แท้โลกของเรา อยู่คณะนิติศาสตร์ ปี 2(รหัส 50)
--> ปัจจุบันแฟนพันธุ์แท้โลกของเราจบมาเป็นอาจารย์อยู่คณะนิติ ตอนนี้เรียนต่อเยอรมัน เสียงยังเล็กเหมือนเดิม
- ตึกเรียนที่หรูที่สุดในศูนย์รังสิต คือ ตึกคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (ตึก 4 ชั้น) หน้ามหาวิทยาลัย (ตอนนี้ย้ายมาอยู่กลุ่มอาคารเรียนทางสังคมศาสตร์แล้วนี่<<ช่ายแล้น)
- ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีโครงเสาเหล็กมาตั้งแต่พี่ปี 5 อยู่ปี1จนปัจจุบันโครงเสานี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม (ตอนนี้เสร็จแล้ว เปิดใช้มาปีกว่าแล้ว)
- หอเอฯ โซนบี มักจะมีเริ่องเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติมาโดยตลอด (บี6 ได้ชื่อว่าเฮี้ยนสุดแล้ว)
- นาฬิกาลูกตุ้มบนตึกโดม มีชื่อว่า นาฬิกาปารีส ได้รับบริจาคจาก ห้างเอส.เอ.บี
- เหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 มีผู้เสียชีวิตมากมายและนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่า 14 ตุลาคม 2516มากเนื่องมาจากท่านอธิการบดีในขณะนั้น คือ อาจารย์ป๋วย ถูกกล่าวหาโจมตีว่าฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ จนตัวท่านต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
- ลงทะเบียนเรียนทางเทเลแบงค์ 1551 เป็นอะไรที่ต้องใช้ความอดทนสูงในการกดโทรศัพท์พอๆ กับลงทะเบียนเรียนเพิ่มกับเจ้าหน้าที่สํานักทะเบียน (ที่แสนจะใจดี๊ใจดี)
- ลงทะเบียนกับคณะไม่ต่างกัน ชีวิตเหมือนเดินไปคุยกับผู้คุมวิญญาณ อดสงสัยไม่ได้ว่าชาติก่อนเคยตีหัวกันมาหรือเปล่า
- การเดินขบวนเรียกร้องดินแดนอินโดจีน จากฝรั่งเศสคืน เป็นการเดินขบวนครั้งแรกของน.ศ.ธรรมศาสตร์
- อาจารย์ป๋วย เป็นศิษย์เก่าม.ธรรมศาสตร์ คนแรก ที่ได้เป็นอธิการบดีม.ธรรมศาสตร์
- 8 ธ.ค. 2484 ธรรมศาสตร์ แพ้ฟุตบอลประเพณีกับจุฬาฯเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2477 ทําให้อาจารย์ผู้คุมทีมถึงกับหัวใจวายถึงแก่กรรม
- ปลายเดือน ก.ย. 2545 เกิดฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ทําให้ต้นโพธิ์ธรรมศาสตร์ ที่ลานโพ ท่าพระจันทร์ ฉีกกลางลําต้น
- ถึงแม้ว่านักศึกษาบางคณะจะไม่ได้ศึกษาที่ท่าพระจันทร์แต่ความเป็นจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ก็ได้รับการถ่ายทอดและหล่อหลอมให้กับนักศึกษาทุกคนเสมอมา
--> สังเกตได้จาก ปฐมนิเทศทีไร รับเพื่อนใหม่ทีไร ก็แห่กันมาท่าพระจันทร์ ทั้งๆที่ไม่มีโอกาสมาเรียน(ถ้าไม่ซัมเมอร์)
- นกเพนกวินกับหมีขาวสามารถมีชีวิตในห้องสมุดป๋วยได้ เพราะแอร์เย็นเหลือเกิน <<< หอสมุดปรีดีชั้น U3 ก็พอๆกันครับ
- คณะเศรษฐศาสตร์ที่ท่าพระจันทร์เมื่อหลายปีก่อน มีตึกเรียนเพียงตึกเดียว มี5 ชั้น ที่ใช้เรียนได้มีแค่ ห้องใหญ่ชั้น 1 กับห้องบนชั้น 2ประมาณ5-6ห้องเท่านั้น แต่นักศึกษาตั้งแต่ปี2ถึงปี4รวมถึงนักศึกษานอกคณะ สามารถยัดกันไปหมุนเวียนเรียนกันได้ครบ สมแล้วๆกับนิยามของเศรษฐศาสตร์"ใช้สิ่งที่มีอยู่จํากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด"
- ห้องสมุดคณะ SIIT เสียงดังกว่าตลาดนัด เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่เสียงดังที่สุดในไทย<<<อยากวัดกับห้องสมุดป๋วยมาก
- มิเตอร์ไฟของหอพักเอเชียนเกมส์ หมุนเร็วเหมือนพายุทอร์นาโด (พอมีคนไปร้องเรียน มันก็ล็อคห้องไม่ให้ดูได้ซะงั้น)
- จํานวนผู้เข้าหอป๋วยในยามปกติประมาณ 6-7 ร้อยคนต่อวัน ในขณะที่ช่วงใกล้สอบประมาณ 4 พันกว่าคน มากกว่ากัน 6-7 เท่า!!!
- 7-11 ใน มธ.ศูนย์รังสิต มี 7 ที่ (10แล้ว) คือ
- 7-11 โรงกลาง โดยอยู่ข้างๆ โรงอาหารกลางของมหา'ลัย (คนเยอะมากกก ทุกเวลาจนหอปิด)
- 7-11 โซน B อยู่หน้าหอพัก B6
- 7-11 โซน C ซึ่งอยู่ตรงหอพัก C4 (ตอนที่คนเยอะสุดๆ พนักงานจะรูดปุ่มโชว์)
- 7-11 ปั้มน้ํามัน ซึ่งอยู่ตรงปั้มน้ํามันใกล้ๆเชียงราก
- 7-11 อินเตอร์พาร์ค อยู่ตรงหอทรงพิเชษฐ์ด้านนอกมหา'ลัย
- 7-11 บริเวณคณะแพทยศาสตร์ หน้ามหา'ลัย
- 7-11 หน้าลานอินเตอร์โซน ที่เพิ่งเปิดใหม่ปี 2553
- 7-11 โรงอาหารSC พึ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน มิย 2554
- 7-11 บริเวณใต้อาคาร บร.1
- 7-11 บรเวณใต้อาคาร บร.4
- SIIT ไม่สามารถไปจอดรถที่ วิศวะไทยได้ เพราะ ยาม วิศวะไทยจะไม่ให้ แต่...เด็กคณะวิศวะสามารถเอารถมาจอดที่ SIIT ได้ ไม่รู้ทําไมเนอะ---ไม่จริง ที่จอดรถวิศวะอยู่ทางด้านหลัง ใครก็สามารถจอดได้ส่วนที่มียามนั้นเป็นที่จอดรถของอาจารย์ เหมือนกับ SIIT ที่จอดรถของอาจารย์ก็ไม่ให้นักศึกษาจอดได้เช่นกัน
- งานกีฬา บอล-บาส หล่อชนหล่อวิศวะไทย-SIIT มักจะมีแต่ผู้หญิงมาดู
- sweetduck และ เกียงไกร อยู่มานานที่สุด<<<ล่าสุดสองอันนี้หายไปแล้ว
- กระฉ่อน 89 เป็นร้านแรกที่มีชีวาสขาย<<<หายไปแล้วเช่นกัน
- อ. SIIT ทุกคนต้องจบดร. เท่านั้น << ต้องดร. จากม.ที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศด้วยนะ ไม่รับม.ในไทยจ๊ะ
- ชุดนักศีกษา เป็นเครื่องหมายว่า เรามีสอบ (ตรรกะนี้ใช้ไม่ได้ประมาณสองอาทิตย์นับจากเปิดเทอม...ง่ายๆ เห่อชุด = =)
- นักศีกษา SIIT และ MUIC มักจะ แลกเปลียนกันแต่สุดท้าย มักจะไปจบที่ ABAC << ส่วนใหญ่ transfer ไปจบม.รังสิตเยอะกว่า
- UFM จะมีที่ คณะนิติศาสตร์และ SIIT และอีกที่นึงก็ข้างๆหอป๋วย (U หอป๋วยตอนนี้ปิดไปแระ เพระหอป๋วยซ่อมหลังคา เมื่อไหร่จะเปิดแว๊..ขอโทษที่วิบัติ)
- ธรรมศาสตร์จะมีทะเบียนรถป็อบเป็นของตัวเองและสามารถนําไปใช้ข้างนอกได้
- ยํามาม่ากลมเกียว ไม่มีสาขา มีแต่เลียนแบบ ===> ที่ไหนอ่ะ อยากรู้จัก
- มธ. ศูนย์พัทยา เป็นสถานที่ ที่นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่เคยไป
- นิสิต นักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยลงความเห็นว่า มธ.ศูนย์รังสิต ร้อนที่สุด << แต่ตอนนี้มีคนบอกว่า ม.นเรศวร นรกยิ่งกว่า
- นิสิตจุฬาฯ มาเดินยังบ่นเลย สงสัยคงจะไม่ชินกับแดดรังสิตกระมัง คงชินกับแดดอ่อนๆที่สามย่านมากกว่า (ฮา) << ก็บ้านเขาเจริญ มีตึกสูงๆ ให้บังแดดบังลม
- แต่จุฬาก็ไม่มีทางสัมผัสบรรยากาศ country สไตล์เมืองมหาวิทยาลัยแบบชาวเรานะจ้ะ อิอิ
- หากจะบอกว่ารังสิตบ้านนอกคุณคิดผิด รังสิตมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการประดุจเมืองธรรมศาสตร์ (เรียนอนุบาลยันด๊อกเตอร์ตายก็มีวัดบริการเผา)
- แต่อยากสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคใจกลางกรุงที่จุฬาก็ไม่สามารถสัมผัสได้ขอแนะนําธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ บรรยากาศดีใจกลางกรุงรัตนโกสินติดริมแม่น้ําเจ้าพระยา (อากาศเย็นสบายวิวดีเวอร์) เพียบพร้อมไปด้วยวังและของกินสไตล์ย้อนยุค
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย[แก้ไข ]
- มธ. ไม่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่จะเรียกว่าเพื่อนใหม่ เพราะถือว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่ของคณะบางที่ก็แอบมี SOTUS เช่นคณะสายวิทย์ หรือ อินเตอร์)
- ศิลปศาสตร์อินเตอร์/โครงการพิเศษบางเอก ยังคงใช้ระบบ SOTUS อยู่ และดูเหมือนจะใช้ต่อเพราะใช้คราบกัมบังของศิลปศาสตร์ใหญ่ป้องกันการตรวจสอบไว้
- พยาบาล ก็ยังใช้ SOTUS อยู่ โดยเรียกช่วงนั้นว่า ตรวจระเบียบ
- ล่าสุดคือเภสัช นางอ้างว่าเอามาจากแพทย์แต่ขอโทษที แพทย์เขาไม่มีโว้ยยยย
- วิทยาบางเอก ก็รุนแรงไม่ใช่น้อย
- วิศวะ นัดน้องร้องเพลงที่บันไดคณะซึ่งทําไมเราต้องร้องวะ
- สาธา พยายามพีอาร์ว่าไม่โซตัสแต่กระนั้น ก็โซตัสอยู่ดีจ้า
- ทันตะ เคยโซตัสแต่ปัจจุบันยกเลิกแล้ว
- สหเวช โซตัสแต่เบา (ยกเว้นพวกกีฬา)
- ในอดีตนักศึกษาสามารถใส่ชุดนอนไปเรียนได้ในบางวิชา แต่ตอนนี้ทําไม่ได้แล้วหล่ะ
- มธ. หอเอเชี่ยนเกมส์จะมีวันเปิดหอ ซึ่งผู้หญิงสามารถขึ้นหอชายได้ซึ่งวันนี้มีคนตั้งฉายาให้ว่าวันปล่อยผีเพราะว่าหอผู้ชายมักจะมีผู้หญิงมาต่อคิวลงชื่อขึ้นหอผู้ชายยาวเป็นกิโล ส่วนหอผู้หญิงผู้ชายไม่ค่อยขึ้นกันมีแต่หอผู้ชายที่มีผู้หญิงจะมาขึ้นหอกันแถมผู้หญิงที่มาสวยซะด้วย<<<ไม่มีแล้วอ่ะ อยากให้มี
- ที่อาคารเรียนรวม (SC) เคยมีป้ายแปะไว้ว่า "สายเดี่ยวห้ามขึ้นลิฟท์!"
