สงครามครูเสด

จากไร้สาระนุกรม — ส่วนหนึ่งของโครงการไร้สาระนุกรมเสรี แหล่งรวบรวมเรื่องราวตลกขบขันและบิดเบือนข้อเท็จจริง
ไปยังการนําทาง ไปยังการค้นหา
สําหรับผู้ที่ไร้อารมณ์ขันสิ้นดี เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่วิกิพีเดียมีบทความที่โคตรมีสาระ ที่นี่!
ภาพโมเสกในมหาวิหารลุงปีเตอร์

สงครามครูเสด (Ajarn Said) เป็นสงครามกิลด์เกี่ยวกับศาสนาระหว่างชาวปะกิดในยูหลบกับพวกนินจาสลาตัน เพื่อยึดดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ คือ กรุงแหย่รูฮาเร็ม ของบริสต์ศาสนิกชนที่ยกพวกข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปยังดินแดนตะวันออกกลางคือระหว่างปี บ.ศ. 1095-1291 ซึ่งต่างฝ่ายต่างเถียงกันว่า กรุงเยรูฮาเร็ม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เป็น (削除) ของกูต่างหาก (削除ここまで)ของตน ซึ่งเหลือเชื่อว่ามีจุดกําเนิดจากลุงแก่ ๆ คนหนึ่ง

สงครามครูเสด[แก้ไข ]

นักบุญปีเตอร์ หรือ ลุงปีเตอร์
Cquote1.png กําเนิดสงครามสองร้อยปี
เพราะลุงปีเตอร์ทําเรื่องแท้ๆ Cquote2.png

เดิมทีลุงปีเตอร์แกเป็นนักแสวงโชคด้วยการขูดเลขเด็ดจากโบราณสถานที่อ้างว่าเป็นนักบุญแถวๆ กรุงเยรูฮาเร็ม ซึ่งสมัยนั้น ทั้งนักบวชบริสต์ หรือ นักบวชแขก ต่างมาแสวงบุญที่นี่ได้ แต่ห้ามมีเรื่องกัน ลุงปีเตอร์เกิดความเลื่อมใสใน(削除) เลขเด็ด (削除ここまで)ในบริสต์ศาสนาเคยสัญญาว่าถ้าถูกจะแก้บนด้วยการบวชเลยผันตัวมาเป็น นักบุญปีเตอร์

ลุงปีเตอร์ก็ยังคงใช้ชีวิตสมถะ ใส่เสื้อยีนส์ เกงยีนส์ ผมยาว สะพายย่าม จนชาวบ้านเรียกว่า นักบุญปีเตอร์ ฤๅษี (削除) เดินส่งยา (削除ここまで) เดินแสวงบุญ เผยแพร่ศาสนาบริสต์

อยู่มาวันนึง ขณะที่ลุงปีเตอร์ กําลังเดินแสวงบุญในผับที่กรุงเยรูฮาเร็ม นักบวชบริสต์ กับ นักบวชแขก เกิดเหยียบตรีนส์กัน บังเอิญ แขกพวกมันเยอะ นักบวชบริสต์สเลยอ่วมอรทัย ลุงปีเตอร์ผู้ศรัทธาในบร๊ะเจ้าเกิดความเศร้าใจ จึงเดินทางกลับกรุงโรม เมืองหลวงบริสต์นิกายคาทอลิก

ทันทีที่ถึงถิ่นลุงปีเตอร์วิ่งโร่ไปบอกบร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเออร์บานที่ 2 สมัยนั้น บร๊ะซานต้าป๊ะป๋ามีอํานาจในการสั่งให้กษัตริย์ประเทศต่างๆในยูหลบเข้าร่วมสงครามครูเสดได้ บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเออร์บันที่ 2 รักพวกมาก ประกาศว่า (削除) เลือดต้องล้างด้วยเลือด มันต้องเอาคืนสิวะ (削除ここまで) ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ชาวบริสต์ จึงประกาศสงครามครูเสด โดยที่องค์บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่ทําลงไปจะทําให้เกิดมหาสงครามยาวเกือบ ๆ 200ปี

ลําดับและปีที่เกิดครูเสด[แก้ไข ]

  • ครั้งที่ 1 ระหว่างปี 1095 - 1101
  • ครั้งที่ 2 ระหว่างปี 1147 - 1149
  • ครั้งที่ 3 ระหว่างปี 1188 - 1192
  • ครั้งที่ 4 ระหว่างปี 1201 - 1204
  • ครั้งที่ 5 ระหว่างปี 1217 - 1221
  • ครั้งที่ 6 ระหว่างปี 1228 - 1229
  • ครั้งที่ 7 ระหว่างปี 1248 - 1254
  • ครั้งที่ 8 ระหว่างปี 1270

จําไว้ ทั้งหมดนี่ (削除) เป็นเพราะลุงปีเตอร์คนเดียว (削除ここまで)เพราะความไม่เข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย

สงครามครูเสด ครั้งที่ 1[แก้ไข ]

บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเออร์บันที่ 2 จุดกําเนิดสงครามครูเสด
Cquote1.png ชาวนากับนักบุญ
การรบ แบบลูกทุ๊ง ลูกทุ่ง Cquote2.png

ครูเสดครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วง บ.ศ. 1096-1099 นักบุญปีเตอร์ หรือลุงปีเตอร์ ก็ออกโฆษณาชวนเชื่อชาวยูหลบ ว่า ถ้าใครได้ไปเข้าร่วมกองทัพครูเสดครั้งนี้ จะได้บุญ ตายแล้วก็(削除) ตายฟรี (削除ここまで) ขึ้นสวรรค์ จนพรรคพวกหูเบาที่กระเหี้ยนกระหือจะไปรบ ได้รวมพลกันมากถึง 250,000 คน แต่ทว่าส่วนใหญ่ก็ไปรับคนมาแบบมั่ว ๆ เอาปริมาณไว้ก่อน มีทั้งชาวนา ผู้หญิงและเด็กตามไปด้วย อาวุธก็หาเอาแถว ๆ นั้น จึงเหมือนพาไปคนเที่ยวสวนสัตว์ดูแขกเสียซะมากกว่า