- ที่ท่าพระจันทร์ โรงอาหารริมน้ําใต้ตึก 60 ปี เด็กรัฐศาสตร์จะเรียกโรงอาหารรัฐศาสตร์ เด็กเศรษฐศาสตร์ก็เรียกว่าโรงอาหารเศรษฐศาสตร์ ผู้ที่ไม่เคยมาจงเข้าใจไว้ว่าเป็นอันเดียวกัน
- ห้องสมุดรัฐศาสตร์ เสียงดังมากกก ส่วนใหญ่ใช้ประชุมงานกัน เพราะเป็นห้องแอร์เดียวที่เปิดตลอด
- ยามทางเข้าฝั่งถนนพระอาทิตย์โหดมากกกกก แต่ความโหดลดลงได้ด้วยน้ําสีชาหนึ่งขวด
- เค้าเล่ากันว่า ความจริงมีแนวโน้มจะทําที่จอดรถได้ตินตรงสนามบอล แต่กลัวขุดไปแล้วเจอซากเมืองเก่า แล้วจะโดนกรมศิลป์สงวนไว้ เหมือนหน้าคณะรัฐศาสตร์ เลยไม่ขุดดีกว่า
- ตึกบัญชี เรียกกันว่า ตึกตู้ปลา จริงๆแล้วเด็กบัญชีเรียกกันว่า ตึกรังผึ้ง ต่างหาก
- ป้ายชื่อคณะรัฐศาสตร์บนยอดตึกมองจากฝั่งศิริราช ใหญ่กว่าชื่อมหาวิทยาลัยมากมาย
- ผนังตึกคณะศิลปศาสตร์ลอกข้อความในหลักศิลาจารึกพ่อขุนหลักที่หนึ่งมาสลักไว้ ซึ่ง อ.ชาญวิทย์ เกษรศิริ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์เคยบอกว่าเขียนผิดไป 2 ตัว
- ใครคุ้นเคยกะราคาอาหารที่จุฬา มาเจอที่โรงอาหาร SC ที่รังสิตอาจช็อกตายได้ (ถูกกว่าเหรอ เปล่า...)
- บนดาดฟ้าตึกศูนย์ภาษาเป็นมุมที่มองเห็นตึกโดมได้สวย ติดอันดับต้นๆของมุมอื่นๆในมหาลัย ไม่เชื่อลองขึ้นไปดู
- ลีดธรรมศาสตร์ผู้ชายจะหน้าตาเห่ยๆ ทั้งที่ตอนคัดตัวมีหล่อๆเพียบ แต่ไม่เคยเข้าตากรรมการ เพราะที่นี่เค้าคัดตัวด้วยวิธี "พิเศษ" ถ้าตาสีตาสาเดินเข้ามาสมัครให้ซ้อมแทบตายก็ไม่ได้หรอก
- ลีดธรรมศาสตร์ คนไหนที่ผ่านงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณามาก่อน จะมีโอกาสได้เป็นลีดสูงมาก
- หอสมุดกลางที่ท่าพระจันทร์เป็นหอสมุดชั้นใต้ดินที่ดูดีมีคลาส แถมอยู่ติดแม่น้ําเจ้าพระยา เลยใช้เป็นเรื่องโจ๊กหลอกเพื่อนๆต่างมหาลัยว่า ผนังด้านหนึ่งของหอสมุดจะเป็นกระจกสามารถมองเห็นโลกใต้เจ้าพระยาได้ด้วย พวกมันก็ตื่นเต้นกันใหญ่
>>ตอนนี้เรื่องโจ๊กกลายเป็น มอกุมีอุโมงค์นะ มาหาจิ ซึ่งแน่นอนหาไม่เจอหรอก ล้อมด้วยน้ําขนาดนั้น ทําอุโมงค์ไงวะ
- สมัยเปิดใหม่ๆเป็นหอเชื้อรามากกว่าหอสมุด แต่ยังก็มีหนอนหนังสือเสี่ยงตายเข้าไปอ่านหนังสือ หยิบหนังสือมาอ่านเชื้อราพุ่งมาถีบหน้าทีเดียว ใช้เวลาอยู่นานโคตรกว่าจะปราบได้
- ครั้งหนึ่ง สมัยเรียนภาษาอังกฤษที่ตึกโดม (รังสิต) ใครใส่ชุดไปรเวทจะโดนจับ ถึงขนาดไล่ต้อนกันอุตลุต
- คาบที่ต้องไปเรียนที่ บร. (อาคารบรรยายรวม หรือเรียกว่า บรรทมรวม) ใครมาก่อนมักจะวางหนังสือ สมุด จองที่ให้เพื่อนในกลุ่มของตัวเอง น่าเบื่อมาก
- ถ้าคุณพบเห็นนักศึกษาจํานวนมาก ใส่ชุดนักศึกษาในช่วงปิดเทอม จนรู้ไว้เลย ว่านั่นคือคณะแพทย์ ที่ยังคงเรียนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคณะอื่นจะปิดเทอมไปกันหมดแล้วก็ตาม
- อาคารเรียนรวม SC มีที่มาจาก Sleeping Class
- บร.4 ครั้งหนึ่งคือโรงหนังชั้นดี ที่มีหนังซูมใหม่ๆมาฉายให้เด็กหอดูทุกอาทิตย์
- ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต มีค่าเท่ากับเซ็นเตอร์พอยต์ ของธรรมศาสตร์ แต่ถ้าอยากอวดคนอื่น ต้องบอกว่า มหาลัยอยู่ติดกับตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ตลาดไท)
- การสัญจรระหว่างการไปเรียนท่าพระจันทร์ รังสิต ครั้งหนึ่งยุ่งยาก ลําบาก ถึงขั้นต้องไปขึ้นรถไฟที่หัวลําโพง แล้วไปลงที่สถานีเชียงรากน้อย วันไหนมีเรียนทั้งสองที่ในวันเดียว วันนั้นคือวันนรกมาก เพราะเวลาชีวิตหมดไปกับการนั่งรถ
- เวลาไปเรียนที่ศูนย์รังสิต ต่อให้คุณหลับลืมโลกแค่ไหน จะมีสัญญาณเตือนคุณว่าใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ด้วยด้วยกลิ่นหอมจรุงใจ ที่ไม่มีวันลืมเลือนแถวๆ ม.กรุงเทพ (ซึ่งมีโรงงานไก่แช่แข็งอยู่ตรงข้าม)
- คณะวิทยาศาสตร์ เป็นคณะเดียวในมหาลัยที่ไม่มีตึกคณะเป็นของตัวเอง ปัจจุบันยึด บร.2 - 5 เป็นตึกคณะ
- ป้ายคณะวิทยาศาสตร์ ได้มาจากเงินเรี่ยไรของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วรุ่นแรกๆ มิฉะนั้นก็ยังไม่มีอยู่
- คณะวิทยาศาสตร์ได้เงินจัดสรรในแต่ละปีเพื่อทํากิจกรรม ได้ปีละ 3 หมื่นบาท หรือตกคนละ 5 บาท ในขณะที่คณะนิติศาสตร์ได้ปีละ 2 ล้าน
- 7-11 ใน มธ. ไม่มีเหล้า บุหรี่ และถุงยาง แต่มีชุดทดสอบการตั้งครรภ์
--> อนามัยแจกถุงยางฟรี แต่ไม่ค่อยมีคนไปหยิบ แต่ลอว์สัน-เซเว่น ขายเป็นแพ๊คๆละ 40 กว่าบาท บางวันหมด! --> แต่แจกฟรีในวันงานตอนไฟดับนี่พีคนะ บอกน้องๆว่ารีบมาหยิบ ไฟติดแล้วเราไม่รู้จักกันนะ จากเต็มตะกร้า หมดทุกไซส์ เหลือเจลหล่อลื่นสามอััน
- คณะถาปัดของมธ.มีชื่อเต็มๆว่า คณะสถาปัยกรรมศาตร์และการผังเมือง โดยผู้ยื่นขอก่อตั้งคณะถาปัดจบถาปัดจุฬา สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์
- คณะถาปัดรุ่นแรกๆเคยเป็นสาขาหนึ่งของคณะวิดวะ แต่ต่อมาในภายหลังจึงแยกคณะออกมาต่างหาก จบจนมีรุ่นที่ 8 แล้ว ตึกคณะก็ยังสร้างไม่เสร็จ คาดว่าสร้างเสร็จแล้วเปิดใช้ได้ในรุ่นที่9 รุ่นที่เก้าจุดห้า เพราะเริ่มใช้ตอนเทอมที่สอง
- คณะถาปัดเรียนหกปี (4 ตรี +2) แต่จบแล้วได้ปริญญาโท ส่วนสาขาใหม่อื่นๆเช่นออกแบบภายในเรียน 4 ปี
- คณะแพทยศาสตร์ มีหลักสูตรปกติ 6 ปี แต่สามารถยื๊อได้ถึง 12 ปี ถ้าติด F หลายวิชา
- คณะแพทย์ จะมีโครงการแพทย์ชนบท ที่เรียนจบแล้ว ต้องไปใช้ทุนในชนบท 12 ปี !!
- คณะสังคมสงเคราะห์ ที่ มธ.เรียกว่า สังเคราะห์ เป็นคณะสังคมสงเคราะห์แห่งแรกของประเทศ ที่อื่นมีสอนที่เป็นคณะแล้วคือหัวเฉียว ส่วนมหาลัยอื่นๆจะเป็นวิชาหรือภาควิชาเท่านั้น (เป็นคณะสังคมสงเคราะห์ที่ดีที่สุดในอาเซียนด้วย) มีการแลกเปลี่ยน นศ.ภาคฤดูร้อนไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นทุกปี ที่ Japan College of Social Work
--> ความบ้งก็มีอยู่สองเรื่องแหละ เรื่องแรก ต้องไปลองถามคนชนะคดี ปัจจุบันเป็นอาจารย์อยู่คณะนี้ เป็นหัวหน้าหลักสูตรด้วยนะ เริ่ดเลยแหละ เรื่องสอง คณบดีลาออกไปเล่นการเมือง แต่ไปอยู่ฝั่งรัฐบาล!! โอโหวววว
- การเลือกตั้งของมหาลัยที่เกี่ยวกับนักศึกษามี 3 งานคือ การเลือกกตั้งองค์การนักศึกษา (อมธ.) เลือกตั้งสภานักศึกษา และคณะกรรมการนศ.หอพัก(กพน.)
- การเลือกตั้ง อมธ. เป็นการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันมากสุด เปรียบก็คล้ายๆเลือกรัฐบาลมาบริหารเงิน 7 ล้านของ นศ. ส่วนสภามีการเลือกแบบปาร์ตี้ลิสและผู้แทนจากคณะเพื่อพิจารณาเงินงบประมาณ คล้ายๆสภาผู้แทนพิจารณางบฯ ส่วน คพน. เป็นงานที่เล็กลงมาหน่อยดูแล นศ. หอพักในของมหาลัยและสวัสดิการหอพัก
-->ปัจจุบัน เลือกตั้งสภาเป็นแบบตัวแทนสามสาย (สังคม-วิทย์สุขภาพ-วิทยา) เท่านั้น แก้ปัญหาตัวแทนคณะติดงานนั่นนี่ ประชุมสภาล้มเพราะองค์ไม่ครบ
- ที่จริงการเลือกตั้ง อมธ. คือการเลือกคณะกรรมการบริหาร อม. แต่คนจะเรียกว่าเลือก อมธ. ทั้งที่ อมธ.คือชุมนุม ชมรม กลุ่มอิสระ กน.ของทุกคณะรวมกันเป็น อมธ.