ผลสรุป กองทัพครูเสดที่อ่อนแอเกินไป เมื่อเผชิญหน้ากับนักรบเติร์กที่ดุดัน กองทัพครูเสดก็พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า ลุงปีเตอร์พรรคพวกวิ่งกระเจิงกลับยูหลบไปคนละทาง บร๊ะสันตะปาปาเออร์บันที่ 2 ถึงกับเซ็งเป็ด

ปีรุ่งขึ้น บ.ศ. 1097 บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเออร์บันที่ 2 เจ้าเดิม ประกาศรับสมัครนักรบครูเสดอีกครั้ง

คราวนี้ ได้นักรบที่มีความสามารถ รวมไปถึงเจ้าชายแคว้นต่าง ๆ ก็เอากับเข้าด้วย กองทัพนี้จึงมีความเข้มแข็งเป็นพิเศษ บร๊ะองค์จึงมั่นใจว่า คราวนี้จะไม่ทําให้บร๊ะองค์(削除) หน้าแหก (削除ここまで)เสียหน้า เหมือนกับคราวที่แล้ว

แต่ก็เกิดปัญหาอีกตามเคย

Cquote1.png กองทัพดูเข้มแข็งก็จริง แต่ลึกๆ แล้วไม่มีน้ํายาอะไรเลย เพราะเป็นกองทัพที่เละเทะไปหมด Cquote2.png

เจ้าชายแคว้นนั่น แคว้นนี่ มีนายหลายคน ไม่มีผู้นําสูงสุดบัญชาการ การรบจึงคล้าย ๆ กับตัวใครตัวมัน กว่าจะตีกรุงเยรูฮาแร็ม ได้ก็ล่วงเข้า บ.ศ. 1099 เมื่อกองทัพครูเสดชนะแบบทุลักทุเล ก็ตั้งกอดเฟรย์แห่งบุลอิยอง ผู้นําเบลเยี่ยม เป็นกษัตริย์แห่งกรุงเยรูฮาแร็ม นักรบครูเสดที่เหลือแยกย้ายกลับบ้าน

  • สรุป บริสต์สเตียนประเดิมชัยชนะได้รอบแรก ฝ่ายแขกได้แต่ครางว่า "อีนี่เจ็บใจ๋อีนี่เจ็บใจ"

สงครามครูเสดครั้งที่ 2[แก้ไข ]

พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 โดนนักรบชาวแขกไล่ทิ่มแทบตกม้า
Cquote1.png ดับเบิ้ลกษัตริย์แท็กทีม(削除) ลง (削除ここまで)ลุยแขก
แต่ดันแพ้แบบล่มปากอ่าว Cquote2.png

สงครามครูเสดครั้งที่ 2 (บ.ศ. 1147-1149) ฝ่ายบริสต์สเตียนปลื้มกับผลงานตัวเองอยู่ได้ไม่กี่ปี ฝ่ายซลาตันนักรบชาวแขกหยิบประวัติศาตร์มาอ่านทีไรแล้วมันแค้น เลยระดมพวกแถว ๆ บนฝั่งแม่น้ําไทกรีส เพราะแถวนั้นซลาตัน นักรบแขกเพียบ ดูลาดเลาแล้ว พวกบริสต์เตียนมันเอาทหารเฝ้า กรุงเยรูฮาเร็มไว้ไม่กี่คน น่าจะชนะแบบม้วนเดียวจบ

ฝ่ายบริสต์เตียนในกรุงเยรูฮาแร็มก็เหมือนนกรู้ เห็นท่าไม่ดี ขืนสู้แบบนี้คงไม่รอด จึงขอความช่วยเหลือไปยังบริสต์สเตียนในยูหลบ ขอกองทัพครูเสดมาป้องกันกรุงเยรูฮาแร็ม นําโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 แห่งฝรั่งเศส จับคู่ กษัตริย์คอนราดที่ 3 แห่งเยอรมัน ก็ส่งกําลังมาช่วย พระองค์มั่นพระทัย(削除) มาถึงสองมันต้องชนะสิวะ (削除ここまで)ว่าศึกนี้ จะป้องกัน กรุงเยรูฮาเร็ม ไว้ได้ พวกแขกมันจะซักเท่าไหร่กันเชียว เมื่อพบกองทัพซลาตันชาวแขก พระองค์สั่งลุยทันที

แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวที่จะยึดเมืองดามัสคัส กษัตริย์คอนราด (ไม่ได้เป็นญาติกับเจอร์ราร์ดแต่อย่างใด) และพระเจ้าหลุยส์แพ้อย่างหลุดลุ่ยที่สมรภูมินี้ อันเป็นเมืองหน้าด่านสําคัญก่อนถึงกรุงเยรูฮาแร็ม พวกแขกมันถึก อึด เกินกําลังครูเสดชนะได้ ต่อมา ซาลาดิน (บ.ศ. 1138-1139) นักรบจอมทัพอันยิ่งใหญ่ของฝ่ายซลาตัน ขวัญใจนักรบชาวแขก ก็เป็นหัวหน้าของซลาตันตะวันออกกลาง 13 ปีต่อมา ซาลาดินก็ทําสงครามศาสนาจีฮัดเพื่อยึดปาเลสไตน์ และยึดได้ กรุงเยรูฮาแร็ม ในเดือนตุลาคม บ.ศ. 1187