- และการเลือกตั้ง อมธ.ส่วนใหญ่ของมีอยู่พรรคเดียวที่ได้มานานแล้วคือ "ธรรมเพื่อโดม" 10 ปีได้มั้ง มีครั้งหนึ่งแพ้คะแนนเสียงพรรคเคียงโดม ได้เป็น อมธ.เป็นหนึ่งปี
-->ดีใจด้วย เดี๋ยวนี้ "คนกันเอง" เริ่มชนะบ้างแล้ว หลังจากที่ปลุกปั้นกันตั้งแต่ปี 2557 <กี่รอบแล้ววะ สามรึยัง>
- การเลือกตั้ง อมธ.จะเลือกพร้อมกันทั้ง ท่าพระจันทร์ รังสิต ลําปาง การหาเสียงก็ต้องหาทั้ง 3 ที่ และรวมคะแนนทั้ง 3 ที่ว่าใครได้มาสุดจะได้เป็น อมธ.
- ตึกของคณะวิดวะ ออกแบบโดยอาจารย์ในคณะถาปัด
- ตลาดนัดที่มีทุกวันจันทร์ และพฤหัส มักจะมีแขกรับเชิญจากมหาลัยอื่นเช่น ม.กรุงเทพ เกษตร จุฬาฯมาแวะเวียน <ก็ของมันถูก...>
-->เดี๋ยวนี้ไฮโซขึ้น มีเพดานครอบให้
- ตึกของคณะวิดวะมีเคสการวิบัติของตึกครบทุกเคส (ผนังร้าว เพดานรั่ว คานหัก ฯลฯ) ตั้งแต่เริ่มสร้างตึกเสร็จใหม่ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะผลจากผู้ออกแบบหรือผู้ก่อสร้าง แต่ก็ทําให้นักศึกษาคณะวิดวะไม่ต้องไปหาเคสการวิบัติของตึกจากสถานที่อื่นเลย
- ลูกคลื่นชะลอความเร็วที่เห็นกันเยอะๆในมหาลัย แล้วทําให้บรรดาผู้ขับขี่จักรยานยนต์ต้องไปนอนเล่นบนพื้นคอนกรีต แต่ถ้านักศึกษาท่าใดชอบโชว์หล่อ เอารถไปโหลดมา ต้องขอบอกว่า "กรุณาไปซื้อรถใหม่เข้ามาวิ่ง ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน" เพราะช่วงล่างกระจุยมาหลายคันแระ
- เจ้าของร้านอาหาร วชิรปราการใน มธ. รังสิต คือผู้ก่อตั้ง ร่วมด้วยช่วยกัน
- คําขวัญ "ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์ มีคนที่ฉันรัก"
- BBA ธรรมศาสตร์ เป็นคณะเดียวในมหาวิทยาลัยที่ใส่กระโปรงพีสยาวเป็นชุดพิธีการ
- BBA ธรรมศาสตร์ เป็นคณะเดียวในมหาวิทยาลัย (อีกแล้ว) ที่ต้องใส่ชุดนักศึกษาไปเรียนหรือสอบทุกครั้ง
- ปัจจุบันมีเพิ่มมาอีกคณะหนึ่ง คือ BJM (JC inter) ที่ต้องใส่ชุดนักศึกษาไปเรียนหรือสอบทุกครั้ง <<< เรื่องนี้ไม่จริงนะ ใส่ชุดนักศึกษากันเฉพาะตอนสอบจ้า
- อินเตอร์ ธรรมศาสตร์สังคมค่อนข้างต่างจากภาคไทย จะเป็นพวกสายลมแสงแดดซะส่วนใหญ่ คุณหนูมีตัง ระบบกลุ่มพวกพ้อง ระบบ SOTUS แบบผู้ไม่เจริญ
- ยุงที่ ธรรมศาสตร์รังสิต เยอะมาก เด็กขี้เกียจออกจากหอตอนเย็นๆก็เพราะกลัวยุงกัด มันเยอะจริงๆ กัดเจ็บด้วย ว่ากันว่ามันหลุดมาจาก Lab ของ สวทช. ยุงไรไม่รู้กัดทะลุกางเกงยีนได้ (เหมือนกัดเจาะเกราะกันทุกตัว)
- ห้อง บร. ย่อมาจาก บรรทมรวม โดยเฉพาะ บร.4 ห้องพันคน
- กองสันทนาการธรรมศาสตร์ มันส์สุดๆการแต่งตัวอลังการมาก โดยที่เราไม่ต้องไปดูอัลคาซ่าที่พัทยา (ไอ้เรื่องแต่งตัวนี่...แอบไปดูศิลปกรรมมั้ย หึๆ...)
- ตึกศิลปศาสตร์ท่าพระจันทร์ หากมองจากบนฟ้าลงมาจะเห็นเป็นตัวอักษร TและUตัดไขว้กันอยู่ซึ่งเป็นตัวย่อของมหาลัย
- เดี๋ยวนี้เบอร์นาร์ดไม่ได้ขายแค่ถั่ว แต่มีมะขามไว้บริการทุกท่าน
>>ขอฟ้องว่าเบอร์นาร์ดขายแพงขึ้น เล่นอัพจากสิบบาทเป็นยี่สิบเฉยเลย อิลุงงง ลูกมึงจบเอแบคแล้วววว
- รับน้องของศิลปกรรมฯ มธ.จะเรียกว่า ไป "ลงลาน" เพราะสมัยก่อนจะรับน้องกันที่ลานบริเวณหน้าเรือนไทย
- นศ.ชาย หรือหญิง ที่นี่เราจะแยกกันไม่ออกเพราะเค้าแปลงมาได้เนียนมั่กๆ
- ถ้าอยากเดินทางจากสยามมาที่ธรรมศาสตร์ มีหลายทางให้เลือก
- นั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่หมอชิตแล้วต่อรถตู้ ก็ตกอยู่ที่คนละ ...+35 บาท
- นั่งรถไฟฟ้ามาที่อนุเสาวรียชัยสมรภูมิแล้วนั่งรถตู้ ก็คนละ ...+40//48 บาท
- ถ้านั่งแท็กซี่จะอยู่ที่ 400 บาท
- ถ้าอยากประหยัดโคตรๆจริงๆ นั่งรถเมล์ ปอ.29 หน้าฝั่งมาบุญครอง ลง มธ.รังสิต ก็แค่คนละ 19 บาท แต่ต้องเสียเวลาอย่างน้อย สองชั่วโมง หรือ สองชั่วโมงครึ่ง ถ้าเงินพอก็นั่งรถไฟฟ้าเหอะ
- หรือหากอยากประหยัดยิ่งกว่านั้นอีก ก็ 29 ที่ไม่ใช่ ปอ. และไม่ใช่ ขสมก. (ซึ่งก็คือรถร่วมนั้นเอง) 8 บาทตลอดสาย แต่ท่านจะประสบอะไรบ้างนั้นก็สุดจะคาดเดา (อย่าลืมกลิ่นกระดูก ม.กรุงเทพ)
--> ตอนนี้ 29 ก็ไม่เข้านะ ต้อง 510 สถานเดียวละ
- แถวๆ ประตูท่าพระจันทร์ จะมีอาบังขายถั่วอยู่คนชื่อ "เบอร์นาร์ด" ขายมานานมากกกกกกแล้ว อุดหนุนกันด้วยเด้อ แม้ว่าบางทีแกจะทําเหรียญตกลงไปในถุงถั่ว แล้วนักศึกษาบางคนก็ทะลึ่งเอามือจกลงไปเก็บก็ตาม ว่ากันว่าเบอร์นาร์ดขายจนส่งลูกเรียนจบเอแบคได้เรย บางครั้งไปฉี่แล้วก็มานั่งขายถั่วต่อโดยไม่ล้างมือ แถมเวลาคันตาตุ่มก็เกาด้วยช้อนที่ตักถั่วนั่นแหละ กร๊ากกกกกกกกกกกก
- ร้านน้องท่าพระจันทร์ คนขาย ฉอเลาะมากๆ แอบขี้งก
- วิชาเอกภาษาญี่ปุ่นในคณะศิลปศาสตร์ ที่ท่าพระจันทร์ ไม่จําเป็นต้องใส่ชุดนักศึกษาไปสอบก็ได้ แต่งตัวเปรี้ยวสไตล์ญี่ปุ่นเกือบทุกคนทั้งหญิงชายตุ๊ดเกย์ทอมดี้ หัวมีทุกสีให้เห็น อย่างกับอยู่ฮาราจูกุ (เมื่อก่อนนะ) เด๋วนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปแค่ไหนแล้ว
- ร้านเกี๊ยวฟรี ข้างร้านซเวนเซ่น ต้องสั่ง บะหมี่ต้มยํา ถึงจะอร่อย กินกับเกี๊ยวทอด อู้ว์ ซี้ด แซ่บหลาย
- หมอดูเยอะมากที่ฝั่งท่าพระจันทร์ แข่งกันแม่นมีคนไปดูเยอะตลอด แต่ว่ามีคุณลุงคนนึง แกดูลายมือ ไม่มีร้าน ไม่มีอะไรเลย นั่งอยู่ใต้ต้นลั่นทมหน้า ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อ ขาแกพิการ แกดูแม่นมาก เมื่อก่อนเสียค่าดูแค่ 29 บาท ปัจจุบัน 39 บาท
- ข้าวหน้าเม็ด ร้านหน้าท่าพระจันทร์ อาแปะจุดบุหรี่สูบแค่ทีเดียว ที่เหลือแกจะปล่อยให้มันร่นจนหมดตัว เสียดายของว่ะ
- No Uniform No Service!!!!!<<<ก็แค่บางคณะแหละจ้า
- ร้านอาหารที่เด็ก ม.ธ. นิยมกันมากกก ที่โรงกลาง คือ ร้าน น้องแอม
- ปัจจุบัน หอพักใน ของมหาวิทยาลัย หรือที่เรียกกันติดปากว่า หอใน นั้น มีการปรับปรุงหลังจาก การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก โดยมีแอร์ และ เครื่องทําน้ําอุ่น (ที่เปิดเฉพาะวันแรกที่เข้าหอ (และร้อนมากอย่างแรงๆ)) & ค่าไฟก็ปรับเป็นอัตราเดียวกับ หอเอเชี่ยนเกมแล้วด้วย
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสรีภาพทุกตารางนิ้ว แต่ที่ทางออกเชียงราก ติดรั้วอย่างกับคุก
- เมื่อก่อนที่นี่จะทําบันไดที่ติดกับรั้วไว้ให้นักศึกษาออกไปข้างนอกง่ายๆ แม้ประตูทางออกจริงๆจะอยู่ถัดไปอีกไม่กี่สิบเมตร!
- ตอนที่เริ่มใช้รั้วและประตูคุกทางออกเชียงรากใหม่ๆ เคยมีรถยนต์วิ่งเข้ามาชนประตูเพราะไม่รู้ว่าประตูปิดอยู่ด้วย
- น้องหมี น้องหลง น้องเบี้ยว คือชื่อสุนัขสามตัวหน้าตึกคณะรัฐศาสตร์ท่าพระจันทร์ แม้จะชอบเห่าโวยวายใส่คนแต่งตัวไม่ดี คนที่ดูน่าสงสัย และะคนที่มีทีท่าว่าจะเป็นพิษเป็นภัยต่อคณะรัฐศาสตร์อยู่เสมอ แต่ก็เป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ อาจารย์ และนักศึกษารัฐศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
- น้องหลง น้องเบี้ยว เป็นตัวเมีย น้องหมีเป็นตัวเดียวที่เป็นตัวผู้ (ปัจจุบันน้องหมีตายไปแล้ว)
- ตึก SC ชั้นสี่แอร์เย็นยังกับขั้วโลกใต้ โดยเฉพาะห้อง 4020 เพราะมันอยู่ใต้คอมเมนเฟรม ถ้าไปขยับแผงคอนโทรลแอร์ไฟมันจะดับทั้งตึก เพราะงั้นพวกที่เรียนห้องนี้ก็จําต้องเสียสละรับกรรมแทนชาว SC ทั้งหมดทั้งมวล ปัจจุบันแอร์SC ร้อนชิบหาย ไม่รู้ว่าแอร์เสียหรืออาจารย์ปริญญาประหยัดไฟ
--> วิโรจน์ อาลี เป็นผู้แก้วิกฤตห้องแอร์เสียตัวจริง จากการยอมเสียสละโชว์นิ้วกลางร่วมกับนร.ทั้งห้องในห้องเรียนของ SC ประท้วงมหาลัย มีทั้งเสียงชื่นชมและเสียงด่า แต่อาทิตย์ต่อมา แอร์เย็น ชาบู! --> แม้กระนั้นก็มีบางมหาลัยมามินิฮาร์ตแล้วบอกว่าไม่เห็นต้องรุนแรงงงง (วรั้ย รับไม่ด้ายยย)
- ชาวหอ C1 มีความชํานาญและเชี่ยวชาญกว่าชาวหออื่นๆเรื่องการหนีไฟ ไม่รู้ทําไมมีธรรมเนียมซ้อมหนีไฟอยู่หอเดียว
- รถ NGV สาย 1 ตอนเย็นๆโหดมาก เคยนั่งทีแล้วมันดริฟฟ์หัวทิ่มตรงโค้งอาคาร 14 ชั้น ตื่นเต้นยังกะเล่นรถไฟเหาะ
- ใครเคยเรียน TU 120 ห้องสด ถ้านั่งแถวหน้าๆจะซึ้งเลยว่า "1059 หนาวมาก"
- NGV สาย 1-3 นั้นที่จริงแล้วเรียงตามลําดับความ Rare ในการหา
-->ตอนนี้มี 5 สายจ้า 1A/1B/2/3/4 แต่ก็เรียงลําดับความแรร์ในการหาเช่นเคย
- เวลาอยากจะไป บร. ไม่รู้ทําไมสาย 1 กับ 3 แห่กันมาเป็นขบวน บางทีมาติดกันสามคัน แต่เวลาอยากจะไป SC ดันมีแต่สาย 2 วิ่งกันสนุกสนาน
- เวลาที่หอพักไฟดับ จะมีบางห้องโผล่ออกมาเล่นไฟเย็นที่ระเบียงอวดตึกข้างๆ (เหมือนมันจะรู้แฮะว่าไฟจะดับ) แถมตอนไฟดับยามทั่วมหาลัยจะแห่แหนกันมาราวยกกองทัพตีกรุงศรี เสียงวิ่งงี้ดังขึ้นไปถึงชั้นสี่
- คณะศิลปศาสตร์จะมีกิจกรรมแปลกเช่น Back to school คือ ให้ใส่ชุดนักเรียนมาเรียน (อาจารย์ถามเลยว่า "นักศึกษาคะวันนี้มีอะไรหรือคะ" ) ล่าสุดตอนนี้คณะบัญชีและคณะเศรษฐศาสตร์ก็มีกิจกรรมนี้แล้ว โดยเริ่มจากท่าพระจันทร์ และหลังจากนั้นไม่นานคณะวิทยาศาสตร์ที่รังสิตก็จัดตาม ล่าสุด นิติก็มี เพิ่งเล่นใหญ่จัดทั้งคณะไปเมื่อกันยาปี 59
- แม้ว่าธรรมศาสตร์จะถูกสถาปนาขึ้นด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตย แต่ปัจจุบันหลายๆคณะกลับรับเอาระบบ SOTUS การว๊ากน้อง ประชุมเชียร์มาใช้ แต่อย่างไรก็ตาม คณะนิติฯ ยังคงใช้ระบบ spirit อยู่ในกิจกรรมคณะ ส่งผลให้กิจกรรมคณะบางอย่างเด็กหายไปกว่าครึ่ง
- คณะศิลปศาสตร์ อินเตอร์ BAS (ไม่รู้ว่าเอกอื่นมีอีกมั้ย) ยังคงใช้ระบบ SOTUS และกิจกรรม sexual abuse และไม่ถูก กนศ.ศศ และ สภานศ.ตรวจสอบ
- กิจกรรม Crazy Week เป้นของคณะศิลปสาสตร์ ซึ่งเเต่ละวันจะมีการกําหนดหัวข้อการเเต่งกายมาเรียน เช่น Back To School,ฟุตบอลโลก,เซเล็บ วึ่งเป็นที่สนุกสนานของคณะศิลปสาสตร์ เเต่ปี54นี้ มีชุดเเต่งกายประจําชาติมาด้วยเลยมีคนใส่กิโมโน ยูกาตะเดินให้ว่อนเลย เเต่แปลกทีสุดคือมีคนใส่ชุดดํานาซีมา
- "ฝั่งโน้น" ในความหมายของเด็กธรรมศาสตร์ คือ ร้านเหล้าทั้งหลายแหล่ ที่อยู่ฝั่งประตูเชียงราก ในอดีตมีทั้งสวีทดั้ก ซี - เซมอร์ กระฉ่อน i-animal และนี่คือเด็ดสุด สละโสต เจ๋งพอกับผับในกรุงเทพจิงๆนะ แต่เจ๊งไปหมดแล้ว ปัจจุบันมี เวอร์จิ้น ที่เปิดได้ถึงตี 5 และมีโรงเหล้าเฌอแตมเพิ่มมา
- 7-11 ที่หอทรงฯ เคยขายเหล้า บุหรี่ แต่ปัจจุบันเลิกขาย หากไปถามว่าทําไมเลิกขาย จะได้รับคําตอบว่า เพราะติดมหาวิทยาลัย แต่จริงๆแล้ว เพราะว่าเคยขายเหล้าให้ลูกค้า เกินเวลาที่กําหนด เลยถูกสั่งห้าม (ที่รู้เพราะผู้เขียนเคยทํางานใน Book Smile ที่ 7-11 แห่งนี้...) แต่ในปัจจุบันนี้
- ปัจจุบันหอพักใน (หอราคาถูกของมหาลัย) เหลือหอชายเพียงสองหอ ทั้งที่หอหญิงมีถึง 7 หอ
- คณะที่เป็นขวัญใจของสาวๆ คือ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร หรือ SIIT แบบว่ารูปหล่อ บ้านรวย เรียนเก่ง (คือถ้าขึ้นปี2ได้ ถือว่านายแน่มาก) เข้าง่าย ออกง่าย (โดนไทร์) แต่จบยาก
- เศรษฐศาสตร์ เป็นคณะหนุ่มหล่อของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ <เหยจิงดิ>
- บัญชี รัฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เป็นคณะรวมสาวสวยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- เด็ก self จัดต้องสถาปัตย์ฯ กับ ศิลปกรรมฯ
- ศิลปกรรมที่นี้แรงมาก ตอนเปิดเทอมคุณอาจจะพวกเขาในลุคมงกุฎกับสายสะพาย
- ถ้าใครเล่น msn หรือเกมส์ ในห้องคอม หอสมุดป๋วยจะโดนขึ้นประจานให้ทุกเครื่องทราบว่าคุณกําลังทําผิดกฎห้องสมุดแล้วทุกคนก็จะหันมาทางคุณกันหมด (เป็นเรื่องที่น่าอับอายมากๆ เดี๋ยวนี้เอาเกมส์อะไรไปลงเล่นก็ไม่มีใครว่าอะไรเเล้วล่ะ เคยเอา Dotaไปลงยังไม่มีใครว่าเลย)
- สะพานที่คู่รักมักจะไปนั่งจู๋จี๋ให้อาหารปลากัน คือ สะพานปลา
- สะพานหน้าตึกวิศวะมีคําล่ําลือว่า ถ้าคู่รักขี้จักรยานซ่อนไปด้วยกันแล้วปั่นจักรยานขึ้นสะพานโดยไม่ยืนจะรักกันไปตลอด
- โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ มีอีกชื่อว่า โรงพยาบาลซาร่า เพราะถึงแม้ว่าจะเจ็บปางตาย ถ้าไปขอยาจากที่นี่ก็จะได้แต่ ซาร่า (หรืออาจจะมีอย่างอื่นด้วยไม่แน่ใจ) ปัจจุบันเป็นตัวยาพาราเซตามอนเหมือนเดิมแต่ชื่อ PAT
- ตลาดนัดที่นี่มีฉายาว่า ตลาดนัดดูตัว เพราะจะมีคนหน้าตาดีมาเดินเยอะมากจะมีทุกวันจันทร์ กับ พฤหัสบดี ของกินอร่อยๆก็เยอะ ของใช้ก็เยอะเด็กม.อื่นก็มาเดินตลาดนัดที่นี่กันเยอะเช่นกัน แม้แต่จุฬาก็ยังมีเลย
- สะพานดาวอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ที่ศูนย์รังสิต เอาไว้พาแฟนไปชมดาวกันตอนกลางคืนทางที่ดีควรไปรถป๊อป เพราะปั่นจักรยานไป ขาลากแน่นอน เพราะไกลมากๆ
- ธรรมศาสตร์กล่าวหาว่าจุฬาฯเป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย" ขณะที่จุฬาฯกล่าวหาว่า "ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนแห่งที่สองต่อจากจุฬาฯ และนับเป็นมหาลัยหญิงล้วนเพียงสองแห่งของประเทศไทย"
- แม้กระนั้น TU Sexy Boy ก็ชนะขาด CU Cute Boy ทั้งหลายนะจ้ะ
- ธรรมศาสตร์ยังมีผู้ชายอยู่เชื่อเรา แซ่บๆทั้งนั้น (สามารถพบพวกเขาในเพจ TU Sexy Boy)
- ปัจจุบัน ธรรมศาสตร์มีตลาดนัดให้นักศึกษาได้เดินกันเกือบจะทุกวัน จันทร์และพฤหัส-ตลาดนัดอินเตอร์โซน , อังคารและศุกร์-ตลาดนัดฝั่งเชียงราก , และยังมีตลาดนัดทียูโดมอีกด้วย
- รับตรงมธ มีทั้งทีแข่งขันสูงมากเข้ายากมาก(สายสังคมโดยเฉพาะนิติ) กับรับมั่วมากๆ (สายวิทย์ โดยเฉพาะวิทยาและเอสไอ)(แม้กระนั้นถึงรับเยอะมากเด็กก็ไทร์กันเป็นว่าเล่นเลย สายวิทย์)
- รู้ยัง ธรรมศาสตร์ติดท๊อป 10 คะแนนสูงสุดแอดมิดชั่นทุกปีนาจ้ะ (คณะศิลปศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ คณะพาณิชย์ นี้เราร้อนแรงจริงๆ) (ปี 2016 ได้รับคะแนนสูงสุดจากทั่วประเทศ << วารสารคาบไปแดก)
- บัดนี้มีป้าย ตัวเหี้ยเยอะโปรดระวังตัวเหี้ย (และคนเหี้ย) แล้ว
เรื่องเรียน[แก้ไข ]
- การลงทะเบียนเรียนที่นี่ สามารถโทเสรีได้ จึงมีเด็กเข้าไปลงเรียนวิชาเก็บเกรด เพื่อเกรดที่ดีเสมอ หรือลงวิชาง่าย ๆ เพื่อกู้ชีวิตให้รอดจากการติดโปร
- PO210 ไปถามเด็กรัฐศาสตร์ทุกคนจะตอบว่า "สยอง" ถ้าใครบอกว่าง่ายไม่เทพก็เกรียนเทพ
- EC210 คือวิชายาขมสําหรับเด็กนอกคณะที่ต้องถูกบังคับเรียนเศรษฐศาสตร์ เพราะคณะนี้เคี่ยวจริง ดีจริง
- อาจารย์เศรษฐศาสตร์ตัดเกรดนอกคณะโหดมาก ==> ในคณะก็โหด เหมือนกัน - -"
- การรอเกรดในมหาวิทยาลัยนี้ ฝึกความอดทนได้ดีเยี่ยม เพราะนานโคตรรรรรรรรรรรรร โดยเฉพาะคณะนิติศาสตร์ (สายมหาชน)
-->ท่านจะไม่พบคะแนนหลังสอบเสร็จเร็วกว่า 8 สัปดาห์เด็ดขาด ฟันเธอ!