  • สรุป ครั้งที่ 2 แขกชนะ ส่วนกองทัพครูเสด แพ้กระเจิงตั้งแต่ยังไม่ทันถึง กรุงเยรูฮาร็มและได้ตั้งแคมป์ห่างจากเมืองและทําต้มไก่กิน

สงครามครูเสดครั้งที่ 3[แก้ไข ]

ซาลาดิน (คนตรงกลาง) ผู้ห้ามชาวบริสต์นําหม้อกลับบ้าน
Cquote1.png ศึกรวมดารา
รวมพลังถล่มบัลลังค์แขก Cquote2.png

สงครามครูเสดครั้งที่ 3 เริ่มในปี 1188 ชาวบริสต์เตียนรวบรวมกําลัง หวังจะมาทวงกรุงเยรูฮาร็มคืน กะว่ายังไง (削除) ต้องเอาให้ได้สิวะ (削除ここまで) คราวนี้ฟิตซ้อมมาอย่างดี และรวบรวม ขุนศึกดาราดังเอาไว้คับคั่ง อาทิ พระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์แห่งอังกฤษ กษัตริย์ฟิลิป ออกัสตัสแห่งฝรั่งเศส พระเจ้าเฟรเดอริก บาร์บารอสซา แห่งเยอรมัน

ซาลาดิน กะเอาไว้แล้วว่าพวกบริสต์สเตียนต้องมาเอาคืน ไม่แม่นึกว่าจะใช้เวลารวบรวมกองทัพโดยใช้เวลาเพียง 2 ปี เท่านั้น ซาลาดินเป็นผู้นํานักรบซลาตันที่ถือสัจจะในการรบ ทั้งบริสต์เตียนและซลาตันต่างทําการรบในศึกนี้ถึง 23 เดือน ก็ไม่รู้ผลแพ้ชนะ บร๊ะเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ และ ซาลาดินต่างก็เคารพในฝีมือซึงกันกัน

เป็นที่รู้กันว่า นักรบครูเสดชอบใส่อะไรที่มันหนักๆ เสื้อเหล็ก หมวกเหล็ก ไหนจะโล่อีก ในขณะที่ฝ่ายนักรบแขกของซาลาดิน สวมเสื้อหนัง ชุดเบา จึงสู้ในภูมิประเทศอันร้อนอบอ้าวได้ดีกว่า

มีอยู่ครั้งหนึ่งซาลาดินได้กลอุบาย โดยรบกันในที่โล่ง ปิดล้อมทหารครูเสดไว้ท่ามกลางอากาศร้อน นักรบครูเสดก็อ่อนแรง เหล่าทหารแขกก็รุมสกรัมตรีนส์ ชนะเอาแบบง่ายๆ จับเชลยได้เพียบ = =*

การปิดล้อมเยรูฮาแร็ม ซาลาดินได้ชัยชนะงดงาม ตอนปิดล้อม พวกบริสต์เตียนในเมืองอ่อนกําลังลงเรื่อยๆ ขนาดต้องส่งทูตออกมาขอความเมตตา ซาลาดิน ให้ไว้ชีวิต ซาลาดินเป็นผู้นําที่มีเมตตา ซึ่งต่างจากชาวบริสต์เตียนซึ่งนิยมสไตล์ถล่มทุกเมือง(削除) กูไปไหนแมร่งเอ๊ยตีป้อมแตกกระจายทุกทิศ (削除ここまで) ซาลาดินคิดค่าปรับซึ่งไม่แพงเลย ราคา ดังนี้ ผู้ชาย 10 ดิน่า หญิง 5 ดิน่า เด็ก 1 ดิน่า เมื่อจ่ายครบ ก็ให้เดินเข้าแถวออกจากกรุง เยรูฮาแร็ม ตอนแรกซาลาดิอนุญาตให้ชาวบริสต์เตียน เอาทัพย์สินติดตัวไปได้ทุกอย่าง แต่พอทราบข่าวทีหลังว่า ชาวบริสต์สเตียนระหว่างทําสงคราม ได้ปล้น หม้อ ของชาวแขกไปเยอะ ซาลาดินจึงออกกฎ ห้ามชาวบริสต์สเตียนเอาหม้อกลับไป จากนั้นให้ทหารแขกเดินไปส่งถึงท่าเรืออีก สปริทพี่แกแรงจริงๆ

  • สรุป กรุงเยรูฮาแร็ม ก็ยังอยู่ในความปกครองของ ซาลาดิน ขวัญใจชาวแขก พวกบริสต์เตียนแพ้กลับ ทั้งกายและใจแถม หม้อ ก็ไม่ได้เอากลับมาอีก

สงครามครูเสดครั้งที่ 4[แก้ไข ]

หม้อใบนี้ที่ชาวบริสต์เตียนและชาวซลาตันต่างแย่งชิง
Cquote1.png แค้นทวงหม้อ
ของดีใครก็หวง Cquote2.png

สงครามครูเสด ครั้งที่ 4 1201 - 1204 หลังจากซาลาดินเท่งทึง เพราะอยู่กับหม้อที่ยึดมาได้จากชาวบริสต์เตียนมากเกินไป ลูกๆ ของซาลาดิน 3 คน ก็เกิดการแย่ง หม้อกันเอง แต่ลุกชายคนนึง ชื่อ สัยฟัดดีน ชาวบ้านผู้เลื่อมใส ต่างขนานนามว่า สัยฟัดตรีนส์ บุตรชายซาลาดิน คนนี้รบเก่งมาก สามารถยุติการแก่งแย่งหม้อมรดก ต้นเหตุที่ลูกๆทะเลาะกัน (削除) กูก้ได้ครอบครองคนเดียว (削除ここまで)

เมื่อข่าวนี้กระแทกหูชาวบริสต์เตียน ซึ่งมีความแค้นที่เป็นทุนเดิม เพราะโดนซาลาดินแย่งหม้อไปเมื่อครั้งก่อน ต่างระดมกองทัพครูเสด บุกไปยังกรุงเยรูฮาแร็ม กองทัพครูเสด มาถึงเมืองฝั่งทะเลชื่อเมือง บรัดตรุ๋ย สุลต่าน สัยฟัดตรีนส์ อันเป็นที่รักของชาวแขก ยกทัพมาป้องกัน เมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน

แม่ทัพฝ่ายครูเสดควบม้านําทัพออกมาถามสุลต่าน สัยฟัดตรีนส์

"(削除) เอาหม้อมาให้กูซะดีๆ (削除ここまで) ไม่งั้นกองทัพครูเสดจะถล่มให้เสียวววว"

สุลต่านฟัดตรีนส์ ตอบในทันที

"(削除) นี่ของกูโว๊ย (削除ここまで) อีนี่ไม่ให้หรอก"

สิ้นเสียงก็เปิดฉากตะลุมบอน นัวเนียได้เสียวสุดขีดกันทั้ง 2 ฝ่าย จบลงด้วยเสียงคราง

  • สรุป บริสต์เตียนและซลาตัน เซ็นสัญญาสงบศึก 3 ปี ส่วนกรุงเยรูฮาแร็ม ก็ยังอยู่ในมือของนักรบชาวแขกเหมือนเดิม

สงครามครูเสดครั้งที่ 5[แก้ไข ]

ซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ที่ 3 เถิกชัดเจน
Cquote1.png ซานต้าป๊ะป๋าอิโนเซนต์
ข้ออ้างปราบหวยเถื่อน Cquote2.png

ทั้งสองฝ่าย สงบเสงี่ยมเจียมบอดี้อยู่ได้ 3 ปี บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ที่ 3 ได้ข่าวมาว่า กรุงคอนแสตนติโนเบิล ซึ่งนับถือศาสนาสบริสต์นิกายคาร์ธาร์ส ซึ่งมีความเชื่อว่า บร๊ะเจ้า หรือ บร๊ะเจเซิร์สนั้น แท้จิง ก็มีด้านดีและด้านมืด เช่น ปล่อยน้ํามาท่วมโลก จึงมีการจัดพิธีกรรมด้านดี และ เลว พร้อมกัน รวมไปถึงพีธีเข้าทรง นั่งญาณ และ ใบ้หวย ให้เล็กเด็ด ซึ่งบร๊ะซานต้าป๊ะป๋าโดนตัดหน้าจึงยอมไม่ได้

บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ที่3 ซึ่งเคร่งศาสนาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ก็สั่งดําเนินการ ในวันรุ่งขึ้น มีจดหมายจากนครวาติกันไปปลุกระดมกษัตริย์แคว้นต่างๆ และชาวบ้านชาวช่อง ให้ทําสงครามครูเสด แต่พระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ไม่เอาด้วย จึงตอบจดหมายไปเพียงสั้นๆ ได้ใจความ(削除) เมิงเท่าแต่สั่งๆไปรบเองมั่งสิวะนิกายอะไรหนักหัวใคร (削除ここまで) ริชร์ดไม่เหนด้วยกับการโจมตีครั้งนี้ เพราะต่างคนมีความคิด ที่จะนับถืออะไรก็ได้ พร้อมกับห้ามปรามไปยังบร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ ที่ 3 เพื่อยับยั้งสงคราม

แต่โป๊ปก็ทําเป็นหูทวนลม กองทัพครูเสดที่หาได้คราวนี้ มันก็เยอะ ส่วนทางนักรบชาวแขกตอนนั้นก็กําลังมั่วๆกับศึกภายในราชวงศ์แขก พวกครูเสด มันก็(削除) เสือก (削除ここまで)ยกมาตอนนี้ซะได้ จะทําไงดี

กองทัพอันมโฬหารของบร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ ที่ 3 ก็ออกเดินทางจากรัฐวาติกันเดินทัพ เข้าโจมตีกรุงคอนแสตนติโนเบิล ซึ่งตอนนั้นนับถือ บริสต์สนิกายคาร์ธาร์ส

อินโนเซนต์ตกใจมาก เห็นว่าอาจสร้างความบาดหมางในหมู่บริสต์ศาสนิกชนด้วยกัน แต่ก็หยุดไม่ได้เพราะพวกลาตีนใช้ข้ออ้างว่าปราบหวยเถื่อน ไม่ยอมยกกลับ


  • สรุป ชาวแขกรอดตัวหวุดหวิด เพราะถ้ายกมา กรุงเยรูฮาแร็ม ด้วยสถานการณ์ภายในที่รุมเร้า กับพวกครูเสดที่มากันอื้อ ยังไงก็แพ้ กับ แพ้ แต่หวย(削除) เสือก (削除ここまで)ไปออกที่กรุงคอนสแตนติโนเบิลแทน โดนเผาเมืองเสียฉิบเลย ประมาณการมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ํากว่า1แสนคน ว่ากันว่า ไฟไหม้กัน 3 วันยังไม่หมด


ศริสสเตียน โดยบร๊ะซานต้าป๊ะป๋า ในสมัยนั้นรุ่งเรืองมาก แม้แต่กษัตริย์ยังมิอาจต่อรอง

สงครามครูเสดครั้งที่ 6[แก้ไข ]