- TU115 มีทั้งวิชาดูหนังและฟังเพลง แถมมีบราวนี่แสนอร่อยให้ซื้อกินใต้ตึกอีกต่างหาก
- วิชา TU152 หลักคณิตศาสตร์พื้นฐาน (บังคับสําหรับบางคณะเช่น บัญชี เศรษฐศาสตร์ แพทย์ ถาปัตย์ ฯลฯ) เป็นวิชาสุดโหด หลังสอบมิดเทอม นศ.ดรอปไปเกือบครึ่ง เพราะเสี่ยงติด F โหดจริง อะไรจริง
- TU130 เป็นวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ที่โหดมากกกก สําหรับบางคนที่ได้อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานหินๆ
-->ป้าอัญ..ผู้ขวางโลก ยังคงเป็นศัตรูแก่ผู้มาเรียนเป็นปีที่...ติดต่อกัน
- วิชาเก็บเกรดยอดนิยม คือรหัส PY ที่ขึ้นต้นด้วย 2 ทั้งหลาย ได้แก่ PY226 PY228
- ปัจจุบันธรรมศาสตร์เปลี่ยนหลักสูตรใหม่โดย พิภพ หรือ ป๋าแป๊ะ และทําให้ความเป็นธรรมศาสตร์กําลังจะหายไป (และแทนที่ด้วยความลําใยแบบยั่งยืนแทน)
- คําว่ายั่งยื่นกําลังจะกลายเป็น CONCEPT มหาลัย จนอาจเดาได้ว่าต่อไปจะกลายเป็นธรรมศาสตร์และความยั่งยืน
-->พอเดาได้ จากการที่ปิรันย่า เอ้ย ปริญญา ไปนั่งรองฯยั่งยืน
- TU100 คือวิชาเอาหน้าแต่ในขณะเดียวกันคือวิชากอดคอรอดไปด้วยกัน กูต้องรอดดดดดด
- TU100 มีการให้ประเมินกันเองในคาบสุดท้าย โกรธใครเกลียดใคร ประเมินให้มันได้เอฟไปสะ
- TU100 มีการนําเสนอหน้า auditorium กลุ่มที่ชนะเลิศในรอบแข่ง cluster และ/หรือรอบ Rangsit TU Expo จะได้เกรดเอทันที (ท่าพระจันทร์เป็นแบบนี้นะ)
- ปัจจุบัน TU100 ถูกคิดโดยโอปป้าปริญญา (เอกกี้นั่นเอง)
- วิธีการเอาตัวรอดของ TU100 คือดวง... ถ้ามึงอยู่กลุ่มดีมีคนกล้าแสดงออกและมีความเป็นทีมกัน ก็รอดแค่นี้แหละ (ส่วนที่จะตายคือกลุ่มที่ไม่ออกความคิดเห็นอะไรเลยซึ่งแต่ละครัสเตอร์มันต้องมีแน่ๆและผู้นั้นก็จะได้รับเกรดไม่ค่อยสวยไป)
- TU101 จะปลุกความเป็น Liberal ในตัวคุณ (โชคร้ายปลุกได้แค่นิดเดียว - -)
- TU101 แม้กระนั้นเนื้อหาลําใยและเยอะมากกระโดดไปกระโดดมากและเอาหน้าเรื่อง ASEAN (อยากให้เด็กอยู่รอดในประชาคมอาเซียน ให้เด็กฝึกภาษาดีกว่าปะ)
- TU101 มีคนเคยกล่าวว่าเป็นวิชาเสื้อแดง...
- TU101 มีคนเคยกล่าวว่ามันเอามาแทนสหวิทยาการสังคมศาสตร์แต่มันไม่จริงเลย เพราะเนื้อหาสังคมศาสตร์บรุสิทธิ์มีแค่จิ๋มมด ที่เหลือคือการเอาหน้าเรื่องอาเซียน...
- TU102 หาสาระไม่ได้เลย จนเคยมีวิทยากรฉีกหน้าอาจารย์ว่า
- TU102 อาจช่วยให้คุณมีทักษะชีวิตทางสังคมได้เพียงเล็กน้อย(จนถึงไม่ได้ห่าไรเลย)
- TU102 สุ่มเกรดนะจ้ะ เด็กๆ May the luck be with you jaaaa (กูเข้าทุกคาบ งานส่งตลอด ได้ D+ คือระ ในขณะที่เพื่อนข้างกูโดดบ่อยมากได้ B+ ว้าววววว)
- TU102 ใช้ครูเกือบทุกคณะลุมสอนพวกเรา ฉะนั้นคะแนนเราตกหล่นแน่นอน แล้วผลที่ตามมาคือ เกรดกูหาย
- TU103 ถูกสร้างมาเพื่อสนองความไคร่ของปริญญา เพราะมีคําว่ายั่งยืนนนนนนนนนน
- TU103 คล้ายเรียนวิทย์ของสายศิลป์+การใช้ภาษาไทย เนื่องจากเขียนรายงานเยอะมากกกกกก มันยังเป็นวิชาแดกเกรดอีกตัว คนสอนแม่งโคตรเผด็จการ
- TU104 105 ปกติคนที่สุดและ
- TU104 วิชาหลักการใช้ภาษา+ตรรกศาสตร์ ดีๆนั้นแหละ
- TU105 ไม่มีการจัดแบ่งแบบ EL170 171 172 อีกต่อไป (แต่มี TU005 นะแต่ไม่ค่อยมีใครได้เรียนนอกจากโครงการพิเศษหรือคนที่สอบตก TCTC : ได้น้อยกว่า 30 คะแนนนั้นเอง) จึงทําให้วิชานี้มีเนื้อหายากง่ายปนกัน
- TU105 มีความลําเอียงระหว่างภาคไทยกับอินเตอร์เพราะของอินเตอร์จะเรียนยากแต่ดันใช้รหัสวิชาภาษาอังกฤษตัวเดียวกับภาคไทย ???? จึงทําให้ไทยที่ได้เกรด A ของภาคไทยอาจจะสู้ เด็กอินเตอร์ที่ได้เกรด D-C ไม่ได้เลย
- TU106 คือตัวที่ลําใยที่สุดในโลก
- [เพิ่มเติม] ล่าสุด 2/59 หนังสั้นเดี่ยว1นาทีให้ทําอนิเมชันจ้า แล้วตัวอย่างที่ให้ดูคือระ Lion King งี้ Disney งี้ คนเราควรมีความรู้รอบด้านถูกมะ
ท้ายนี้กูก็มาบ่นแค่นี้แหละ แค่รู้สึกได้ถึงความโคตรลําไยชิบหายของวิชา TU106 ซึ่งไม่มีความจําเป็นใดๆที่จําต้องเรียน หรือถ้าต้องเรียนจริงๆอาจารย์ผู้สอนควรจะคํานึงถึงเอคทิวิตี้ที่มันก่อให้เกิด creativity thinking มากกว่านี้อ่ะ กิจกรรมที่ผ่านๆมามันห่วยแตกมาก อะไรคือความคิดสร้างสรรค์ อะไรคือสิ่งที่ทําให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมที่ผ่านๆมามันทําให้เด็กสนุกกับการสรรค์สร้างความคิดจริงๆไหม หรือหากแต่เป็นการฝืนใจต้องทํากิจกรรมเพราะจะไม่ได้คะแนน ใครมีความเห็นอย่างไรกับวิชานี้แชร์กันได้ ฝากไว้ให้คีส
Cquote2.png- TU106 ไม่ได้กล่าวว่าความคิดสร้างสรรค์นั้นมาจากการตีกรอบของอาจารย์ผู้คุมสอนว่าเขาอยากให้เราเอาหน้าแบบไหนดี...
- TU106 มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นโดยการให้ผู้ชายถอดเสื้อแล้วระบายสีท่อนบน...
- ครูประจํา TU มีผลต่อเกรดยูด้วยนะจ้ะ (นั้นแหละ ดวงอีกตามเคย) บางห้องแม่งงานง่ายเวอร์บางห้องงานเยอะแยะมากมายก่ายกองแถมกดเกรดเวอร์
- TA วิชา TU บางคนหล๊อหล่อ เกี่ยวมั้ยยู -..-
- หากสังเกตุดีๆวิชา TU มีจุดได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละคณะเช่น TU101 รัฐศาสตร์หรือศิลปศาสตร์(เอกประวัติศาสตร์) จะได้เปรียบมาก TU106 วารสารได้เปรียบสุดๆ
ครูบาอาจารย์เจ้าหน้าที่[แก้ไข ]
- อาจารย์ที่นี่มีสิทธิเสรีภาพมาก มีทั้งซ้าย ขวาอนุรักษ์ เสรี ไร้สังกัด นิยามไม่ได้ และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของคณะ
-->แต่อยู่ด้วยกันได้แหะ เช่น วรเจตน์(นิติราษฎร์) และสมคิด(สนช.) ห้องใกล้ๆกัน ก่อนที่สะมะคิดะจะย้ายไปเป็นอธิเกรียนบดี
- ธรรมศาสตร์เป็นที่รวมของอาจารย์ดัง ๆ สายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มากมายจนถึงปัจจุบัน และมีความแปลกประหลาดมากด้วย
- เชื่อหรือไม่ อาจารย์สายปกครองของคณะรัฐศาสตร์จะเป็นบุรุษมากที่สุด แตกต่างจากสายรัฐกิจที่สตรีเป็นใหญ่
- คณะรัฐศาสตร์จะมีธรรมเนียมในการรับอาจารย์ที่เป็นมุสลิม เพื่อความเสมอภาคตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน
-->วิโรจน์ไม่ใช่มุสลิม วิโรจน์เป็นซิกข์อ่ะครับ ---> เป็นมุสลิมโว้ยยย
- อาจารย์ที่เสนอความคิดว่าศิลาจารึกไม่มีอยู่จริงคืออาจารย์ของภาค ปวศ. (ใครอ่ะ เจียมป่ะ?) (เขาคือ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ศิษย์Harvard)
- "อาจารย์ปู่" เป็นชื่อเรียกของอาจารย์วารสารท่านหนึ่งที่สอนกฏหมายสื่อสารมวลชน มาตั้ง 50 ปี!!!!!
- อาจารย์ธรรมศาสตร์ส่วนใหญ่มีฐานะ และที่จอดรถของอาจารย์ทางสังคมศาสตร์มีมากกว่าอาจารย์สายวิทย์
- มีอาจารย์ท่านหนึ่งรําคาญรถเต่าของท่านเพราะชอบเสียบ่อย จนทําให้ท่านทิ้งรถเต่ากลางถนนตรงหน้าโรงกลางและเดินมาสอนหนังสือแทนคือ รศ. คณะวิทยาฯ
- รถเก๋งเก่า ๆ สีเขียวของคณะสังคมสงเคราะห์ที่จอดอยู่หน้าตึกคณะที่รังสิต ถูกนํามาปล่อยทิ้งไว้ที่นี่และเคลื่อนย้ายที่เก็บไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดเอาไปทิ้งแต่อย่างใด
- ถ้าใครเรียน TU124 ที่รังสิต บางทีเราก็อาจได้เห็นอาจารย์แกรํามวยจีนโชว์ และอาจมีอะไรที่คาดไม่ถึงในคาบนี้เสมอ ซึ่งขึ้นอยู่กับอารมณ์อาจารย์!!!!
- เขาสามารถให้คะแนนรายงานเด็กโดยดูเพียงหน้าปกและสามารถหักได้เพราะนักศึกษายืนชิดอาจารย์มากเกินไป สุดยอด..... (ก็บอกไปว่าสุ...)
- แต่ปัจจุบัน อาจารย์ที่สอน TU124 ท่านนั้นได้ Retire ตัวเองจากอาจารย์ประจําไปเรียบร้อยเสียแล้ว เพื่อจะผันตัวมาเป็นนักการเมืองจ้ะ เย่วววว์
-->ไม่รู้เค้าบล็อกนักศึกษาไปกี่คนแล้ว แต่ที่รู้ๆน่าจะมีไม่กี่คนที่รับแกได้
- อาจารย์ที่ปรึกษาของมธ. มักเรียกกันว่า "Adviceเสียบ" เพราะมีที่ปรึกษาเหมือนมีเสียบไว้ประดับบารมีเฉยๆ (จะเป็นอย่างนี้มากกับอาจารย์รัฐศาสตร์)
- ใครเรียน TU120 กับ ผศ. คณะสังคมวิทยา อาจจะเจอไมค์ลอยจ่อปาก เพราะอาจารย์แกจะเดินรอบห้องเรียนพันคนและถามคําถามเสมอและถามทุกคาบ !!!
- แต่ถ้าวิชานี้เป็นเหล่าคณาจารย์รัฐศาสตร์สอน วิชานี้จะเป็นนรกน้อย ๆ ทันที
- "คุณวัชระ" เป็นชื่อเรียกของอาจารย์ท่านหนึ่งแห่งภาควิชาประวัติศาสตร์ เพราะว่าท่านเป็นหนึ่งในผู้สอนวิชา TU110 ที่ตึก บร.4 และมีที่มาจาก อ.จุฑาทิพย์ อาจารย์ภาคปรัชญา เพราะว่าท่านมักจะสั่งเจ้าหน้าที่ของตึกให้ดับไฟ หรี่ไฟ ขอSubtitle ว่า "คุณวัชระค่ะ ขอ..." เสมอ และเจ้าหน้าที่ประจํานั้นชื่อ "วัชระ" เหมือนกัน นักศึกษาปีหนึ่งเกือบทุกคนจะเข้าใจผิดว่าคือ ผศ.ดร. เป็นประจํา และ เป็นถูกนํามาใช้เป็นมุกตลกของกองสันทนาการและบุคคลทั่วไปเสมอ และถ้าบอกว่า "คุณวัชระ" เมื่อไหร่ ก็หมายถึง ผศ.ดร. คนนี้แน่ๆๆ
- บางครั้งนักศึกษาก็แอบเรียกว่า "คุณจุฑาทิพย์ที่มีคุณวัชระเป็นอาวุธ" จากคําบรรยายที่ว่า "พระอินทร์มีวัชระเป็นอาวุธ"
- เคยมีอาจารย์พิเศษท่านหนึ่งมาบรรยายในวิชานี้ แกบรรยายอย่างไม่หยุดตลอด 3 ชม. และปิดท้ายการสอนด้วยการเควี้ยงไมค์ทิ้งและตะโกนด่าเด็กว่า "ออกไป" เพราะนักศึกษาเริ่มเซ็งและเดินออกจากห้อง
- และอาจารย์เองก็เป็นอาจารย์พิเศษของคณะสถาปัตย์ฯ และแอบกระซิบนักศึกษาในห้องว่า ผมเปล่า เค้าสั่งมา สรุป ต้นเหตุคืออาจารย์วัชระ นี่เอง
- อาจารย์ท่านนี้เลยไม่รับบรรยายที่รังสิตอีกเลย!!!
- เนื่องจากธรรมศาสตร์รังสิตใหญ่โตมาก บางครั้งเราอาจจะเห็นอาจารย์ต้องหายานพาหนะไปสอนด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น เดิน รถจักรยาน มอร์เตอร์ไซต์ รถยนต์ ตามแต่รสนิยม
- บางครั้งเราอาจได้เห็นอธิการบดี ปั่นจักรยานแถวตึกกลาง เพราะที่นี่มีจักรยานประจําตําแหน่งแก่ผู้บริหาร
- เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี คณะนิติศาสตร์ก็มีจักรยานประจําตําแหน่งคณบดีด้วยเช่นกัน และมีป้ายบอกตําแหน่งพร้อมชื่อคณบดี
- อาจารย์รัฐศาสตร์ท่านหนึ่งสามารถสอนเนื้อหาให้จบได้ทัน ทั้ง ๆ ที่ โดดสอนไปมากถึง 8 ครั้ง ครั้งละสามชม. ในเทอมเดียว !!!
- "นงกับนิต" เป็นชื่อของอดีตอธิการบดีสองท่าน
- บางครั้งเราจะเห็นคู่สามีภรรยาที่น่ารักมาก สามีมักจะมารอภรรยาสอนหนังสือที่รังสิตอยู่เสมอ
- ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ มักเข้าใจผิดเสมอว่าเป็นอาจารย์ที่นี่และเรียนจบที่นี่เพราะนิสัยแกแปลกกว่าเด็กจุฬาฯทั่ว ๆ ไป และแกสามารถบอกเล่าจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ได้ประทับใจดีกว่าศิษย์เก่าหลาย ๆ คน
- รศ.ดร.เสรี วงศ์มณฑา ก็เคยสอนที่นี่ จบที่นี้ เดิมที่เคยคิดเรียนรัฐศาสตร์แต่หนีไปเรียนภาษาแทน เพราะอดีตรัฐศาสตร์รับน้องโหด
- ความมีเสรีภาพของที่นี่ ทําให้มีนักศึกษาคนหนึ่งเคยชกกับพี่ว้าก และมีเรื่องกับรุ่นพี่ที่ชอบรังแกรุ่นน้องเสมอ คน ๆ นั้นคือ อ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
- "โฆษกประจํามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" เป็นฉายาของรองอธิการฯฝ่ายการนักศึกษาคือ อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เพราะเมื่อมีเหตุการณ์สําคัญทางการเมือง แกมักอยู่ตามหน้าช่องที่วีหรือสัมภาษณ์ นสพ. อย่างน้อยสองฉบับ
- อาจารย์บางท่านผ่านเหตุการณ์สังหารหมู่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทําให้นักศึกษาหนีเข้าป่าเป็นจํานวนมาก และบางคนจะมีอาการฝังใจหรือ "6 October Syndrom"
- สมัย 6 ตุลา มีอาจารย์ฝ่ายขวาบางท่านเข้าร่วมกับนวพลและมีส่วนรู้เห็นในการสังหารหมู่ด้วย
- อาจารย์ประวัติศาสตร์ของที่นี่เป็นราชบัณฑิตอยู่สองท่านคือ ศ.ศรีสุรางค์ พูลทรัพย์ และ ศ.เพ็ชรี สุมิตร
- คณะที่มีศาสตราจารย์มากที่สุดในประเทศอยู่ที่ธรรมศาสตร์คือ คณะนิติศาสตร์ มีศาสตราจารย์มากถึง 11 ท่าน(ตอนนี้ผุดมาอีกไม่รู้กี่ท่าน)
- อาจารย์ธรรมศาสตร์มีหลายคนที่ได้เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ เช่น สุรพล นิติไกรพจน์ ปราณี ทินกร รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ สมบัติ จันทรวงศ์ ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อัมมาร สยามวาลา จิตติ ติงศภัทิย์ ลิขิต ธีรเวคิน เป็นต้น
- ศ.ดร.ปราณี ทินกร กับ ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ เป็นสามีภรรยาคู่แรกและคู่เดียวที่ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ในสาขาเศรษฐศาสตร์
- ศ.ดร.สมบัติ จันทรวงศ์ เป็นอาจารย์ของ รศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ และทั้งคู่ก็เป็นนักวิจัยดีเด่นสาขารัฐศาสตร์ด้วย
- ทุนอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ก็ธรรมศาสตร์สมชื่อ เพราะอาจารย์และศิษย์เก่าที่นี่ได้ทุนไปเสียส่วนใหญ่ เช่น วิไลวรรณ ขนิษฐานันท์ ลิลี่ โกศัยยานนท์ ชื่นชีวี เฉลิมภัทรกุล ภรรดา ทามุระ ปรัชญา เวสารัชช์ พัชรา พัชราวนิช ธเนศ เมฆจําเริญ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เป็นต้น
- อาจารย์คณะสังคมวิทยา ส่วนใหญ่มักไม่จบสังคมวิทยาตอน ป.ตรี แต่มักจะจบโทและเอกด้านนี้เสียส่วนใหญ่ และส่วนใหญ่มักจบโทที่คณะนี้ด้วย
- ชื่ออาจารย์ที่สับสนกันมากที่สุดคือชื่อของ รศ.ดร.พงศ์สวัสดิ์ สวัสดิพงศ์ คณะสังวิทฯ กับ รศ.มรว.พงศ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ คณะบัญชีฯ
- อาจารย์ที่หน้าตาดีที่สุดในคณะสังวิทฯ คือ รศ.ดร.วรพล พรหมิกบุตร
- มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมท เคยมาสอนที่คณะวารสารสมัยที่เป็นแผนกอิสระด้วย
- รศ.ศันสนีย์ ตันติวิท เป็นอาจารย์สายวิทย์คนเดียวที่ค้านการย้ายท่าพระจันทร์มารังสิต 4 ปี
- ผศ.ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ เป็นอาจารย์ชื่อดังติดท๊อปฮิตของคณะนิติศาสตร์ เพราะท่านไม่เคยออกข้อสอบได้ "ปรกติ" เลย อนึ่งใครที่ตอบข้อสอบของท่านได้ถูกธงและครบทุกประเด็น ไม่จําเป็นต้องมาเรียนแล้วล่ะ
-->ปรกติเป็นนามสกุลอย่างเดียวจริมๆ
- คนที่น่าจะพอเหวี่ยงกันคงเป็น รศ.จักรพงษ์ เล็กสกุลไชย
- อ.ชไมพร แห่งคณะสังเคราะห์ เคยเป็นแอร์โฮสเตส แต่แกเป็นลีดคณะศิลปศาสตร์ ป๊าดดดดดดด.....
- อาจารย์ผู้ชายคณะศิลป์ศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นตุ๊ดและเกย์ <<< ศิลปกรรมเยอะกว่า
- โปรดระวังป้าหมวดไทยของศิลปศาสตร์ให้ดี พวกนางค่อนข้างเอาเรื่อง...
- แต่อ.ศิลปศาสตร์ถึงจะเป็นเพศไหนก็ตามพวกเขาเปิดกว้างในเรื่องเสรีภาพทางความคิดแบบสุดๆไปเลยละ น่ารักกกก
- อธิการบดียุค 2016 เป็นเด็กเส้น คสช. เขาผู้นั้นคือสมคิด เลิศล้ําอัจฉริยะ (มีอีกชื่อว่า สมตู่)
- รู้หรือไม่ สมคิดเป็นสนช.ด้วย
- และสมคิดก็ให้ยกพวกพ้องของตนขึ้นมาบริหารมหาวิทยาลัยทําให้มหาวิทยาลัยเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง <<< เป็นพวกพ้องสมคิด ใช่ แต่ไม่ทั้งหมดหรอกจ้ะ เหตุผลจริงๆ ก็คือ.....