สตีเฟ่นกับงานขายถั่วดําพร้อมผองเพื่อน
Cquote1.png หลอกเด็กไปขายถั่วดํา
ฝันบ้าเพราะเด็กเลี้ยงควาย Cquote2.png

สงครามครูเสด ครั้งที่ 6 ระหว่างปี 1228 - 1229 มีเด็กชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ชื่อ สตีเฟ่น เขาเป็นเด็กเลี้ยงควายอยู่ชายทุ่ง แถวๆ เมืองบอร์กโดซ์ วันนึงขณะที่เขาเลี้ยงควาย แล้วย่องไปขโมยไวน์บอร์กโดซ์มากินแล้วเมาหลับไปนั้น ได้ฝันว่า มีบร๊ะเจเซิร์สมาเข้าฝัน บอกว่า งวดนี้ 78 วางโต๊ดให้หนักๆ และอย่าลืม ไปสู้เพื่อชาวบริสต์สเตียน เอากรุงเยรูฮาร็มคืนมา แล้วงวดหน้าจะมาบอก 6 ตัวตรง

สตีเฟ่นตื่นขึ้น เขาตกใจมาก นําความนี้ไปบอกพ่อแม่ถึงความฝันทั้ง2อย่างที่ บร๊ะเจเซิร์สบอก พ่อแม่ของสตีเฟ่น ไม่รอช้า เดินทางไปยังรัฐวาติกันในทันที เพื่อนําเลข 78 ไปเล่นแทงหวย ซึ่ง บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเป็นเจ้ามือทั่วยูหลบในสมัยนั้น

ส่วนการไปสู้เพื่อชาวบริสต์เตียน กอบกู้กรุงเยฮูราฮาแร็ม จึงเป็นหน้าที่ของเด็กๆ โดยปริยาย

เรื่องราวของสตีเฟ่น เป็นที่สนใจของพวกคลั่งสาสนา ประกอบกับมีคัมภีร์ใบเลิฉบับใหม่ ที่อ้างว่า "เสียงจากปากเด็กอ่ออนเป็นคําสรรเสริญอันแท้จริง" เด็กๆจากฝรั่งเศสราวๆ 3 หมื่น จึงเดินทางไปที่เมืองท่ามาร์แซล เพื่อหวังลงเรือไปกรุงแยรูฮาแร็ม แต่เนื่องจากไปแล้ว ไม่มีเรือไป พวกพ่อค้าหัวใสแถวๆ นั้นเลยหลอกลงเรือพาไปขายจนหมด

ชายพาไปขายถั่วดํา หญิงพาไปขายถั่วแดง ไม่ก็พาไปขายเป็นทาส ได้ทั้งถั่วดํา และ ถั่วแดง

  • สรุป กลายเป็นว่า สตีเฟ่น พาเด็กๆเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ทั้งชายหญิง ไปขายถั่ว ส่วนที่รัฐวาติกันบร๊ะซานต้าป๊ะป๋า งวดนั้น ไม่ออก 78 เจ้ามือกินรวด

กรุงเยรูฮาแร็ม ชาวแขกก็ยังปกครองเหมือนเดิม

สงครามครูเสดครั้งที่ 7[แก้ไข ]

ดยุกแห่งออสเตรีย ร่ําลาเมียก่อนออกรบ
Cquote1.png อินโนเซนต์สั่งลุย & 2 กษัตริย์ห้าว
นู๋ทําไปเพราะความเมา Cquote2.png

สงครามครูเสด ครั้งที่ 7 ระหว่างปี 1248 - 1254 แฟนๆยังจํา บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ที่ 3 ได้มั้ย คนที่ประกาศศึก ครั้งที่ 5 คราวนี้ ครั้ง ที่ 7 ที่นครวาติกัน บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ ที่ 3 เจ้าเดิม สั่งประชุม กษัตริย์จากแคว้นต่างๆในยูหลบ ปรึกษากันว่า จะทวงคืนกรุงเยรูฮาแร็ม กลับมาให้ชาวบริสต์เตียนได้ยังไง?

ดยุกแห่งออสเตรีย และ บาวาเรียน ขาห้าว ประกาศอาสานําทัพครูเสด ทวงกรุงเยรูฮาแร็ม กลับมาให้จงได้ บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าอินโนเซนต์ ประทับใจในความห้าวของผู้นําทั้ง 2 อย่างยิ่ง ถึงขนาดยกแก้วไวน์ ยกชนกัน เมาแทบหัวทิ่ม จึงคะเนได้ว่า ครั้งนี้ไปรบเพราะความเมา

กองทัพครูเสดใช้แผนเดิมๆ ในการบุกอีกตามเคย คือ ยกทัพจาก นครวาติกัน และอีกทัพ ทางทะเล มาพบรักกันที่กรุงไคโร ดินแดนของอียิปต์

นักรบชาวแขกไม่รอช้า เร่งระรมพวกมารับมือ ยังจํา สัยฟัดตรีนส์ ลูก ซาลาดิน ได้มั๊ย เขาเป็นนักรบผู้เก่งกาจของฝ่ายแขก เมื่อสงครามครูเสดครั้งที่ 4 สัยฟัดตรีนส์ ยกทัพมาช่วย (削除) แต่เสือกตายกลางทางซะก่อน (削除ここまで)แต่กลับป่วยเสียชีวิตด้วยโรค เอดส์ แต่ดันให้เขียนในประวัติศาสตร์ไปว่ามาลาเรีย

เมื่อผู้นําสัยฟัดตรีนส์ตาย ทัพหนุนของแขกก็มาไม่ถึง อียิปต์ก็ต้องรับศึกเพียงลําพัง พวกครูเสดก็ล้อมอยู่ 18 เดือน ก็ตีได้ ลูกชายสัยฟัดตรีนส์ ชื่อ อัล-กามิล กับ อัล-มุซาม อีซา ขอสงบศึกกับกองทัพครูเสด โดยเสนอ ยกเมืองต่างๆ ที่ซาลาดิน ปู่ของตนเคยตีได้ ยกให้ครูเสด