- มีหงส์อยู่ตัวนึง (ที่ไม่ใช่พวกสมคิด ชาลี ปริญญา หรือแม้แต่พิภพ) เคยคิดจะเป็นอธิการบดี หวังจะกู้ศักดิ์ศรี ธรรมศาสตร์ ขึ้นมา แต่หารู้ไม่หงส์ตัวนั้น กลับต้องถูกกดหัวในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศมาตลอด แต่หงส์ตัวนั้นก็ทําผลงานได้อย่างงดงามนะจ๊ะ (จริงอยู่ที่สมคิดและพวกพ้อง เคยคิดจะปลดหงส์ตัวนั้นออก แต่ทําไม่ลง เพราะผลงานที่นางทําไว้ช่างดีงาม อีกทั้งความเก่ง และความมีจิตใจอันบริสุทธิ์ของนาง ได้แสดงออกเป็นที่ประจักษ์มาโดยตลอด) ทว่า ล่าสุด หงส์ตัวนั้นถูกเด้งจากฝ่ายต่างประเทศ ไปฝ่ายวิชาเกรียน ซึ่งเป็นฝ่ายที่ไม่พึงปรารถนาอยากจะเป็นของใครหลายๆคน อันเนื่องมาจาก พิพบ หรือป๋าแป๊ะทําผลงานสุดเฟล ตอนเป็นรองอธิการบดีฝ่ายวิชาเกรียน นั่นก็คือ..... TU-STAR และหลักสูตรใหม่สุดกาก และพิพบได้เล่นชิ่งหนีไปเป็นคณบดีดงฟ้าขาวซะนี่!!!!! (ไม่รับผิดชอบเอาซะเลย ป๋าพิพบเอ๋ย !!!!)
- ในที่สุด หงส์ตัวนี้ ต้องพลอยรับกรรม ที่นางไม่ได้ก่อจ้า (น่าสงสารเนอะ คนดีๆ ต้องถูกรังแก !!!!) <<< หงส์ตัวนี้ชื่อ นิธินันท์ (ชมพู่) จ้า!!!!!
- ชาลีเป็นฝ่ายการนักศึกษาที่ห่วยแตกและตรรกะวิบัติที่สุด <<< วิบัติไม่พอ แถมชอบเรียกร้องทวงคืนแต่พลังงานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนลืมไปว่าตัวชาลีเองทํางานอะไร อภิโธ่!!!!!
- พิพบ หรือ ป๋าแป๊ะ เป็นคนคิด TU-STAR และหลักสูตรใหม่อันหาสาระไม่ได้
- TU-STAR กําลังจะถูกยกเลิกและแทนที่ด้วยระบบเอ็นทรานซ์ 4.0 (แล้วป๋าแป๊ะ/พิพบคิดมาทําไม อ่อ คิดมาแดกตังเด็กไง)
- ปัจจุบัน ป๋าแป๊ะ ได้เป็นคณบดีแห่งดงเรือใบฟ้าขาวเป็นที่เรียบร้อยแล้วค้าบบบบบ (ดงฟ้าขาวซวยไป เหอะๆ)
- ปริญญา หรือ เอกกี้ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรอยู่ดีๆก็อยากมารักโลก อะไรๆก็ยั่งยืน (น่ารําคานอะ)
- มีเรื่องราววงในว่ามีการแบทกันระหว่างอาจารย์.... (อย่าว่าแต่นางหงส์กับพิพบเลย ทุกฝ่ายก็เหมือนกันแหละจ้า)
ความเชื่อ[แก้ไข ]
- ลิฟท์แดง อยู่ที่คณะศิลปศาสตร์ ฆ่าพระจันทร์ (ปัจจุบันเหลือแต่โครงอยู่ชั้น 6 บันไดทางแม่น้ําเจ้บร๊ะเจ้าจอร์จ พร้อมกับพวงมาลัยและน้ําแดง = = ส่วนโซนลิฟต์เดิมอยู่ ลิฟต์ด้านที่มีลิฟต์แค่ตัวเดียว ปัจจุบันลิฟต์บริการทันสมัยพร้อมเสียขอบคุณเวลาปิดประตูลิฟต์ช้า "ขอโทษค่ะที่ทําให้ต้องรอ")
- ถ้าอยากลองของแรงๆ ในธรรมศาสตร์มีอยู่สองที่ คือหอเอเชียนเกมส์โซนบี (บางตึก) กับที่สะพานดาวหรือไม่ก็เรือนไทยหลังหอพระ
- นักศึกษาคณะนิติฯปีหนึ่งทุกคน ต้องอ่านแพ่งให้จบก่อนวันรพี ไม่งั้นจะตกแพ่ง แต่บางคนเทพๆอ่านไม่ทันมันก็ผ่านนะ ฮ่าๆ
- เด็กธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต มักมีความเชื่อว่า หากใครเห็นตัวเงินตัวทอง ในน้ําหรือบนหญ้าก็แล้วแต่ ให้รีบพูดคําว่า "GET A" หลายๆรอบ เพราะนั่นหมายถึงคุณมีโอกาสจะได้ A จริงๆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
เป็นที่มาของชื่อมหาวิทยาลัย ทํามั้ยสาด
ของกิน[แก้ไข ]
- โรงอาหาร SC ปัจจุบันกลายเป็น โรงอาหารวิศวะ 2 ไปซะแล้วเพราะ 50% ที่กินข้าวที่นี่ล้วนแต่ใส่ชอปทั้งนั้น ส่วนโรงอาหารวิศวะก็กลายเป็นโรงอาหาร SIIT ไปแล้วเพราะกว่า 80% ใส่ชอปสามบรรทัด+ปักSIITกลางหลัง
- ร้านป้าขายอาหารตามสั่งแถวๆหออินฯ ที่อยู่ตรงปลายสุดทาง เป็นร้านสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าด้านหลังของร้านครัวมี้ เป็นร้านที่ขึ้นป้ายว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว แต่ไม่ได้ขายก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านที่ให้กับเยอะมาก ในราคา 30 บาท กินข้าวหมดก่อนทุกที แต่ก็สามารถขอเติมข้าวได้ และสามารถสั่งกับแบบบวกได้ในราคา 40 บาท โดยจะได้กับเยอะมาก เมื่อรวมกับการเติมข้าวได้ คุณจะได้รับปริมาณเท่ากับข้าวจานละ 30 สองจาน ในราคา 40 บาท
- ในกรณีที่ป้าเค้าเป็นคนทํานะ ถ้าลุงเค้าทําก็ขอให้ลืมๆทุกข้อไปซะ...
- ร้านป้าเค้ามีลูกสาวคนนึง ชื่อน้องมินท์... ออกแนวโรคจิตพอควร พูดจากระโชกโฮกฮาก เก็บตังค์ไม่เกรงกลัวคนกิน แถมโดนครูที่โรงเรียนมัธยม "แง่ง" ผมทุกเดือน (ป้าเค้าเล่ามา)
- ปัจจุบัน ไม่รู้ป้าหายไปไหนแล้ว กลับมาเลยนะป้า...
- ร้านป้าชลอ อาคาร 14 ชั้น ตรงข้าม หอ C-11 เป็นร้านที่ทําอาหารได้ช้าสมชื่อจริงๆ เพราะข้าวผัดจานเดียว เคยสั่งตอน 6 โมงได้ กินตอน 2 ทุ่ม
- ร้านไก่ทอดชื่อร้านต้นคูณ บางทีก็เรียกร้านนี้ว่าร้านพี่เก๋ แถวหอทรงพิเชษฐ์ รสชาติเด็ดดวง บางครั้งได้ฉายา "ไก่กัญชา" เพราะกินแล้วมันติดกันทุกราย เวลาทอดไก่แล้วกลิ่นจะลอยมาเตะจมูก โคตรหิวเลย... แต่ถุงละ 20 บาท ชิบหาย..
- ร้านขายอาหารตามสั่งที่อยู่ตรงหน้าหอพักใน เรียกกันว่า โต้รุ่ง แต่ไม่ยักขายยันเช้าแฮะ ก็ปิดเที่ยงคืนเท่าเวลาหอปิดนั่นแหละ
- ร้านโต้รุ่ง มีร้าน ป้าจิต กับร้าน ป้าพร ซึ่งมีความแตกต่างกันในด้านจํานวนลูกค้าเป็นอย่างมาก
- ร้านป้าจิต เป็นร้านขายอาหารตามสั่งที่คุณสามารถ Create เมนูอาหารได้เท่าที่คุณจะสร้างสรรค์ได้ และเท่าที่ร้านเขาจะมีวัตถุดิบ
- นอกจากเมนูอาหารจะเมคได้เองแล้ว เรื่องที่น่าสนคือชื่อผู้สั่ง ลองตั้งชื่อผู้สั่งตลกๆสิ หัวเราะกันทั้งโต้รุ่งเลย
- ร้านอาหารป้าจิตที่โต้รุง หากคุณเขียนชื่อผู้สั่งเป็นภาษาอังกฤษ จะอ่านไม่ออกนะ
- หากต้องการกินส้มตําอร่อย ๆ ต้องไปที่สะพานสูง หรือเค้าเรียกกันว่า ไฮ-บริดจ์ !?!
- มีร้านนึงดังมากแต่อยู่ห่างไกล ใครไม่เคยไปอาจตกใจว่าในหลืบมีร้านอหารสุดยอดอร่อยด้วยนั่นคือ ร้านบ้านจิบ อาหารระดับโรงแรม ราคารังสิต เข้าไปทางยูเทิร์นที่จะกลับมาหอบราวนี่ แต่แทนที่จะยูเทิร์นกลับให้เลี้ยวซ้ายไปแทนจะเห็นร้านบ้านจิบอยู่ หาป้ายง่ายมาก เวลาเดินก็ให้เดินข้ามคอลงไป ถึงแม้ร้านจะสภาพชุมชนมากแต่อาหารอร่อย แล้วอีกเรื่องมาร้านนี้ต้องทําใจเพราะคนทําใจเย็นมว๊ากๆๆๆๆๆๆๆ
- ร้านขายกล้วยปิ้งหลังหออินฯ ที่เป็นลุงกะป้าขายแบบสบายอารมณ์คนซื้อเยอะแต่แกจะปิ้งแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ แต่อร่อยจริงๆนะ
- ขนมบราวนี่ เป็นขนมที่อร่อยขึ้นชื่อของที่รังสิต เวลาไปเรียนที่ บ.ร.4 คนมักจะต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อซื้อขึ้นไปกิน ทั้งๆ ที่หน้าห้องเขียนว่า "ห้ามนําอาหารและน้ําเข้ามาในห้องบรรยาย" ก็ตาม
- สําหรับเด็กท่าพระจันทร์ ของกินมีเยอะจนไม่สามารถนับได้... (รอบ ม.เลยนะจ้ะ ตอนกลางวัน ท่าพระจันทร์ ท่าช้าง วังหลัง ท่ามหาราช หากยังไม่สะใจตอนกลางคืนเรามีบาร์แถวท่าพระอาทิตย์ ปิ่นเกล้า ผ่านฟ้า โอ้ยยย ฟิน)
- แต่ถ้าหากต้องการราคาและรสชาติพอเอาชีวิตรอดก็โรงอาหาร บีอีเหอะ (ย้ํา หากท่านต้องการแค่กินๆไปเท่านั้นเพราะรสชาติมันค่อนข้างสะพรึ่ง !!)
- หลายคนอาจจะที่อื่นมักไม่รู้ว่าเรามีสองโรงอาหารอยู่ที่ท่าพระจันทร์ (บีอี และสังคมสงเคราะห์ ปัจจุบัน โรงอาหารสงเคราะย้ายไปตรงตึกกิจ มธ)
กิจกรรม[แก้ไข ]
- เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่มีทั้ง องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัย และสภานักศึกษามหาวิทยาลัย (ไม่จริง มศว ก็มีทั้งองค์การนิสิตและสภานิสิต มีมาไม่ต่ํากว่า 15 ปีแล้ว<<<แต่เอ็งไม่แยกกันไง)
- สภานักศึกษา มีหน้าที่ตรวจสอบ อมธ. แต่ถึงกระนั้น ทั้งสองกลุ่มเป็นเพื่อนกัน
- การเมืองในมหาวิทยาลัยดุเดือดมาก พรรคไหนทําอะไรพลาดจะถูกประจานขึ้นเฟคบุค <<<ทวิตเตอร์แล้ว
- ถ้าอยากเป็น อมธ. จงเข้าธรรมเพื่อโดม อยากทําเพื่อมหาลัยก็... ตามใจเพราะสุดท้ายแล้วคุณก็ทําอะไรมากไม่ได้หรอก
- เช่นเดียวกับสภานักศึกษา สุดท้ายก็ไม่เคยทําเหมือนที่หาเสียงได้สักปี
- สภานักศึกษากลุ่มวิทยาเขตจะไม่ค่อยเหมือนรังสิต เพราะท่าพระจันทร์จะค่อนข้างผูกขาด ส่วนรังสิตจะตีกันอยู่ไม่กี่ฝ่าย 2-3 พรรค
- สภานักศึกษาตอนเลือกตั้งค่อยค้างตีกันโหด คุณอาจจะพบเห็นจากพรรคที่มีข่าวข่มขืน บ้างก็บอกว่าปล่อยข่าวเสียเพื่อทําลายคะแนนเสียงแต่ไปๆมาๆมีการข่มขืนกันจริงๆ
- แต่สุดท้ายพอเข้าสภาก็จะมีการคุยเรื่องที่นั่งกัน จากศัตรูก็กลายเป็นมิตร
- อย่าคาดหวังให้สภานักศึกษาทําอะไรสําเร็จเพราะตอนประชุมสภายังตีกันเองออกจะบ่อยๆ
- สภานักศึกษา มธ คือต้นแบบการเมืองไทยดีๆ
- กกต. หรือคนที่ดูแลการเลือกตั้งทําได้แค่นับคะแนน ถ้ามีคนโกงก็ทําอะไรไม่ได้ ถึงขนาดมีการปลดป้ายชวนไปเ-ลือกตั้งลงไปกองกับพื้นและเอาป้ายเลือกตั้งเบอร์ ปกปิด มาขึ้นแทน กกต. ทําได้แค่มอง
- แต่กกต.ได้ค่านักคะแนนกับดูแลกล่องเลือกตั้งวันล่ะ 200 นะเออ
- คนที่สมัครพรรคนึงพอแพ้ก็ไปอยู่อีกพรรคที่ชนะ
- หากคุณเป็นเด็กกิจกรรมและอยากทําอะไรเพื่อมหาวิทยาลัยแล้วละก็ การทําอมธ จะไม่เหมาะกับคุณเนืองด้วย การเมืองในมหาวิทยาลัย เด็กเส้น ล๊อคตัว และสารพัด หากคุณอยากทํากิจกรรมลองออกค่ายดูสนุกกว่าเยอะจ้า
- หากคุณเข้าไปอยู่ใน อมธ มันอาจจะมีหลายอย่างที่มันไม่เหมือนกับที่คุณคิดไว้ (แล้วหนูก็จะออกมา 555)
- คนไม่ไปเลือกตั้ง อมธ. กับ สภา. เพราะไม่รู้ว่ามีไปเพื่ออะไร และไม่เห็นว่ามีประโยชน์อะไรนอกจากรวมตัวคนบ้ากฎหมาย "ตามมาตรา... นี้จะกระทําไม่ได้!"
- สภานักศึกษาผลักดันหลายๆเรื่องยกเว้นเรื่องสิทธิมนุษยชน
- ทุกวันนี้ อมธ จะมีหน้าที่แทนสภาแล้ว
- ชมรม ชุมนุม กลุ่มกิจกรรม ขึ้นตรงกับมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ อมธ. แต่ อมธ. ชอบสําคัญตัวผิดเหมือนฉันเป็นเจ้าของทุกๆคน
- มธ. ชมรม ชุมนุม ตั้งได้ยากมากๆ ไม่รู้เพราะกลัวงบหายหรือเปล่า
- ถ้าของบกิจกรรมต้องขอก่อนเปิดเทอม และต้องมีวุฒิเป็นชมรม ชุมนุมเท่านั้น ถ้าเป็นกลุ่มอิสระขออย่างมากได้แค่ 5000 โดยพิจารณางบประมาณ เพราะเค้ามีให้แค่ปีละ สองหมื่น
- กลุ่มอิสระล้อการเมือง ก็ตามชื่อข้างในก็มีการเมืองเช่นการเลือกประธานล้อ ทีมบริหาร บลาๆ
- ปัจจุบันก็ยังแยกชุมนุมกะชมรมไม่ออก
- ชุมนุมศิลปะและการแสดง เป็นชุมนุมดราม่าอย่างแท้จริงเอาใจจ่าดราม่าไปเลย เคยทําป้ายชวนคนไปดูละครทําเอกสารและปั้มตรากองกิจก่อดราม่า
- ชุมนุมโฟโต้ เป็นชุมนุมคนรวยแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีห้องล้างฟิลม์แห่งความลับ และมีข่าวลือว่าห้องล้างฟิลม์นั้นไม่ได้ไว้ล้างฟิลม์แต่เอาไว้ปกปิด
- กองสันทนาการ เคยเป็นส่วนหนึ่งของ อมธ. แต่ต่อมาเหมือนจะมีดราม่าเลยแยกตัวออกมา
- ชุมนุมทียูโฟล์กซองส์เป็นชุมนุมที่เกิดจากคนที่พลาดรักจากทียูแบร์น
- โดยประธานชุมนุมและคณะกรรมการชุมนุมสายดนตรีส่วนใหญ่เป็นเด็กคณะวารสารศาสตร์
- ห้องชุมนุมดนตรีไม่รู้ว่าไม่พอใช้หรืออย่างไร ชอบออกมาซ้อมข้างนอกทําให้ อมธ. ต้องออกไปประชุมข้างนอกบ่อยครั้ง
- มีห้องชุมนุมในตึกกิจกรรมที่รังสิตมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือติดหน้าห้อง อยู่ชั้นสาม ดูโอเวอร์มาก
- คอมพิวเตอร์โน้ตบุค สามารถหายด้วยเวลาเพียง 0.5 นาที ถ้าวางในตึกกิจกรรม ตอนนี้ติดกล้องแล้ว โดยหน้าห้อง อมธ.และสภา ไม่มีกล้องติดอยู่ อ่าส์
- มธ. ไม่มีชมรม ชุมนุม ด้านเทคโนโลยีหรือคอมพิวเตอร์ส่วน ITTAG ไม่ใช่ชุมนุมแต่เป็นกลุ่มอิสระภายในหอพัก
- ปกติหอพักในมหาลัย จะไม่ให้เข้าเกิน 24:00 แต่ถ้าทํากิจกรรมด้วยพลังกระดาษ จะทําให้กลับหลัง 24:00 ได้ เฉ ฝ่ายพาะหอชายเท่านั้นที่ทําได้เเต่ไม่ต้องมีกระดาษก็เข้าได้ยามไม่ว่าพูดอะไรเลยบางทีหลับยามด้วยซ้ํา บางครั้งพบว่าออกไปกินเหล้า กลิ่นเหล้งหึง แต่เอาบัตรกลับดึกก็เข้าได้
- เสรีภาพของนักศึกษา A มักไปทําร้ายเสรีภาพของนักศึกษา B
- ชุมนุมวรรณศิลป์ มีคนอยู่แต่ไม่กล้ารับเอกสารชอบให้แปะหน้าห้อง เป็นองค์กรลับที่นานๆทีจะออกสังคมและเป็นองค์กรเฉพาะกลุ่มเข้าถึงยาก
- ชุมนุมเชียร์ อยู่ภายใต้การปกครองของสมาคมธรรมศาสตร์ เป็นชุมนุมที่มีห้องเยอะที่สุดในมหาวิทยาลัยและเป็นชุมนุมที่มีไม่มีคนเข้าตอนเทอมหนึ่ง เพราะไม่มีอะไรทํา ตัดสินใจทําอะไรเองไม่ได้ แต่จะมา PEEK ช่วงงานบอลและมักคนมีสําคัญตัวผิดเยอะมาก เพราะคิดว่าตัวเองทํางานหนักที่สุด แอบโซตัสนิดๆ ด้วยเพื่อนสู่เพื่อน
- พัสดุเป็นตําแหน่งงานที่เหนื่อยที่สุด นอกจากต้องขนของขึ้นสแตนแล้วยังต้องควบคุมฝูงชนที่ขึ้นมา
- พีอาร์เป็นตําแหน่งที่คนหน้าตาดี ชอบมาอยู่มากที่สุดเพราะได้ออกหน้าออกตา
- สวัสดิ์เป็นตําแหน่งที่แอบเหนื่อยแต่ก็ได้ทํางานในที่ร่มๆ และเด็กพัสดุบางคนเห็นว่าทําไมสวัสดิ์กับพัสดุถึงแแยกกัน
- ฝ่ายสนามเป็นตําแหน่งที่ปิดทองหลังพระที่สุดเพราะไม่เคยเห็นว่าทําอะไร เพราะไม่เคยมีใครเห็นเพราะงานนั้นปกปิด < ลองมาอยู่งานเตรียมสนามจะรู้ครับ ไม่มีใครเห็นพระทํางานกลางคืนครับ อดนอนสี่คืน มาทาสีตอน 5 นาทีก่อนเปิดงานก็มีมาแล้ว
- งบประมาณของชุมนุมเชียร์นั้นปกปิดซึ่งไม่รู้ว่าเท่าไรรู้แต่ว่างบประมาณสามารถถอย S Serial ได้สองคัน (กว่า)
- คณะกรรมการคัดเลือกด้วยวิธี ปกปิด
- ถ้าอยู่ชุมนุมเชียร์นานๆจะเกิดอาการปกปิด
- ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติไม่ให้เด็กที่ป่วยทางกายหรือจิตไปค่ายหรือเข้าชมรม
- ชมรมอนุรักษ์เป็นชมรมที่สนิทกันเองส่วนคนอื่นก็นั้นแหละ...
- กองกิจกรรม อมธ และสภา ห้องไซต์เดียวกัน และดูไฮโซมากๆเพราะมีแอร์เย็นสบายเปรมปรี
- ล่าสุดคือห้องสภาเน่าชิบหาย
- ชุมนุมพุทธที่นี่มีสองชุมนุม คือ พุทธสายป่า และ พุทธสายธรรมกายและวัฒนธรรม โดยชุมนุมพุทธสายธรรมกายจะยึดกิจกรรมทุกอย่างด้านสายวัฒนธรรมทั้งหมด และตักบาตตอนเช้าจะเป็นพระของวัดธรรมกาย (เพราะอยู่ใกล้นิดเดียว)
- ชมรมพุทธไม่ได้เป็นพุทโธเลี่ยนทุกคน
- อย่าถามเรื่องศาสดากับชมรมอิสลาม เพราะจัดเสวนาหลายๆครั้งก็ยังหาคําตอบเรื่องศาสดาไม่ได้นอกจากบอกว่า ใช้ใจเชื่อ
- ตึกกิจกรรมเปิดถึง 23:00 ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง
- นักศึกษาที่ทํากิจกรรม ไม่ได้ชั่วโมงเรียนหรือหน่วยกิตใดๆ ทําด้วยใจล้วนๆ