ดยุกแห่งออสเตรีย ผู้นําทัพเพิ่งยึดอียิปต์ได้ จิตใจกําลังฮึกเหิม ดูรายชื่อเมืองที่ฝ่ายแขกจะยกให้ รู้สึกเป็นแค่เมืองเล็กๆ จึงไม่ยอมสงบศึก ฝ่ายนักรบแขกซลาตัน จึงใช้ไม้เด็ด พังเขื่อนกั้นน้ําเข้าท่วมกองทัพครูเสด ค่ายทหาร เสียง อาวุธ สูญเสียไปอย่างมาก สุดท้ายกลายเป็นกองทัพครูเสดที่ต้องทําสัญญาสงบศึกซะเอง มันงามหน้าแท้ๆ

  • สรุป กองทัพของครูเสดของดยุกแห่งออสเตรีย และบาวาเรียน พ่ายแพ้แบบเสียหน้า ดับความห้าวของทั้งคู่ ต้องกลับยูหลบอีกตามเคย ดยุกแห่งออสเตรียขาดทุนหน่อย กลับมารบก็แพ้ คงโดนเมียด่าไปอื้อ

สงครามครูเสดครั้งที่ 8[แก้ไข ]

บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเกรเกอรร์รี่ที่10 ผู้สั่งแบนกษัตริย์เฟเดอร์ริก ข้อหาฉายเดี่ยว
Cquote1.png ชิงบัลลังค์ราชวงศ์แขก
บริสต์ต์ส้มหล่น ได้เมืองฟรี Cquote2.png

สงครามครูเสดครั้งที่ 8 (ปี 1270) เกิดการแย่งอํานาจหักเหลี่ยมโหดกันเอง ในเชื้อบร๊ะวงศ์ชาวแขก เหตุเริ่มที่ อัล-มาลิด กับ อัล-กามิล สองพี่น้องเมื่อตะกี้ (ครูเสดครั้งที่ 7) คนน้อง อัล-กามิล คิดอยู่ นานสองนาน อยากเป็นใหญ่เหนือคนนับแสน แต่ดันต้องมาก้มหัวให้พี่ชาย แบบนี้ต้องก่อกบฎสิวะ จึงแอบบไปทําสัญญาใต้โต๊ะ กับกษัตริย์เฟเดอร์ริกที่ 2 ซึ่งเป็นบริสต์เตียน

Cquote1.png ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร แขกรู้คํานี้ดี Cquote2.png

ในสัญญาใต้โต๊ะนั้น ใจความว่า จะยกกรุงเยรูฮาแร็มและเมืองบริวาร ให้กองmyrครูเสด ชาวบริสต์สและชาวซลาตัน สามารถมาแสวงบุญได้โดยเสรี ห้ามมีเรื่องเหยียบตรีนส์กันเหมือนสมัยนักบุญปีเตอร์ ซึ่ง 2 ฝ่าย ต่างตกลง

ปี บ.ศ. 1229 กษัตริย์เฟเดอร์ริกที่ 2 ก็ยกกองทัพครูเสดเพื่อมายึด กรุงเยรูฮาแร็ม ตามสัญญา น่าแปลกที่ว่า ครูเสดครั้งนี้ เป็นการยกมาเอง บร๊ะซานต้าป๊ะป๋าเกรเกอรร์รี่ที่ 10 ที่ นครวาติกัน ยังไม่ทันรู้เรื่อง กว่าจะรู้ตัวอีกที กษัตริย์เฟเดอร์ริก ก็พากองทัพวิ่งหายหัวไปถึงซีเรียแล้ว กษัตริย์เฟเดอร์ริกให้คนรับใช้มาบอกบร๊ะซานต้าป๊ะป๋าว่า (削除) ของฟรีต้องรีบไปสิวะ (削除ここまで)พระองค์ต้องรีบไปตามสัญญา

เมื่อสัญญานี้เป็นที่ทราบแก่คนทั่วไป ทั้งบริสต์เตียน และ ซลาตันชาวแขก ต่างก็ไม่พอใจ เพราะใครๆ กHอยากเป็นผู้ครอบครองฝ่ายเดียว คนอื่น ห้ามแจม บร๊ะสันตะปาปาเกรเกอรร์รี่ที่ 10 โกรธจนเต้นผาง เพราะกษัตริย์เฟเดอร์ริกแอบยกทัพไปเอก(削除) แมร่งเอ๊ยไปไม่บอกกูเลย (削除ここまで) ไม่บอกบร๊ะองค์เลย จึงสั่งขับกษัตริย์เฟเดอรร์ริกออกจากบริสต์สเตียน

ต่อมา กามิล คนที่เขียนสัญญายกกรุงเยรูฮาแร็ม ให้กษัตริย์เฟเดอร์ริกเมื่อครั้งก่อน ก็เท่งทึงลาโลก เพราะใช้หม้อเกินขนาด

  • สรุป กษัตริย์เฟเดอร์ริก ที่ 2 ครอง กรุงเยรูฮาแร็ม ตาม สัญญาที่ กา-มิล ยกให้ ได้แค่ 10 ปี 6 เดือน 10 วัน ลูกชายของ กามิล คนโต ชื่อ วูด

ก็พากําลังทหารแขก บุกโจมตีเอากรุงเยรูฮาแร็ม กลับไปจนได้

สงครามครูเสดครั้งที่ 9[แก้ไข ]

เจงกีสข่าน ผู้อุตส่าห์ยกทัพมาค่อนโลกเพื่อตีเมืองแขก
Cquote1.png ใครว่าแขกไม่มีบูเช็กเทียน
บริสต์กับแขกไม่ได้รบเพราะมองโกลมา Cquote2.png

สงครามครูเสดครั้งที่ 9 พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ของ ฝรั่งเศสนํากองทัพครูเสดมาทางเรือ และยึดได้เมืองดิมยาร์ด จากนั้นก็ด้อมๆมองๆดูลาดเลาพวกนักรบแขก ซึ่งได้ข่าวว่าชิงอํานาจกันอีกแล้ว เพราะราชวงศ์แขกตอนนั้นพวกตัวเก๋าๆ ทั้งหลายก็แก่ตายไปมั่ง (削除) เป็นเอดส์ (削除ここまで)ป่วยตายไปมั่ง เหลือก็เพียงรุ่นหลาน ต่อมา เชื้อพระวงศ์แขก รุ่นหลาน นาม ตุรอนซา ได้ข่าวว่าพ่อตาย จึงเดินทางกลับจากดินแดนเมโสโปเตเมีย (ในปัจจุบันคือบ้านเกิดซัดดัม ตรงแม่น้ําไทกริส ยูเฟรติส ที่อิรัก) ตุรอนซา กะว่าเสร็จงานศพ ตนก็ครองราชย์ต่อ กําไรเห็นๆ เมื่อ ตุรอนซากลับมาที่ พระราชวังแขก เพื่อจะมาประกอบพิธีศพ ที่ไหนได้ ถูกแม่เลี้ยงของตนชื่อ นางชะญัร สั่งลอบฆ่า ตุรอนซา มางานศพ เลยกลายเป็นศพไปอีกคน

นางชะญัรเลยสถาปนาตัวเองเป็นราชินิซลาตัน ตั้งราชวงศ์มาเมลุคกะ ปกครองต่อมาอีก 40ปี ต่อมา หลานราชวงศ์นี้ ดันไปตีกันเอง ราชวงศ์เลยล่มอีกตามเคย แล้วก็ตั้งราชวงศ์ใหม่ นามราชวงศ์มูฮัมหมัดอาลี (ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักมวยฉายาสิงห์จอมโวแต่อย่างใด)

ราชวงศ์นี้ปกครองประชาชนชาวแขก ปกป้องกรุงเยรูฮาแร็มจากพวกบริสต์สเตียนที่ขยันเอาดาราหน้าใหม่ วนเวียนมาทําสงครามอยู่เนืองๆ

Cquote1.png การมาของเจงกีสข่าน
มาทีหลังแต่พี่หรอย รบแหลก Cquote2.png

บ.ศ. 1242 เจงเจสข่านกําลังคึกสุดขีด ควบม้ามาตั้งแต่มองโกลเลีย จนถึงกรุงแบกแดด โดยไม่เมื่อยตรูดเลย กองทัพมองโกลบุกกรุงแบกแดด เผาเมือง และกระดาษเงิน กระดาษทอง เผานั่นเผานี่ กองทัพมองโกลมา ไม่รู้ว่าแถวนี้เขารบครูเสดเพื่ออะไร เพราะมาเป็นมือที่ 3 เจอบริสต์สรบบริสต์ส เจอ แขก รบ แขก รบมั่วไปหมด

  • สรุป สุดท้าย พลังแขกก็ยังป้องกันกรุงเบรูฮาแร็ม และ กองกําลังของเจงกิสข่านได้ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพคางเหลือง ส่วนพวกบริสต์เตียน เจอเจงจิสข่าน ก็มัวแต่พะวงหน้าหลัง ไม่ได้รบกับแขกแบบถนัด การรบบริสต์เตียนกับ ซลาตันครั้งนี้ จึงเรียกว่า ศึก 3 เส้า

สงครามครูเสดครั้งที่ 10[แก้ไข ]

พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 และพระเจ้าเฟเดอร์ริก ชวนกันลงแขกศึกครั้งที่ 10
Cquote1.png พระเจ้าหลุยส์ที่9
พี่หลุยส์พาเพื่อนรบ Cquote2.png

สงครามครูเสด ครั้งที่ 10 เป็นเหตุสืบต่อจากครั้งที่ 9 ครั้งนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส หลังจากไปตีกรรเชียงอ้อมค่าย แถวๆกรุงเยรูฮาแร็มมาก็นาน ครั้นจะตี ก้ไม่ได้ตี เพราะไหนจะกองทัพแขก ไหนจะกองทัพเจงกิสข่าน ต้องรอทัพใดทัพหนึ่งหายไปซะก่อน ถึงจะได้ตีแบบถนัดๆ

เป็นโชคดีของพี่ตุ๋ย อิทธิพล ของเจงกีสข่านได้อ่อนแรง กองทัพมองโกลเริ่มหายหน้าหายตา บร๊ะองค์นึกถึง วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ ของ กษัตริย์รุ่นปู่พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ที่สมัยก่อนมาตีกองทัพแขกกับพระเจ้าคอนราดที่ 3 แห่งเยอรมัน (ครูเสดครั้งที่2) แต่ที่ไหนได้ แพ้กระเจิงตั้งแต่ยังไม่ทันเห็นหลังคากรุงเยรูฮาเร็ม

พระองค์คิดแล้วมันแค้นใจ หวังว่าศึกครั้งนี้จะไปล้างอาถรรพ์แทนรุ่นปู่ให้จงได้ กษัตริย์หลุยส์ที่ 9 จึง เข้าเฝ้าบร๊ะสันตะปาปา ให้ อภัยโทษพระเจ้าเฟเดอร์ริกที่ 2แห่งเยอรมัน ให้กลับเข้าบริสต์สเตียนอีกครั้ง (โดนไล่ออกในศึกครั้งที่8)

พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส เดินทางกลับทวีปยูหลบ และขอให้โป๊ปอภัยโทษให้พระเจ้าเฟเดอร์ริกที่ 2 ของเยอรมัน ใน ปี บ.ศ. 1270 บร๊ะองค์ได้ทรงชักชวนให้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ของอังกฤษ มาร่วมทําสงครามครูเสดอีก แต่พระเจ้าหลุยส์ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคราคาถูก (โรคละบาทสองบาท) ที่เมืองคาร์เธจเสียก่อน

  • สรุปกองทัพครูเสดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 และพระเจ้าเฟเดอร์ริกที่ 2 ของเยอรมัน ที่เพิ่งพ้นโทษแบนของบร๊ะซานต้าป๊ะป๋า รบตีกรุง เยรูฮาแร็มอยู่นาน

แต่ก็สู้พลังความ อึด ถึก ทรหด ยิ่งกว่าคูโบต้าของฝ่ายซลาตันไม่ไหว กองทัพบริสต์สเตียนเลยต้องถอย

สรุปสงคราม[แก้ไข ]

Cquote1.png อะไรๆมันก็ดีขึ้นหลังสงครามสงบ Cquote2.png
  1. มีการเก็บเงิน พวกอัศวินที่เคยไปรบ แล้วรอดกลับมาได้ บางคนไปแบบนู๋ขอแจมไปด้วย ขากลับ กลายเป็นอัศวิน มียศ มีทองคํา ก็เอาทรัพย์สินเหล่านี้ เก็บเป็นส่วนกลาง ไว้ซ่อมบ้านเมือง
  2. แลกเปลี่ยนวิทยาการ บริสต์เตียนเพิ่งรู้วิธีการทํากังหันโรงสีข้าว หรือ กังหันวิดน้ําเข้าไร่นา จากซลาตัน
  3. มีการสํารวจรังวัดอาณาเขตกันใหม่ เพราะตอนสงคราม รบมั่วไปหมด วันนี้เป็นของบริสต์ส พรุ่งนี้เป็นของชาวแขก จะได้ไม่ต้องมาเถียงกันทีหลัง จากการสํารวจนี้ โลกก็ได้รู้จักนักสํารวจที่ชื่อ มาโคโปโล
  4. นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ต้องมีใจเมตตา รู้ไหมว่า ซาลาดินผู้นําทัพของซลาตันอันเกรียงไกร ได้ยกทรัพย์สินเพื่อการกุศล สร้างหอสมุด โรงพยาบาล สถาเลี้ยงเด็กกําพร้าจากผลของสงครามอย่างมากมายตอนตาย มีเงินติดตัว แค่ 35 ดิน่า ม้า 1 ตัว ชุดเกราะ ดาบ 1เล่ม ทอง 1 แท่ง เท่านั้น
  5. ครูเสดครั้งที่ 3 กษัตริย์ริชาร์ด ใจสิงห์ รบกับ ซาลาดิน มีอยู่ครั้งหนึ่ง กองทัพของกษัตริย์ริชาร์ด เพลี่ยงพล้ํา อาวุธ เสบียง โดนทําลายไปมาก เมื่อต้องไปรบติดพันกับซาลาดิน กษัตริย์ริชาร์ด ต้องขี่ม้าแกลบออกไปรบ (ม้าศึกดีๆแทบไม่มี ตายจะหมดแล้ว) ซาลาดินจึงส่งม้าอาหรับชั้นดีไปให้ พร้อมกับบอกว่า ไม่เหมาะที่กษัตริย์จะออกรบด้วยม้าเช่นนั้น กษัตริย์ริชาร์ดยอมรับม้าตัวนั้นไว้ และ เมื่อกษัตริย์ริชาร์ดป่วยขณะรบ ซาลาดินรู้ข่าว จึงสั่งพักรบด้วย เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบ แล้วให้คนเอาสมุนไพรและยาชั้นดี ไปรักษากษัตริย์ริชาร์ด ทั้ง 2 ฝ่ายจึงให้เกียร์ติแห่งนักรบเสมอมา
  6. หลังจากครูเสดครั้งที่ 3 ริชาร์ด จึงไม่ปรานาจะรบ ซึ่งพระองค์และ ซาลาดิน ต่างเข้าใจสัจธรรมที่แท้จริงของสงครามว่าเป็นเช่นไร
  7. ส่วนน้องๆกษัตริย์ แคว้นอื่นๆ ก็ยังรวมดาราหน้าไปบุกแบบหัวกระไดไม่แห้ง
  8. ครั้งที่ 2 และ ครั้งที่ 10 เกี่ยวเนื่องกัน พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 แพ้นักรบแขก ตั้งแต่ยังไม่เห็นหลังคา กรุงเยรูฮาแร็ม ส่วนครั้งที่ 10 พระเจ้าหลุยส์ที่ 9

กะว่าจะไปแก้มือแทนปู่ (หลุยส์ที่ 7) แต่ก็ต้องกินแห้วเหมือนเดิม


แล้วต่อจากนั้นอีกหลายร้อยปี จู่ๆพวกชาวยิวมาจากไหนก็ไม่รู้ มาตั้งประเทศล้อมรอบกรุงเยรูฮาเร็มคาบพุงปลามันที่ทั้งสองฝ่ายรบมาร่วมสองร้อยปีไปซะฉิบ

สร้างเป็นภาพยนตร์[แก้ไข ]

[フレーム]

บทความที่เกี่ยวข้อง[แก้ไข ]

รับข้อมูลจาก "https://th.uncyclopedia.info/index.php?title=สงครามครูเสด&oldid=320635"